วันนี้ (29 เมษายน) มีรายงานข่าวว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทำหนังสือถึงประธานกรรมการพิจารณาคนเข้าเมือง ที่มีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน ในช่วงปลายปี 2567 เพื่อเสนอตั้งอนุกรรมการจัดตั้งกรมกิจการคนเข้าเมือง
เนื่องจากกระทรวงมหาดไทยมีภารกิจเกี่ยวกับความมั่นคง การดูแลทุกข์สุข ความเป็นอยู่ของประชาชนตั้งแต่เกิดจนตาย ทั้งคนไทยและคนต่างด้าว ตลอดจนภารกิจในสิทธิต่างๆ ตามกฎหมายอื่นอันเป็นผลมาจากการเดินทางเข้ามาและออกไปนอกราชอาณาจักร เช่น การขอมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร การขออนุญาตทำงาน การขอมีสัญชาติไทย/การเสียสัญชาติไทย การขอมีชื่อในทะเบียนราษฎร
ทั้งนี้ ในเอกสารสำคัญจากปี 2560 ที่เพิ่งได้รับการเปิดเผย ระบุว่าคณะรัฐมนตรีเคยมีมติเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2560 ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพหลักในการพิจารณาและเสนอแนวทางการรวมภารกิจเกี่ยวกับการเข้าเมือง โดยให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 8) เป็นหน่วยงานร่างกฎหมายขึ้นใหม่ชื่อ ‘พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง’ เพื่อรองรับการจัดตั้ง ‘กรมกิจการคนเข้าเมือง’ อย่างเป็นทางการ
หนังสือจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีลงนามโดย ธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ระบุว่า กฎหมายใหม่นี้มีความจำเป็นเร่งด่วน เนื่องจากระบบการจัดการด้านคนเข้าเมืองในปัจจุบันกระจัดกระจายอยู่ในหลายหน่วยงาน ทั้งกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงแรงงาน ซึ่งส่งผลให้เกิดความซ้ำซ้อนและขาดเอกภาพ ในเอกสารยังระบุแนวทางสำคัญ 3 ประการ ได้แก่:
- เห็นชอบในหลักการให้รวมภารกิจเกี่ยวกับคนเข้าเมืองจากหลายหน่วยงานมาไว้ภายใต้หน่วยงานเดียว โดยให้มหาดไทยเป็นแกนกลาง
- ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ร่างพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองฉบับใหม่ และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อให้ได้กฎหมายที่ครอบคลุมและเป็นระบบ
- เห็นชอบในหลักการจัดตั้งกรมกิจการคนเข้าเมือง และให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ร่วมกันพิจารณารูปแบบและแนวทางในการตั้งกรมใหม่นี้อย่างเป็นระบบ
โครงการนี้แม้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2560 แต่เพิ่งมีความคืบหน้าชัดเจนในรัฐบาลปัจจุบัน ภายใต้การผลักดันของ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยคาดว่ากรมกิจการคนเข้าเมืองจะกลายเป็นฟันเฟืองสำคัญของรัฐบาลในการขับเคลื่อนระบบบริหารจัดการประชากรอย่างครบวงจร และอาจมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) และกรมการจัดหางานในอนาคต
สถานะปัจจุบันของกระทรวงมหาดไทย (ณ ปี 2567) กระทรวงมหาดไทยมีหน่วยงานระดับกรมทั้งหมด 6 กรม ดังนี้:
- กรมการปกครอง (ปค.) ทำหน้าที่ดูแลการปกครองท้องที่ งานทะเบียนราษฎร บัตรประชาชน ความมั่นคงภายใน และการควบคุมการชุมนุมหรือการรวมกลุ่มต่างๆ
- กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ทำหน้าที่กำกับ ดูแล และสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อบจ., เทศบาล, อบต.) ให้สามารถบริหารงานได้ตามหลักธรรมาภิบาล
- กรมที่ดิน (ทด.) รับผิดชอบเรื่องการรังวัด ออกโฉนดที่ดิน ทะเบียนสิทธิในที่ดิน และการระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดิน
- กรมการพัฒนาชุมชน (พช.) ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก สร้างอาชีพ พัฒนาองค์กรชุมชน และขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่
- กรมโยธาธิการและผังเมือง (ยผ.) วางผังเมือง ควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดิน ออกแบบสิ่งก่อสร้างสาธารณะ และสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานในท้องถิ่น
- กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) วางแผน เตรียมความพร้อม และบริหารจัดการภัยพิบัติทุกรูปแบบ เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว หรือเพลิงไหม้ รวมถึงช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเป็นระบบ