การเริ่มต้นชีวิตใหม่ของ เบนจามิน เมนดี้ เหยื่อตัวจริงในคดีข่มขืนที่ขมขื่น

หนึ่งสัปดาห์ที่แล้ว เบนจามิน เมนดี้ เดินออกจากศาล Chester Crown Court ด้วยสีหน้าที่สงบแต่มีหยาดน้ำตาเล็กน้อย

ผู้สื่อข่าวพยายามซักถามเกี่ยวกับผลการตัดสินของศาลที่ประกาศว่าเขารอดพ้นจากข้อกล่าวหาทั้งหมด ในคดีข่มขืน 6 คดี และคดีคุกคามทางเพศอีก 1 คดี หลังจากที่ศาลได้มีการไต่สวนมายาวนานเป็นเวลา 5 เดือนด้วยกัน

ต่อคำถามมากมายเหล่านั้น เมนดี้ไม่ได้ให้คำตอบอะไรนอกจากคำพูดเดียว

“Alhamdulillah” ขอบคุณพระเจ้า

แต่ผ่านมา 5 วันนับจากที่ได้รับการชำระมลทินจากศาล หนึ่งในคำถามสำคัญที่หลายคนอยากรู้คือ อนาคตในการเป็นนักฟุตบอลของเขา และเราจะมีวันได้เห็นเขากลับมาลงสนามอีกครั้งหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบออกมาแล้ว

เมื่อมีสโมสรที่ยินดีเปิดประตูให้การต้อนรับเขากลับสู่โลกที่เขาคิดถึงอีกครั้ง

บิดเข็มนาฬิกาย้อนเวลากลับไป เรื่องราวช่วงเวลาอันมืดมนอนธการของเมนดี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อเขาถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ร้ายก่อคดีข่มขืนหญิงสาวเมื่อ 2 ปีก่อน

ไม่ใช่เพียงแค่รายเดียว แต่มากถึง 7 รายด้วยกัน ซึ่งจำแนกเป็นการข่มขืนทั้งหมด 8 ครั้ง พยายามข่มขืนอีก 1 ครั้ง และมีการคุกคามทางเพศอีก 1 ครั้งด้วยกัน ในช่วงเดือนตุลาคม 2018 จนถึงสิงหาคม 2021

ข้อกล่าวหาทั้งหมดทำให้เมนดี้ ซึ่งเคยเป็นกองหลังที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลกเมื่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซื้อตัวมาจากโมนาโกด้วยค่าตัว 52 ล้านปอนด์ ถูกตีตราว่าเป็นจอมข่มขืนจากสังคมทันที

และนั่นทำให้อนาคตของเขาก็ดับลงตั้งแต่วันที่เริ่มทำการไต่สวนครั้งแรก เมื่อต้นสังกัดอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ไม่มีทางเลือกนอกจากการสั่งพักการเล่นของเขาไม่ให้เกี่ยวข้องกับสโมสรไว้ก่อน จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์จริง

โดยที่ระหว่างการสอบสวนตัวเขาจะไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ จากสโมสรตามสัญญาด้วย

เพื่อความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย กระบวนการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขามีการสอบสวนอย่างยาวนาน เป็นระยะเวลากว่า 2 ปี ก่อนที่จะมีการพิสูจน์ได้ว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างที่ถูกกล่าวหาจริง โดยที่มีการตัดสินว่าเขาไม่มีความผิดในบางคดีตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

ก่อนที่จะพ้นทุกข้อกล่าวหาเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (14 กรกฎาคม)

ในรายละเอียดของคำตัดสินนั้น เมนดี้มีความสัมพันธ์ทางกายกับหญิงสาวบางรายจริง แต่เขาไม่เคยใช้กำลังบังคับข่มขืนทั้งทางกายและทางใจแต่อย่างใด เขายืนยันว่า เขาถามความเต็มใจก่อนเสมอ หากหญิงสาวรายใดไม่เต็มใจก็ไม่มีการบังคับกัน

เจ้าตัวยังยอมรับต่อศาลอย่างตรงไปตรงมาว่า เขาชอบหลับนอนกับหญิงสาวไปเรื่อย และด้วยสถานะของนักฟุตบอลในพรีเมียร์ลีก ชื่อเสียงของเขาทำให้การจะหาคู่นอนไม่ใช่เรื่องยากลำบากอะไร และเขาก็มีไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบงานปาร์ตี้ ซึ่งในงานแบบนี้มีโอกาสที่จะถูกใจกันได้ง่ายอยู่แล้ว

สิ่งที่น่าสนใจคือคนที่บอกว่าเป็นเหยื่อบางรายนั้นถูกเกลี้ยกล่อมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในการขอให้ร่วมขบวนการด้วย เพราะหากเป็นพยานเหตุการณ์ก็อาจช่วยหญิงสาวรายอื่นได้ และบางรายก็ถูกกดดันจากตำรวจให้แจ้งข้อหาว่าถูกเมนดี้ข่มขืน

คล้ายกับว่าเป็นขบวนการในการป้ายสีให้เสื่อมเสีย

เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นักฟุตบอลจำนวนหนึ่งที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีที่คล้ายคลึงกัน เมื่อมีหญิงสาวที่ร่วมหลับนอนด้วยกล่าวหานักเตะเหล่านั้นว่าบังคับข่มขืนกันทางกายและใจ ซึ่งนักฟุตบอลในวงการรู้สึกว่าเป็นความพยายามในการแบล็กเมลเพื่อหวังบางสิ่งบางอย่าง เช่น เงินทอง หรือชื่อเสียงเป็นต้น

หรือแม้แต่คนรักกันอย่าง เมสัน กรีนวูด กับแฟนสาวก็กลายเป็นคดีใหญ่โตจนทำให้อนาคตของนักเตะพรสวรรค์สูงสุดคนหนึ่งของวงการฟุตบอลอังกฤษต้องดับวูบมาเป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว และไม่รู้ด้วยว่าอนาคตของเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป

วินิซิอุส จูเนียร์ สตาร์ทีมชาติบราซิลของ เรอัล มาดริด เป็นหนึ่งในนักเตะจำนวนมากที่ออกมาร่วมปกป้องเมนดี้ ภายหลังจากที่ศาลประกาศว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ โดยโพสต์ข้อความว่า “วัฒนธรรมของการทำลายชื่อเสียงได้ทำให้เกิดเหยื่ออีกคน”

ดาวเตะบราซิลยังเรียกร้องต่อสังคมด้วยว่า แล้วช่วงเวลาที่สูญเสียไปของเมนดี้ เป็นระยะเวลา 2 ปีกว่า เงินรายได้ที่หายไป จนถึงความเสียหายต่อสภาพจิตใจที่เกิดขึ้นจากการที่ต้องตกเป็นผู้ต้องหา และใช้เวลาในการเดินทางไปศาล หรือเคยต้องอยู่หลังตารางแทนที่จะได้อยู่ในสนามฟุตบอล ใครจะเป็นผู้ที่ชดใช้ให้?

เมมฟิส เดอปาย นักเตะทีมชาติเนเธอร์แลนด์จากแอตเลติโก มาดริด ก็ส่งข้อความถึงเมนดี้และทุกคนเช่นกัน “เราไม่สามารถยอมรับให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับนักกีฬาอย่างเราได้ ใครที่จะยืนหยัดให้เราในเวลาที่เราต้องการ ไม่ใช่ในเวลาที่ความเสียหายมันได้เกิดขึ้นแล้ว?”

ขณะที่ พอล ป็อกบา บอกสั้นๆ ว่า “ดีใจกับนายด้วยน้องชาย รอวันได้เจอกันในสนามนะ”

โพสต์ของนักเตะเหล่านี้ได้รับการกด ‘Like’ จากเพื่อนนักเตะด้วยกันเป็นจำนวนมาก เช่น เนย์มาร์, แจ็ค กรีลิช, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, มิราเลม เปยานิช, ฟิล โฟเดน, มาริโอ บาโลเตลลี, โธมัส เลอมาร์ และ โดมินิก โซโบสไล

แม้แต่นักข่าวฟุตบอลชื่อดังอย่าง ฟาบริซิโอ โรมาโน เองก็ด้วย

แต่แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่มีคำตอบใดจากสังคมที่จะมอบให้แก่เมนดี้

อย่างไรก็ดีแบ็กซ้ายที่เพิ่งอายุครบ 29 ปี – ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นักฟุตบอลจะอยู่ในจุดสูงสุดทั้งเรื่องสภาพร่างกายและประสบการณ์ในการเล่น – ได้พยายามที่จะเริ่มต้นชีวิตตัวเองใหม่อีกครั้ง

มีข่าวว่าเขาไปเตะฟุตบอลเล่นข้างถนนในช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว หลังได้รับข่าวดีว่าพ้นผิดทุกประการ และมีคนสังเกตว่าสภาพร่างกายของเขานั้นดูผอมเพรียวขึ้น คล้ายกับมีการดูแลสภาพร่างกายมาเป็นอย่างดี เผื่อว่าจะได้มีโอกาสในการกลับมาเล่นอีกครั้ง

L’arrivée de Benjamin Mendy, nouveau numéro 5⃣ des Merlus 🟠⚫️ pic.twitter.com/c6z8GaAgxs

— FC LORIENT 🐟 (@FCLorient) July 19, 2023

และโอกาสนั้นก็มาถึงเร็วพอสมควร เมื่อลอริยองต์ สโมสรฟุตบอลในลีกเอิง ประกาศข่าวว่าได้บรรลุข้อตกลงในการเซ็นสัญญากับเมนดี้ ซึ่งเป็นนักเตะอิสระหลังหมดสัญญากับแมนฯ ซิตี้เมื่อเดือนที่แล้ว โดยมีการเซ็นสัญญากันเป็นระยะเวลา 2 ปี

ทั้งนี้ มีหลายสโมสรที่ให้ความสนใจในตัวของเขา เพราะหากจะมองถึงเรื่องของระดับฝีเท้า การเคยเป็นกองหลังค่าตัวแพงที่สุดในโลกช่วงเวลาหนึ่งก็บ่งบอกอะไรได้มากมายพอสมควร ถึงจะไม่ได้เล่นดีเด่นนักในพรีเมียร์ลีก แต่อย่างน้อยก็มีดีกรี ‘แชมป์โลก’ กับทีมชาติฝรั่งเศสในปี 2018 ด้วย

แต่สิ่งที่เมนดี้ต้องการในตอนนี้ และหลังจากนี้คือความสงบสุขในชีวิต ที่จะไม่ต้องวุ่นวายโดยเฉพาะกับสื่ออีก

ลอริยองต์อาจไม่ใช่สโมสรที่ใหญ่หรือดีที่สุด แต่ก็น่าจะเป็นสโมสรที่สงบและให้เวลาเขาในการค่อยๆ กอบกู้ตัวเองกลับมาอีกครั้ง

โดยเฉพาะจิตใจที่แตกสลาย ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเขาจะกลับมาค้นพบความสุขเหมือนเดิมได้อีกไหม

ได้แต่หวังว่าดวงตาของเมนดี้จะมองเห็นความสุขแบบเดิมอีกครั้ง

ขอให้โชคดีกับชีวิตใหม่ และได้โปรดอย่าทำพลาดแบบเดิมอีกก็พอ

อ้างอิง: