ถ้าวันหนึ่งคุณได้พรวิเศษที่จะทำให้คนรักที่ตายจากไปฟื้นขึ้นมา แต่มีข้อแม้เดียวว่าคุณต้องห้ามรักกันอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม คุณจะทำอย่างไร
นี่คือพล็อตเริ่มต้นของละครเรื่องใหม่ ‘เหมือนเราเคยรักกัน’ ที่ช่อง one31 ใช้คำว่า ‘ละครโรแมนติกแห่งปีที่จะทำให้ทุกคนอบอุ่นหัวใจ’ ซึ่งว่าด้วยเรื่องความรักและการเสียสละที่อยู่เหนือความจริง เพราะจู่ๆ คนรักที่ตายจากไปก็ฟื้นขึ้นมาด้วยพรวิเศษ แต่มีข้อแม้อยู่นิดเดียวว่าคุณห้ามกลับไปรักกัน ไม่เช่นนั้นทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม ซึ่งจากตัวอย่างแรกที่ปล่อยออกมาก็พบว่าค่อนข้างรวดร้าวอารมณ์และดูไม่น่าจะอบอุ่นเท่าไร เพราะมันดราม่ามาก!
เหมือนเราเคยรักกัน ดัดแปลงจากซีรีส์ไต้หวันในชื่อเรื่องเดียวกันอย่าง Deja Vu ที่ออกอากาศทางช่อง Sanlih ในปี 2013 ซึ่งนับเป็นอีกครั้งที่ช่อง one31 เลือกที่จะหยิบจับซีรีส์จากไต้หวันมานำเสนอในบริบทไทยๆ อีกครั้ง อย่างครั้งก่อนที่เคยทำ The Fierce Wife ให้กลายมาเป็นละครระดับปรากฏการณ์อย่าง ‘เมีย 2018’ หรือ Fated to Love You ให้เป็นละคร ‘เธอคือพรหมลิขิต’ ก็พิสูจน์มาแล้วผู้ชมให้การตอบรับเป็นอย่างดี
ส่วนในเวอร์ชันไทยนี้ก็ยึดถือเค้าโครงจากเรื่องเดิม เล่าเรื่องราวของคู่รัก วิณณ์ (รับบทโดย ป้อง-ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) และเจนนรี (รับบทโดย เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา) ที่ต้องพลัดพรากจากกันด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์จนทำให้วิณณ์เสียชีวิต เจนนรีจึงอธิษฐานขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ได้เจอกับวิณณ์อีกครั้ง แล้วคำอธิษฐานของเธอก็เป็นจริง เมื่อเจนนรีได้รับพรจาก ภูตน้ำ (รับบทโดย แหม่ม-คัทลียา แมคอินทอช) ให้ย้อนเวลากลับไปพบกับวิณณ์อีกครั้ง โดยมีข้อแม้ว่าเธอและเขาห้ามกลับมารักกัน ไม่เช่นนั้นเธอจะต้องสูญเสียเขาไปตลอดกาล
จากตัวอย่างที่ปล่อยออกมา เราพบว่านี่เป็นละครโรแมนติก-ดราม่าที่ค่อนข้างเข้มข้นและน่าดูมากๆ เรื่องหนึ่งในช่วงต้นปีนี้ จากทั้งโปรดักชัน งานภาพ และการแสดง มีโอกาสที่จะครองใจผู้ชมได้ไม่ยาก อีกทั้งละครเรื่องนี้คือการโคจรมาพบกันเป็นครั้งแรกของนักแสดงนำอย่าง ป้อง-ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ และเอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา ที่น่าจะสร้างเคมีใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในการแสดงได้ ซึ่งทั้งคู่เองก็ว่างเว้นจากละครไปเกือบ 1 ปีเต็มทั้งคู่ และกับละครเรื่องนี้ดูเหมือนว่าต้องใช้พลังทางการแสดงของฝ่ายหญิงมากหน่อย เพราะจากเรื่องราวและตัวอย่างที่ปล่อยออกมา บทบาท ‘เจนนรี’ ของเอสเธอร์ต้องแบกภาระความรู้สึกของการสูญเสียและการเสียสละที่ขัดต่อความรู้สึกจริงๆ ของตัวละครอยู่ รวมถึงเธอยังต้องรับบทเป็นนักบัลเลต์อีกด้วย เราจึงต้องมาดูกันว่าเธอจะตีบทบาทนี้แตกกระจายได้หรือไม่
และในส่วนของนักแสดงคนอื่นๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น กอล์ฟ-พิชญะ นิธิไพศาลกุล, แกงส้ม-ธนทัต ชัยอรรถ, ลิลลี่-ภัณฑิลา วิน ปานสิริธนาโชติ, เจนิส-เจณิสตา พรหมผดุงชีพ, มนตรี เจนอักษร และโอลิเวอร์ พูพาร์ต
อีกเรื่องที่สำคัญของละครเรื่องนี้คือการเป็นไพ่ใบใหม่ที่ช่อง one31 เลือกให้ลงในช่วงของละครเวลาใหม่ 21.30 น. ในคืนวันพุธ-พฤหัสบดี ที่ปกติแล้วจะเป็นเวลาของซีรีส์ Sleepless Society และซิตคอม เสือ ชะนี เก้ง โดยมีการผลัดเปลี่ยนซิตคอมและซีรีส์ไปไว้ในวันอื่นแทน เท่ากับว่าช่อง one31 เองก็พร้อมลุยละครเพื่อต่อสู้กับช่องอื่นๆ แบบเต็มสูบแล้ว เพราะปกติพวกเขาจะมีละครช่วงดึกนี้แค่เพียงในคืนวันจันทร์และอังคารเท่านั้น ซึ่งในสูตรที่พวกเขาวางกลยุทธ์ไว้ว่าถ้าผู้ชมพร้อมจะกดรีโมตไปที่ช่องของพวกเขาตั้งแต่ละครเย็น ละครค่ำ และละครดึก เรตติ้งในช่วงไพรม์ไทม์ก็อาจจะส่งผลให้เรตติ้งรวมของช่องขยับสูงขึ้นได้
เหมือนเราเคยรักกัน อยู่ภายใต้การดูแลของผู้กำกับ วรวิทย์ ขัตติยโยธิน ที่เคยฝากผลงานละครเยี่ยมๆ ไว้อย่าง กาหลมหรทึก, ด้ายแดง และ เธอคือพรหมลิขิต ส่วนทางด้านบทโทรทัศน์ได้ ดนุพล ฉายเหมือนวงศ์ มาร่วมบรรเลงเรื่องราวความรักในครั้งนี้ และจะเริ่มต้นตอนแรกในคืนวันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 21.30 น. และนี่จะเป็นอีกกลยุทธ์ชิงเรตติ้งจากช่อง one31 ที่เริ่มปล่อยละครในคืนวันพุธ-พฤหัสบดีบ้างแล้ว ต้องรอติดตามว่าผลตอบรับจะออกมาเป็นอย่างไร
ชมตัวอย่างละครได้ที่นี่
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
