×

เปิดตำรา ‘New Normal พรีเมียร์ลีก’ ฉบับเต็ม อะไรทำได้ อะไรห้ามทำ และมีอะไรใหม่ๆ บ้าง?

16.06.2020
  • LOADING...

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเตรียมที่จะกลับมา ‘Restart’ ทำการแข่งขันกันต่อในวันพรุ่งนี้ (17 มิถุนายน) แน่นอนว่าไม่ใช่การกลับมาตามปกติแบบเดิม แต่จะเป็น ‘ความปกติใหม่’ หรือ New Normal ที่จะเป็นแนวทางในการปฏิบัติในระหว่างนี้ไปจนกว่าที่โลกเราจะหาวิธีเอาชนะโควิด-19 ได้

 

ถึงแม้ว่าแฟนฟุตบอลทั่วโลกจะพอเห็นเค้าลางของการแข่งขันฟุตบอลในยุคสมัยหลังโควิด-19 บ้างแล้ว แต่วันนี้มาลองสรุปกันให้ดูอีกทีว่าหน้าตาของเกมฟุตบอลอังกฤษที่ทุกคนรักนั้นจะมีอะไรที่แตกต่างไปจากเดิม

 

ภาพ: @PremierLeague

แนวทางการปฏิบัติของนักฟุตบอลทั้งการซ้อม รวมถึงช่วงก่อนและหลังการแข่งขัน

 

ภาพ: @PremierLeague

ในสนามจะมีการแยกพื้นที่ออกเป็น 3 โซนตามสีต่างๆ

 

ช่วงก่อนการแข่งขัน (Before the match)

  1. เกมพรีเมียร์ลีกในสนามปิดนั้นใช้ชื่อย่อเรียกกันว่า BCD (Behind Closed Doors)
  2. ภายในสนามจะมีการจำกัดจำนวนผู้ที่เข้ามาได้ไว้ที่ 300 คนในแต่ละนัด
  3. ในแต่ละสนามจะมีการแบ่งโซนออกเป็น 3 โซน 3 สีด้วยกันคือ สีแดง (Red), สีเหลืองอำพัน (Amber) และเขียว (Green)
  4. โซนสีแดงคือบริเวณสนามแข่งและอุโมงค์สนาม โซนนี้จะเปิดให้เฉพาะคนที่ได้รับการตรวงหาเชื้อภายใน 5 วันที่ผ่านมา และมีจำนวนคนที่เข้าในโซนนี้ได้ไม่เกิน 110 คน
  5. โดยก่อนที่จะมาที่สนาม ผู้เล่นและสตาฟฟ์ทุกคนในทีมจะต้องเข้ารับการสอบสวนโรคโควิด-19 และรายงานอาหารเจ็บป่วยทุกอย่าง จากนั้นทีมจะเดินทางมายังสนามในสภาพแวดล้อมที่ปลอดโรค และจะต้องรักษาระยะห่างทางสังคมในระหว่างการเดินทาง
  6. เมื่อเดินทางมาถึงสนามแล้ว ผู้เล่นจะต้องเดินผ่านเส้นทางที่มีการทำความสะอาดฆ่าเชื้อตั้งแต่ลงจากยานพาหนะมาจนถึงห้องแต่งตัว และเพื่อรักษาระยะห่างทีมจะต้องหลีกเลี่ยงการทำให้ห้องแต่งตัวนั้นแน่นเกินไป อาจจะต้องมีห้องเพิ่มเติมในกรณีที่จำเป็น
  7. ในกรณีที่สนามมีอุโมงค์เพียงแห่งเดียว ทีมเยือนจะเดินลงสู่สนามก่อน จากนั้นจะตามด้วยทีมเจ้าบ้าน แต่หากสนามไหนที่มีอุโมงค์มากกว่าหนึ่งแห่งอาจจะใช้แยกจากกันได้เลย

 

ภาพ: @PremierLeague

พรีเมียร์ลีกกลับมารอบนี้ไม่มีเด็กเก็บบอลให้ แต่จะมีการตั้งบอลไว้ตามจุดต่างๆ 10 จุดรอบสนามแทน

 

ช่วงการแข่งขัน (During the match)

  1. ผู้จากนั้นเล่นและผู้ตัดสินจะเดินทางไปยังสนาม โดยจะต้องแยกห่างจากกัน และห้ามทำการจับมือทักทายกันในอุโมงค์สนาม
  2. นักฟุตบอลที่ยังไม่ได้ลงสนามและสตาฟฟ์โค้ชจะต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา และสโมสรที่เป็นทีมเจ้าบ้านจะต้องทำความสะอาดฆ่าเชื้อทุกอย่างในสนาม อันได้แก่ ห้องแต่งตัว, ลูกฟุตบอลที่ใช้ทำการแข่งขัน, เสาประตู, ม้านั่งสำรอง และมุมธงสนาม
  3. ในระหว่างการบรรเลงเพลงประจำการแข่งขันพรีเมียร์ลีก จากเดิมที่จะยืนเป็นเรียงหน้ากระดาน ให้ยืนแถวสลับฟันปลาแทน
  4. ไม่มีการจับมือทักทายก่อนการแข่งขันตามธรรมเนียม และไม่มีการจับมือหลังการเสี่ยงทายเหรียญ
  5. บริเวณการสั่งการ (Technical Area) จะถูกขยายพื้นที่ขึ้น โดยคนที่อยู่ในพื้นที่จะต้องมีการรักษาระยะห่างด้วย
  6. บริเวณม้านั่งสำรองจะถูกขยายขึ้นเพื่อให้มีการรักษาระยะห่างระหว่างการแข่งขัน โดยสามารถใช้การเว้นที่นั่ง หรือการใช้ที่นั่งใกล้เคียงกับบริเวณม้านั่งสำรองได้
  7. ไม่มีเด็กเก็บบอลในสนาม ดังนั้นหากบอลขึ้นไปบนอัฒจันทร์ผู้ตัดสินจะตัดสินใจว่าบอลจะกลับมาใช้แข่งต่อได้โดยมีการดีเลย์หรือไม่ หากดีเลย์จะให้ใช้ลูกบอลสำรองที่ตั้งอยู่ 10 จุดรอบสนามแทน
  8. ถ้าผู้เล่นจำเป็นต้องรับการพยาบาลในสนาม เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่จะต้องสวมชุดการป้องกันการติดเชื้อ (PPE) 
  9. จะมีทีมแพทย์ได้รับอนุญาตให้อยู่ในโซนสีแดง 2 คน และทุกสโมสรจะต้องระบุชื่อสตาฟฟ์ 2 คนที่เป็นสตาฟฟ์ที่อยู่ในโซนสีแดงที่จะเป็นคนทำหน้าที่ในการหามเปล
  10. เนื่องจากการแข่งขันมีขึ้นในช่วงฤดูร้อนที่อุณหภูมิสูงกว่าปกติ ทำให้จะมีการพักดื่มน้ำ (Drink Breaks) ในช่วงครึ่งทางของแต่ละครึ่งเวลา (ราวนาทีที่ 22-23) การเบรกจะใช้เวลาไม่เกิน 1 นาที โดยผู้เล่นจะต้องดื่มน้ำจากขวดของตัวเองเท่านั้น
  11. เวลาที่ใช้พักเบรกดื่มน้ำจะถูกทดให้ในแต่ละช่วงเวลา

 

นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดอื่นๆ ที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามา อาทิ

 

ภาพ: @PremierLeague

แนวทางการปฏิบัติของผู้เล่น

 

กฎการเปลี่ยนตัวแบบใหม่

จากการที่โปรแกรมการแข่งขันมีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อสภาพร่างกายของนักฟุตบอล ทำให้พรีเมียร์ลีกอนุญาตให้มีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นได้ถึง 5 คนในแต่ละเกม จากเดิมที่ให้เปลี่ยนตัวได้ 3 คนตามการปรับกฎที่ได้รับการอนุมัติจาก IFAB

 

แต่ละทีมจะส่งชื่อตัวสำรองได้ 9 คนจากเดิม 7 คน แต่ในระหว่างเกมจะมีโอกาสเปลี่ยนผู้เล่นได้แค่ 3 ครั้งเท่านั้น ไม่นับการเปลี่ยนตัวในช่วงพักครึ่ง

 

การเปลี่ยนตัวสูงสุดต่อครั้งทำได้ไม่เกิน 3 คน

 

ผู้ตัดสิน และ VAR

ผู้ตัดสินพรีเมียร์ลีกจะมีการแยกตัวในช่วงนี้ แต่จะมีการซ้อมอย่างต่อเนื่องโดยมีการตรวจสภาพความฟิต มีการทดสอบสม่ำเสมอเหมือนนักฟุตบอล และต้องปฏิบัติตามมาตรการทุกอย่างแบบเดียวกัน

 

สำหรับผู้ตัดสิน Video Assistant Referees (VAR) จะยังปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม แต่เปลี่ยนสถานที่จากในสนามแข่งเป็นศูนย์ VAR Hub ที่ IMG Studios ในสตอกลีย์พาร์ก 

 

ข้อปฏิบัติของนักฟุตบอล (และผู้จัดการทีม)

  • ต้องรักษาระยะห่างในระหว่างการฉลองประตู
  • ห้ามจับมือกัน
  • ห้ามถ่มน้ำลาย หรือสั่งน้ำมูก
  • ต้องล้างมือทั้งก่อนและหลังจบเกม
  • นักฟุตบอลทุกคนจะต้องใช้ขวดน้ำของตัวเอง
  • หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าเป็นจำนวนมากกับคู่แข่งหรือผู้ตัดสิน
  • พยายามควบคุมการปฏิสัมพันธ์กับคู่แข่งหลังจบเกม


 

บรรยากาศแบบนี้จะเกิดขึ้นในพรีเมียร์ลีกเหมือนกัน แต่แตกต่างกันในรูปแบบ

 

การถ่ายทอดสดแบบ New Normal

จะมี ‘ลูกเล่น’ ใหม่ๆ ที่จะถูกมาใช้เพื่อสร้างบรรยากาศในการถ่ายทอดสดให้ผู้ชมทางบ้านด้วย

 

โดยถึงแม้ในสนามจะไม่มีเสียงเชียร์ของแฟนบอล แต่แฟนๆ ที่ชมทางบ้านจะได้ยินเสียงบรรยากาศในการเชียร์ที่ใช้ระบบ EA Sports Atmospheric Audio ผู้พัฒนาเกม FIFA 

 

แต่สโมสรเองก็สามารถจะฉายภาพของแฟนบอลจำนวน 16 คนขึ้นบนหน้าจอขนาดยักษ์ในระหว่างเกม ซึ่งเรียกว่า Fan Wall โดยสโมสรที่ตอบรับในเรื่องนี้แล้วคือท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ที่ยืนยันว่าจะมีการติดตั้งจอในกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในคืนวันศุกร์นี้ รวมถึงเบิร์นลีย์ที่จะติดตั้งจอในสนามเทิร์ฟ มัวร์

 

แฟนที่จะได้โอกาสขึ้นจอจะต้องร่วมสนุกกับสโมสร โดยต้องแต่งตัวชุดเชียร์เต็มยศ นั่งรอลุ้นบนโซฟา และรอว่าจะได้ลุ้นขึ้นไปปรากฏบนจอภาพหรือไม่ ซึ่งนักฟุตบอลจะได้เห็นแฟนบอลรายนั้นด้วย แต่จะได้เห็นแค่ภาพไม่มีเสียงแต่อย่างใด

 

ในกรณีที่สถานการณ์อำนวย จะมีการฉายภาพของผู้เล่นขึ้นโดยตรงจากกล้องที่ใช้จับภาพการฉลองประตูโดยเฉพาะ

 

นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งกล้องเพิ่มในอุโมงค์สนามโดยจะไม่มีการเปิดเสียง ส่วนในช่วงของการเสี่ยงทายเหรียญจะมีการเปิดเสียงสดๆ ให้แฟนๆ ได้ยินสิ่งที่มีการพูดคุยกันด้วย 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising