ปาเกียวถึงเวลาแขวนนวมหรือยังหลังแพ้ช็อกโลกให้กับอดีตครูพละ?

จากไฟต์ที่ไม่มีแฟนกีฬาคาดหวังอะไรเท่าไรนักจากการโคจรมาพบกันของ แมนนี ปาเกียว แชมป์โลก 8 รุ่น ชาวฟิลิปปินส์ วัย 38 ปี มาพบกับ เจฟฟ์ ฮอร์น นักชกชาวออสเตรเลียวัย 29 ปี ผู้มีประสบการณ์ชกในโอลิมปิกปี 2012 และชกมา 17 ครั้ง ชนะ 16 เสมอ 1 ศึกไฟต์นี้เกิดขึ้นที่ ซันคอร์ป สเตเดียม เมืองบริสเบน ในประเทศออสเตรเลีย ภายใต้เสียงเชียร์ของแฟนมวยกว่า 50,000 คน

Photo: Jeff Horn/facebook

แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น โดย เจฟฟ์ ‘เดอะ ฮอร์เน็ต’ ฮอร์น อาศัยความหนุ่มไล่ต้อนแชมป์โลก 8 สมัย ตั้งแต่ยกแรกๆ ถึงแม้ว่ายอดมวยจากฟิลิปปินส์จะตอบโต้ได้บ้างในช่วงยกที่ 8 เป็นต้นไป แต่สุดท้ายพอเสียงระฆังดังขึ้น กรรมการกลับชูมือให้กับนักชกออสซีไปด้วยคะแนน 3 เสียงรวด 117-111, 115-113 และ 115-113 และคว้าแชมป์เวลเตอร์เวตขององค์กรมวยโลก หรือ WBO ไปครอง

ใบคะแนนการชกระหว่าง แมนนี ปาเกียว กับ เจฟฟ์ ฮอร์น

Photo: @kevinl/twitter

ซึ่งหลังการชก ปาเกียวก็ออกมายอมรับคำตัดสินของกรรมการ ถึงแม้หลายคนจะมองว่าค้านสายตา เนื่องจากปาเกียวสามารถออกอาวุธได้เข้าเป้าในช่วงยกท้ายๆ แต่หลังจากมีการเปิดเผยสกอร์การ์ด หรือบัตรให้คะแนนของกรรมการ หลายฝ่ายก็ยอมรับผลการตัดสิน เนื่องจากผลคะแนนสามารถอธิบายผลงานในแต่ละยกของทั้งคู่ได้หมด ซึ่งพิสูจน์ว่าหากปาเกียวชนะในยกสุดท้ายได้ สกอร์ของกรรมการ 2 คน จะออกมาเป็น 114-114 เท่ากัน และปาเกียวจะป้องกันแชมป์ไว้ได้

Photo: TED ALJIBE/AFP

ชีวิตของปาเกียวต่อจากนี้

แน่นอนว่าในสัญญาของปาเกียวนั้นมีไฟต์รีแมตช์กับ เจฟฟ์ ฮอร์น ในปีนี้ และคาดว่าจะชกกันที่ เอทิฮัด สเตเดียม ในเมลเบิร์น แต่ก่อนการขึ้นชกครั้งนี้ปาเกียวซึ่งมีค่าตัว 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เปรียบเทียบกับฮอร์น ซึ่งมีประสบการณ์และชื่อชั้นน้อยกว่า รวมถึงมีค่าตัวเพียง 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าเป็นไฟต์ทดสอบอนาคตของเขาในวงการมวยสากลอาชีพ โดย เฟรดดี้ โรช เทรนเนอร์คู่บารมีปาเกียว ให้สัมภาษณ์ว่า

“ฮอร์นอาจจะทำแผนเราพังได้ เพราะปาเกียวอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องชนะเท่านั้น ปาเกียวต้องการรีแมตช์กับฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์” โรชกล่าวกับสำนักข่าว AP ในออสเตรเลีย

“และการจะขึ้นชกกับเมย์เวทเธอร์ได้ คุณต้องอยู่ในฟอร์มที่แข็งแกร่งเวลาขึ้นชก ซึ่งถ้าไฟต์นี้ปาเกียวชนะ แต่ด้วยความยากลำบาก เราอาจจะต้องพิจารณาการแขวนนวม เรารู้ว่าเราใกล้ถึงเวลานั้นแล้ว และถ้าเขามีปัญหาในไฟต์นี้ มันก็คือจุดจบ”

เฟรดดี้ โรช เทรนเนอร์คู่ใจแมนนี ปาเกียว ที่ร่วมงานกันมาตั้งแต่ปี 2001

Photo: JOHN GURAZISKI/AFP

ขณะที่ บ็อบ อารัม โปรโมเตอร์คนดังแห่งท็อปแรงก์ ของปาเกียว ออกมาระบุว่า ยังไม่ทราบการตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของอดีตแชมป์โลกชาวฟิลิปปินส์ เนื่องจากปาเกียวอาจจะตัดสินใจแขวนนวมและไปเล่นการเมืองแบบเต็มตัว ซึ่งตอนนี้อารัมเชื่อว่ายังไม่ใช่เวลาที่ต้องไปถามปาเกียว

ปาเกียวจับมือกับประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต ของฟิลิปปินส์ ในระหว่างการประชุม เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2017

Photo: MANMAN DEJETO/AFP

หันหลังให้เวทีคาดเชือกมาลุยเวทีการเมือง?

กลางปี 2010 ปาเกียวได้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดซารังกานี ในการเลือกตั้งทั่วไป ก่อนจะได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาของฟิลิปปินส์ จากผลการเลือกตั้งใหญ่ทั่วประเทศของฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ปี 2016 ทำให้ปาเกียวต้องรับหน้าที่รับใช้ประชาชนฟิลิปปินส์ และ ในขณะเดียวกันก็ตั้งใจฝึกซ้อมมวยเพื่อขึ้นชกในระดับสูง ซึ่งถือว่าเป็นงานยาก เนื่องจากการเมืองและกีฬามวยสากลอาชีพเป็นศาสตร์ที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง

ซึ่ง เฟรดดี้ โรช ได้เปิดเผยหลังการชกว่า เขาเชื่อว่าปาเกียวไม่สามารถทำได้ทั้ง 2 อย่างพร้อมกัน

“หลังจากไฟต์นี้จบลง เราต้องคุยกันเรื่องนี้ เพราะเราคิดว่าการเป็นวุฒิสมาชิกกับนักมวยอาจจะมากเกินไปสำหรับเขา

“เราไม่มีเวลาฝึกซ้อมเพียงพอในค่ายหลักของเรา และปาเกียวดูเหมือนจะไม่เต็มที่กับการฝึกซ้อม แต่เมื่อเราย้ายมาซ้อมที่เจเนอรัล ซานโตส ทุกอย่างก็ดีขึ้น เพราะปาเกียวโฟกัสกับการชกมวยอย่างเดียว

“การเป็นนักมวยเราต้องมีอะไรมากกว่านั้น เราต้องคุยกันเรื่องนี้ และดูว่าปาเกียวรู้สึกยังไง เราจะให้คำแนะนำเขาจากมุมมองของเรา

“ปาเกียวไม่ได้ชกแย่ในวันนี้ เขาทำผลงานได้ดีในบางยก แต่เขาไม่มีความสม่ำเสมอเท่าที่ผมต้องการ” โรชซึ่งทำงานร่วมกับปาเกียวมาตั้งแต่ปี 2001 ได้ให้สัมภาษณ์กับ Metro สำนักข่าวอังกฤษ หลังไฟต์จบลง

แชมป์โลก 8 รุ่น หนึ่งในยอดมวยคนหนึ่งของโลก

ถึงแม้ว่าผลการชกไฟต์นี้จะเป็นหนึ่งในไฟต์ช็อกโลกที่สุดครั้งหนึ่ง แต่ผลการชกครั้งนี้และฟอร์มที่โรยราไปตามวัยของปาเกียวไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ใช่นักชกที่ยอดเยี่ยม จากนักมวยถนัดซ้ายคนหนึ่งเมื่อปี 2001 ซึ่งประสบความสำเร็จในการชกในประเทศฟิลิปปินส์ ตัดสินใจเดินทางมาเข้ายิมของ เฟรดดี้ โรช ในปีนั้น เพื่อหาโค้ชชาวสหรัฐฯ มาช่วยพัฒนาฝีมือของเขา แต่หลังจากที่เขาทั้งสองได้ร่วมงานกันในวันนั้น โรชที่เห็นความพิเศษตั้งแต่การล่อเป้าหมัดแรก เขาก็รู้ทันทีว่านักมวยคนนี้มีทั้งพลังหมัด ความคม และความเร็วไม่เหมือนนักมวยคนไหนที่เขาเคยฝึกสอนมาก่อน ซึ่งหลังจากนั้นปาเกียวก็เริ่มต้นเส้นทางสู่ความสำเร็จ โดยคว้าแชมป์โลกได้ 8 รุ่นเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ของวงการกีฬา รวมถึงทำสถิติขึ้นชกไฟต์ประวัติศาสตร์กับ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ยอดนักชกไร้พ่ายชาวสหรัฐฯ ด้วยรายได้ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ปาเกียวพ่ายคะแนนในไฟต์ประวัติศาสตร์ให้กับฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ในปี 2015

Photo: JOHN JURZINSKI/AFP

ปาเกียวในวัย 38 ปีถือว่าเข้าสู่ช่วงท้ายของวงการมวยสากลอาชีพ ซึ่งไฟต์นี้เป็นบทพิสูจน์แล้วว่า เขาไม่สามารถประสบความสำเร็จทั้งในวงการกีฬาอาชีพ และการเมืองไปพร้อมๆ กันได้ ซึ่งหากปาเกียวยังเลือกที่จะขึ้นชกไฟต์รีแมตช์โดยเตรียมพร้อมแบบครึ่งๆ กลางๆ อย่างที่โรชได้ให้สัมภาษณ์นั้น ปาเกียวอาจจะปิดฉากอาชีพมวยสากลได้ไม่สวยนัก

อ้างอิง: