อะไรคือมาตรวัด ‘ความคุ้มค่า’ ของคุณเมื่อต้องจ่ายเงินหลักล้านเพื่อแลกกับรถยนต์หนึ่งคัน?
ราคา ดีไซน์ สมรรถนะ หรือความปลอดภัย ไม่มีคำตอบถูกผิด ยิ่งกับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใช้อารมณ์ในการตัดสินใจซื้อรถยนต์มากขึ้น แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของงานดีไซน์ที่สวย มีเอกลักษณ์ ตอบโจทย์การใช้งาน และเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของของชีวิตได้ ปิดจบตบท้ายด้วยราคาที่ไม่สะเทือนกระเป๋าจนเกินไปก็ถือว่าตอบโจทย์ ‘ความคุ้มค่า’ แล้ว
ท่ามกลางตัวเลือกมากมายในตลาดรถยนต์ NEW MG HS เร่งเครื่องแซงคู่แข่งจนกลายเป็นม้ามืดเบอร์ต้นในกลุ่มรถยนต์ที่ ‘คุ้มค่าในทุกมิติ’ ทั้งคุณภาพ สมรรถนะ ความอัจฉริยะ และความหรูหราเหนือระดับแบบที่ SUV แบรนด์อื่นต้องหลีกทางให้
รูปลักษณ์ที่ ‘คุ้มค่า’ หรูหราในราคาที่จับต้องได้
แม้ว่า NEW MG HS จะมาพร้อมแนวคิด ‘ELEGANCE’ นิยามของ SUV ที่หรูหราเหนือระดับ สะท้อนภาพลักษณ์ของความสำเร็จและตัวตนที่สมบูรณ์แบบของผู้ขับขี่ แต่ MG ก็ไม่ละเลยเอกลักษณ์ของ SUV ตามแบบฉบับ MG ที่ต้องการสร้างและส่งมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่า ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีทันสมัย มาครั้งนี้จึงยกระดับมาตรฐานรถ SUV ไปอีกขั้นด้วยดีไซน์ล้ำสมัยทั้งภายนอกและภายใน
ไฟเลี้ยวหน้า-หลัง แสดงผลไล่ระดับแบบ Sequential
ผสานความหรูหรากับความสปอร์ตได้อย่างลงตัว สวยสง่า สะกดทุกสายตา ตั้งแต่เส้นสายตัวถังแบบ British Shoulder Line โค้งมนสอดรับกับตัวรถ โดดเด่นสุดพลังในสไตล์ MG ด้วยกระจังหน้าที่มาพร้อมแนวคิด ‘Stella Magnetic Field’ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากกลุ่มดาวบนท้องฟ้าที่ดึงดูดเข้าหากัน ไฟหน้าโฉบเฉี่ยวแบบ LED Projector พร้อมไฟส่องสว่าง สำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights) และไฟท้ายแบบ Space Light Field เพิ่มความหรูหราด้วยไฟเลี้ยวหน้า-หลัง แสดงผลไล่ระดับแบบ Sequential
ไฟท้ายแบบ Space Light Field
วัสดุพรีเมียม ครบครันสิ่งอำนวยความสะดวก ตอกย้ำความ ‘คุ้มค่า’ ควรค่ากับนิยาม ELEGANT อย่างแท้จริง
ใครว่าความสปอร์ตกับความหรูหราจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ ความเชื่อเช่นนี้จะเปลี่ยนไปทันที หากคุณได้เปิดประตูเข้ามาเห็นภายในห้องโดยสารของ NEW MG HS ยกเครื่องวัสดุภายในให้สัมผัสนุ่ม (Soft Touch) ครอบคลุมทั้งบริเวณคอนโซลหน้าและแผงประตูทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพิ่มความพรีเมียมยิ่งขึ้นด้วยเบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้าแบบ Bucket Seat ทรงสปอร์ตคุมโทนดำ-แดง ที่มีส่วนหุ้มด้วยวัสดุ Alcantara (เฉพาะรุ่น X)
เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้าแบบ Sport Bucket Seat
ขยายความคุ้มค่าไปสู่เพื่อนร่วมทาง กับห้องโดยสารกว้างขวางนั่งสบายยิ่งขึ้น เบาะหลังปรับพับได้แบบ 60:40 พร้อมพนักพิงปรับองศาได้และที่วางแขนขนาดใหญ่ พร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone และช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง โดดเด่นด้วยไฟในห้องโดยสารแบบ Interactive Ambient Light เมื่อเปิดประตูรถยนต์จะมีแสงต้อนรับทันที ความสนุกอยู่ตรงที่สามารถปรับโทนแสงภายในห้องโดยสารได้มากถึง 64 เฉดสี หรือจะปรับเปลี่ยนแบบอัตโนมัติตามโหมดการขับขี่ก็ได้ พร้อมเพิ่มสุนทรียภาพในการเดินทางกับหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) ขนาดใหญ่ 1.1 ตารางเมตร
หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) ขนาดใหญ่ 1.1 ตารางเมตร
สิ่งอำนวยความสะดวกที่ให้มาถือว่าครบครันคุ้มค่า ตอบโจทย์ทุกการขับขี่ อาทิ หน้าจอแสดงผลที่มาตรวัดแบบ Interactive Multi-Function Display ขนาด 7 นิ้ว แสดงข้อมูลเรื่องการขับขี่ ระบบความปลอดภัย ระบบความบันเทิง และระบบนำทาง พร้อมหน้าจอหลักแบบ Smart Touch Screen ขนาด 10 นิ้ว ขับสนุกยิ่งขึ้นด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift พร้อมกุญแจระบบ Smart Key และปุ่ม Push Start นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า (Electric Liftgate) ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันดีไซน์ Sport
คุ้มค่าเกินราคา ด้วยสมรรถนะทรงพลังในแบบฉบับเทอร์โบ
พุ่งทะยานไกลดั่งใจคิดไปกับเทคโนโลยีการส่งกำลังที่เหนือกว่าจากขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 162 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตันเมตร ในรอบที่ต่ำเพียง 1,700 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยระบบเกียร์ TST (Twin Clutch Sportronic Transmission) แบบ 7 สปีด
NEW MG HS รุ่น X สามารถปรับโหมดการขับขี่ได้ถึง 4 โหมด ได้แก่ โหมด Normal สำหรับการขับขี่แบบทั่วไป โหมด Eco เพื่อการประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น โหมด Sport เพิ่มความสนุกในการขับขี่ และโหมด Custom เลือกรูปแบบการขับขี่ได้ตามต้องการ รีดขุมพลังได้แรงยิ่งขึ้นด้วยปุ่ม Super Sport บนพวงมาลัย โดยที่คุณยังมั่นใจได้ทุกการขับขี่ไปกับช่วงล่างด้านหน้าแบบ MacPherson Strut และช่วงล่างด้านหลังแบบ Multi-link ที่รองรับการขับขี่ในสภาพถนนที่หลากหลาย
ระบบเกียร์ TST (Twin Clutch Sportronic Transmission) แบบ 7 สปีด พร้อมปุ่มปรับโหมดการขับขี่
นวัตกรรมและเทคโนโลยีความปลอดภัยที่คุ้มค่าจนมิอาจประเมินราคา
ระบบความปลอดภัยมีผลต่อการตัดสินใจซื้อรถยนต์อย่างมาก NEW MG HS จึงมอบความปลอดภัยด้วยระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) ที่แข็งแกร่ง พร้อมถุงลมนิรภัย 6 จุด กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ เพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่มากยิ่งขึ้น และยังให้คุณขับขี่อุ่นใจยิ่งขึ้นด้วย ระบบความปลอดภัยเหนือระดับมาตรฐานยุโรปมากถึง 25 ระบบ แบ่งเป็นระบบ Synchronized Protection System ที่ช่วยทั้งเรื่องระบบเบรกและช่วยรักษาเสถียรภาพในการขับขี่ 14 ระบบ อาทิ ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control) ระบบลดความเสี่ยงที่จะทำให้รถพลิกคว่ำ ARP (Anti Rolling Program) ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitoring System)
ระบบความปลอดภัยครบครัน Advanced Synchronized Protection Systems ถึง 25 ระบบ
และระบบ Advanced Driver Assistance System (ADAS) ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ที่จะช่วยควบคุมการขับขี่และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ อีก 11 ระบบ แบ่งเป็น 3 กลุ่มย่อย ได้แก่ กลุ่มระบบที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา 4 ระบบ ได้แก่ ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning), ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist), ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection) และระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
กลุ่มระบบเตือนและควบคุมให้รถอยู่ในเลน 3 ระบบ ได้แก่ ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning), ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
กลุ่มระบบที่ช่วยในการขับขี่ 4 ระบบ ได้แก่ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist), ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning) และระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control)
การทำงานของระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) สามารถช่วยตรวจสอบ แจ้งเตือน และช่วยควบคุมการขับเคลื่อนรถยนต์โดยอัตโนมัติในบางส่วน (Partial Automation) ทำให้ NEW MG HS เป็นรถยนต์ที่มีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับที่ 2 ของการไปสู่ Autonomous Car ซึ่งเทคโนโลยีความปลอดภัยดังกล่าวจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่และผู้ร่วมทาง ทั้งนี้ผู้ขับขี่จะต้องไม่ละสายตาจากการขับขี่ และพร้อมที่จะควบคุมรถด้วยตนเองอยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
ตอบโจทย์สมาร์ทไลฟ์ ขับขี่สบายขึ้นกับ i-SMART
ที่สุดแล้วความสะดวกสบายก็ยังเป็นส่วนผสมสำคัญของนิยามความ ‘คุ้มค่า’ NEW MG HS จึงมอบระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่กับรถสามารถสื่อสารกันได้ เพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่ระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย ที่สามารถสั่งการระบบเครื่องเสียง ระบบปรับอากาศ เปิด-ปิดหน้าต่างฝั่งคนขับ เปิด-ปิดหลังคาซันรูฟ
ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่กับรถสามารถสื่อสารกันได้
และดูเหมือนระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART จะสร้างความประทับใจให้กับนักเดินทางได้อยู่หมัด เพราะดูจากความอัจฉริยะที่ตอบโจทย์ได้หลากหลาย อาทิ สั่งค้นหาจุดที่น่าสนใจผ่าน Navigator เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว ค้นหาร้านอาหารเด็ด สถานที่ท่องเที่ยวและโรงแรม แสดงผลการจราจร อัปเดตข่าวสารในปัจจุบันบนหน้าจอในรถ รวมไปถึงสามารถเลือกฟังเพลงผ่าน Online Music ที่มีเพลงมากมายหลายแนวให้เลือกฟัง อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบสถานะและตรวจเช็กรถได้อย่างง่ายดาย ผ่าน MG Mobile Application บนสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นการสั่งล็อกหรือปลดล็อกประตูรถ ค้นหาศูนย์บริการ ตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์ แจ้งเตือนเมื่อพบสิ่งผิดปกติ และคอยช่วยดูแลรักษาสภาพรถยนต์ด้วยการบันทึกข้อมูลการดูแลตามระยะ เมื่อถึงเวลาต้องเช็กสภาพรถยนต์ แอปฯ ก็จะเตือนคุณเอง
อ่านมาถึงบรรทัดนี้ กับราคาเปิดตัวของ NEW MG HS 1,119,000 บาท แลกกับทุกสิ่งที่กล่าวมา คุ้มค่าเกินราคาแน่นอน ลองไปพิสูจน์ความคุ้มค่ากันได้ที่โชว์รูมรถยนต์ MG ทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG Call Centre โทร. 1267 หรือที่เว็บไซต์ www.mgcars.com
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า