ฟุตบอลทีมชาติไทยเกมแรกภายใต้การคุมทีม มิโลวาน ราเยวัช เริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลา 22.00 น. ของค่ำคืนวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยนักเตะอย่างเควิน ดีรมรัมย์, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว และพรรษา เหมวิบูลย์ ซึ่งติดทีมชาติเป็นครั้งแรกได้รับโอกาสเป็นตัวจริงในเกมอุ่นเครื่องตามตารางของฟีฟ่าเดย์ในครั้งนี้ ผลการแข่งขันทีมชาติไทยบุกไปแพ้ให้กับอุซเบกิสถาน 2-0 โดยการเสียประตูเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังทั้งหมด
ภาพประกอบ: Nisakorn Rittapai
ขันน็อตเกมรับทีมชาติไทย
เกมนี้ราเยวัชทำผลงานได้อย่างดีด้วยการจับคู่กันครั้งแรกของเฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว และพรรษา เหมวิบูลย์ ซึ่งในช่วงระหว่างเกมจะเห็นได้ชัดว่ากองหลังทั้ง 4 คนไม่ได้บุกขึ้นไปช่วยทำเกมรุกเหมือนสมัยก่อน แต่จะใช้บอลยาวเป็นตัวช่วย
ด้านซัมเวล บาบายาน กุนซือทีมชาติอุซเบกิสถานวัย 46 ปี ได้ออกมาให้สัมภาษณ์หลังเกมว่าทีมชาติไทยชุดนี้มีการเล่นที่เป็นระเบียบวินัย ต่างจากช่วง 2-3 ปีก่อน ซึ่งเขาเชื่อว่าส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะโค้ชคนใหม่อย่างมิโลวาน ราเยวัช
โดย 2 ประตูที่เสียนั้นเกิดขึ้นจากความไม่เข้าใจกันระหว่างกองหลังและผู้รักษาประตู ซึ่งจุดนี้ราเยวัชต้องกลับไปแก้ไข พร้อมปรับจูนผู้เล่นแนวรับชุดนี้กับกวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของไทย ธีราทร บุญมาทัน, อดิศร พรหมรักษ์ และทริสตอง โด ของเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่งไม่ได้เดินทางมาอุ่นเครื่องด้วยในครั้งนี้
ส่วนฟอร์มของเควิน ดีรมรัมย์ ในเกมรับถือว่าสอบผ่าน และอาจจะได้ก้าวขึ้นเป็นตัวจริงทีมชาติไทยเพื่อเปิดโอกาสให้อุ้ม-ธีราทร บุญมาทัน ได้เปลี่ยนตำแหน่งเล่น เนื่องจากเจ้าอุ้มมีศักยภาพพอที่จะสามารถช่วยเกมรุกทีมชาติไทยในตำแหน่งปีก
ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ตามประกบ อซิสเบ็ค เคย์ดารอฟ นักเตะของอุซเบกิสถาน
ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ Box-to-Box ที่รอคอย
การกลับมาติดทีมชาติไทยในรอบ 2 ปีของฐิติพันธ์ครั้งนี้ถือว่าทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยม โดยจุดเด่นที่เห็นได้ชัดคือความทุ่มเทที่พร้อมจะวิ่งตลอดเวลาช่วงที่อยู่ในสนาม ถือว่าช่วยทีมชาติไทยได้ทั้งเกมรุกและเกมรับ และเชื่อว่าจะกลับมาเป็นตัวเลือกอีกครั้งในทีมชาติไทย
เกมรุกที่ไม่ลงตัว
บทวิเคราะห์นี้เรามองจากเกมแรก ซึ่งไม่มีกำลังสำคัญในเกมรุกอย่างธีรศิลป์ แดงดา, อดิศักดิ์ ไกรษร และชนาธิป สรงกระสินธ์ ของเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่โค้ชราเยวัชตัดสินใจให้พักแข้งหลังจากลงแข่งขันติดต่อกันหลายเกมในสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยในแดนกลาง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ถือว่าประสานงานกันได้ดีจากความคุ้นเคยที่ลงเล่นด้วยกันให้กับทีมกว่างโซ้งมหาภัย เชียงราย ยูไนเต็ด
นูรูล ศรียานเก็ม จังหวะกระชากหนีกองหลังอุซเบกิสถาน
ขณะที่ผู้เล่นในแนวรุกอย่างนูรูล ศรียานเก็ม และชุติพนธ์ ทองแท้ ก็ทำหน้าที่ในเกมรุกได้ดีทั้งคู่โดยมีโอกาสทำประตูให้กับทีมชาติไทยได้หลายครั้ง ขณะที่สิโรจน์ ฉัตรทอง แม้จะมีรายงานว่าราเยวัชต้องการปั้นให้เป็นศูนย์หน้า เนื่องจากมีรูปร่างที่แข็งแกร่ง แต่เกมนี้ก็ยังขาดความเด็ดขาดในการจบสกอร์ ซึ่งจุดนี้ราเยวัชจำเป็นต้องไปปรับทัพใหม่ในเกมรุกก่อนพบกับยูเออี
สิโรจน์ ฉัตรทอง มีโอกาสยิงประตูหลายครั้ง แต่ยังไม่สามารถจบสกอร์ได้
วิเคราะห์ภาพรวม เกมรับสอบผ่าน แต่มีปัญหาจบสกอร์
ภาพประกอบ: Karin Foxx
เกมรับไทยถือว่าสอบผ่าน ขณะที่เกมรุกถึงแม้ว่าจะใช้บอลยาวหลายครั้ง แต่ก็แสดงให้เห็นถึงการเลือกใช้แท็กติกมากกว่าที่จะใช้ทักษะและความเข้าใจกันของนักเตะเหมือนเมื่อก่อน แต่เปอร์เซ็นต์การครองบอลถือว่าสูสีที่ 49 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงมีโอกาสยิงถึง 6 ครั้ง และได้ลูกเตะมุมอีก 9 ครั้ง ซึ่งสิ่งที่ขาดเพียงอย่างเดียวคือความแม่นยำในการยิงประตูและความเข้าใจกันของนักฟุตบอลทั้งชุด
น่าสนใจว่าต่อจากนี้ราเยวัชจะปรุงทัพอย่างไรให้ได้รสชาติกลมกล่อมสำหรับการตั้งทัพรับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบที่ 3 ในวันที่ 13 มิถุนายนนี้ แต่สิ่งสำคัญที่เราได้เห็นคือทัพนักเตะทางเลือกใหม่ที่จะช่วยให้ทีมชาติไทยสร้างมิติใหม่ให้แฟนบอลทีมชาติไทยได้เห็นในวันที่ 13 นี้อย่างแน่นอน
มิโลวาน ราเยวัช กับการคุมทีมชาติไทยลงสนามครั้งแรกกับอุซเบกิสถาน
โดยหลังเกม ราเยวัชก็ได้ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า เป้าหมายใหญ่คือการสร้างอนาคตให้กับทีมชาติไทยในทุกรายการที่ลงแข่งขัน และจะพยายามต่อสู้กับทีมชั้นนำของเอเชียในอนาคตให้ได้
“เป้าหมายหลังจากนี้คือการสร้างอนาคตใหม่ของทีมชาติไทยทุกทัวร์นาเมนต์ ทั้งฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกครั้งถัดไป และเอเชียนคัพครั้งที่จะถึงนี้ เราพยายามสร้างทีมเพื่อสู้กับทีมระดับท็อปของเอเชีย เรามีโอกาสหลายครั้งในการทำประตู แต่เราก็จบสกอร์ไม่ได้ เราต้องเอาความผิดพลาดจากวันนี้ไปต่อยอดและสามารถสู้กับทีมชั้นนำในเอเชียในอนาคตได้”
สำหรับเกมต่อไป ฟุตบอลชายทีมชาติไทยจะทำการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชียรอบ 3 กลุ่มบี นัดที่ 8 พบกับทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เวลา 19.00 น.
Photo: FA Thailand