แผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ฉบับปรับปรุง หรือแผนปฏิรูปรถเมล์ ถูกดีดออกจากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายกรัฐมนตรีสั่งกลับไปเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง ท่ามกลางความขัดแย้งและการต่อรองกันในเรื่องการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา อุดมพร เอกเอี่ยม รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงนามในหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ทำหนังสือถึงกระทรวงคมนาคม ระบุว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้ส่งเรื่องแผนฟื้นฟูกิจการของ ขสมก. คืนกระทรวงคมนาคม เพื่อพิจารณาทบทวนการปฏิรูประบบรถโดยสารประจำทาง และแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. โดยให้กลับไปเริ่มต้นกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใหม่ตั้งแต่ต้น และเลขาธิการคณะรัฐมนตรียุติดำเนินการเรื่องนี้ในการเข้าสู่ที่ประชุม ครม. แล้ว
สำหรับแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. ฉบับปรับปรุง หรือแผนปฏิรูปรถเมล์ โดยกระทรวงคมนาคมได้อนุมัติแผนฉบับใหม่ และเสนอไปยัง ครม. ตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา และผ่านการพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) มาแล้ว 9 ครั้ง
สาระสำคัญของแผนประกอบไปด้วย
- การเปลี่ยนรถเมล์ใหม่ทั้งหมด ด้วยวิธีการเช่าวิ่งตามระยะทาง ขสมก. ไม่ต้องเป็นเจ้าของรถเมล์ และแยกภาระค่าบำรุงรักษาเอง
- รถเมล์ทั้งหมดเป็นระบบพลังงานสะอาด กำหนดให้ใช้เพียงพลังงานก๊าซ NGV และพลังงานไฟฟ้า EV เท่านั้น
- มีการปฏิรูปเส้นทางเดินรถใหม่ทั้งระบบ ลดการวิ่งในเส้นทางที่ซ้ำซ้อน และลดปริมาณรถเมล์บนถนน
- ค่าบริการเหมาจ่ายวันละ 30 บาทตลอดวัน ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว โดยหากซื้อเป็นรายเดือนจะมีส่วนลด และมีตั๋วแบบเที่ยวเดียวราคา 15 บาท
ขณะที่ก่อนหน้านี้แหล่งข่าวกล่าวกับ THE STANDARD ถึงความคืบหน้าของแผนฟื้นฟู ขสมก. ฉบับปรับปรุงว่า กับดักของเรื่องนี้ที่แท้จริงเป็นเรื่องการเมือง โดยระบุว่า แผนปฏิรูป ขสมก. ฉบับปรับปรุง ได้กลายเป็นเครื่องมือต่อรองภายในพรรคร่วมรัฐบาล ท่ามกลางความเห็นไม่ตรงกันในการขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวกลางที่ประชุม ครม. แผนปฏิรูปรถเมล์ได้กลายเป็นตัวประกันของเรื่องนี้ และล่าสุดการปฏิรูปรถเมล์ได้ถูกชะลอไปอย่างไร้กำหนด และถูกดีดออกจากที่ประชุม ครม. แล้วโดยปริยาย
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล