นับตั้งแต่ปี 2017 ที่ โคคา-โคล่า หรือโค้ก เจ้าตลาดน้ำซ่าปรับตัวครั้งยิ่งใหญ่ โดยส่งผลิตภัณฑ์ที่เป็นเสมือนตัวชี้วัดว่าแบรนด์ที่อยู่ในใจผู้บริโภคมายาวนานอย่างโค้กไม่เคยอยู่นิ่ง หากแต่ได้ปรับตัวตามเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ นั่นคือการมาถึงของ ‘โค้ก สูตรไม่มีน้ำตาล’ และโค้กก็จริงจังในการพัฒนารังสรรค์ผลิตภัณฑ์นี้ให้อร่อยตรงใจผู้บริโภค โดยไม่ใส่น้ำตาลและไม่มีพลังงานแคลอรี เพื่อตอบรับกระแสเครื่องดื่มไม่มีน้ำตาลที่มาแรงต่อเนื่อง
ในเมื่อที่ผ่านมา โค้กนั่งแท่นเป็นน้ำอัดลมขวัญใจประชากรโลกมาโดยตลอด จึงเป็นเรื่องท้าทายหากโค้กจะรักษาแชมป์ มัดใจประชากรฝั่งที่ชื่นชอบน้ำอัดลมแบบไม่มีน้ำตาลให้ได้ด้วย ขณะเดียวกันตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มกลุ่มไม่มีน้ำตาลก็มีเทรนด์เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2563 ที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตถึง 21.2% (ข้อมูลจากมติชน, พฤษภาคม 2564) การไม่หยุดพัฒนาเพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค จึงกลายเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้โค้กยังคงครองแชมป์เซกเมนต์นี้ได้อยู่
เมื่อจับตามองโค้ก สูตรไม่มีน้ำตาล ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราจะเห็นการ ‘เขย่า’ ของไลน์โปรดักต์นี้อยู่หลายครั้ง ก่อนหน้านี้ได้สร้างกระแสด้วยนวัตกรรมด้านกลิ่น กับโค้ก สูตรไม่มีน้ำตาล กลิ่นออร์เรนจ์ และล่าสุดคือการนำเอาสิ่งที่ผู้คนพูดถึงโปรดักต์มาปรับปรุงให้ลงตัวกว่าเดิม โดยเฉพาะเรื่องของรสชาติ ที่เอาใจแฟนโค้ก สูตรไม่มีน้ำตาล ให้ได้สัมผัสประสบการณ์ความอร่อยซ่าสดชื่น โดนใจยิ่งกว่าที่เคย
ในที่สุด วันเวลาบวกกับสถานการณ์ของโรคระบาดโควิด-19 ประชาชนโฟกัสกับการหาเครื่องดื่มที่ไม่มีน้ำตาลและไม่มีแคลอรี โคคา-โคล่า จึงเปลี่ยนกลยุทธ์มาไฮไลต์ที่ ‘โค้ก สูตรไม่มีน้ำตาล’ ซึ่ง เจมส์ ควินซีย์ ซีอีโอของโค้กเคยกล่าวว่า โค้ก สูตรไม่มีน้ำตาล “เป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตที่ดีที่สุดในปี 2564” ประจวบเหมาะกับการเดินมาถึงจุดที่ โคคา-โคล่า พัฒนาโค้ก สูตรไม่มีน้ำตาล จนมั่นใจในความอร่อยซ่า และปล่อยแคมเปญ ‘โค้ก ไม่มีน้ำตาล สูตรใหม่ อร่อยซ่า…ใช่กว่าเดิม?’ โดยทิ้งท้ายด้วยเครื่องหมายคำถาม (Question Mark) เพื่อยิงหมัดท้าผู้บริโภคให้พิสูจน์และพบคำตอบด้วยตัวเอง เห็นได้จากคลิปโฆษณาที่ยียวนชวนให้ชิมโค้ก สูตรไม่มีน้ำตาล แล้วจะรู้ว่ารสชาติที่ ‘ใช่’ กว่าเดิมเป็นอย่างไร นอกจากนี้โค้กยังเชิญชวนผู้บริโภคตัดสินว่า รสชาติของโค้ก ไม่มีน้ำตาล สูตรใหม่ ถูกใจใช่กว่าเดิมจริงหรือไม่ ผ่านกิจกรรมส่งเสริมการตลาดแบบ Omni-Channel ปรากฏให้เห็นทั้ง โฆษณาทางสื่อโทรทัศน์ การสื่อสารผ่านสื่อนอกบ้าน ณ แลนด์มาร์กใจกลางกรุงเทพฯ การสื่อสาร ณ จุดขายและในร้านค้า ตลอดจนการพูดคุยตอบโต้กันอย่างสร้างสรรค์บนสื่อโซเชียลมีเดียผ่านช่องทางของอินฟลูเอนเซอร์ หรือแม้แต่บุคคลทั่วไปก็มีสิทธิ์ได้ลองรสชาติที่อร่อย ซ่า สดชื่น จากการแจกสินค้าตัวอย่างให้พิสูจน์กว่า 5.7 ล้านชิ้นทั่วประเทศตลอดทั้งปี
นอกจากการอัปเกรดรสชาติ โค้ก ไม่มีน้ำตาล ที่คนทั่วโลกหลงรักแล้ว โคคา-โคล่า ยังยกเครื่องแพ็กเกจใหม่ให้กับ โค้ก ไม่มีน้ำตาล สูตรใหม่ ที่เน้นความเรียบง่ายและทันสมัยมากขึ้น ทว่ากลิ่นอายและสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นโค้กก็ยังไม่หายไปไหน โดยได้เคลื่อนย้ายโลโก้ โคคา-โคล่า ขึ้นไปอยู่ด้านบนของฉลาก เปลี่ยนสีของโลโก้ โคคา-โคล่า เป็นสีดำ ซึ่งเป็นสีตัวแทนของโค้ก สูตรไม่มีน้ำตาลมาโดยตลอด และนำข้อมูลโภชนาการของเครื่องดื่มมาวางด้านหน้าในจุดปะทะสายตาเพื่อให้เห็นได้ชัดเจนขึ้น สะท้อนถึงความใส่ใจพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ ที่มักจะอ่านฉลากหาข้อมูลก่อนซื้อสินค้าและบริการ
ในเมื่อการตั้งคำถามของโค้กที่ว่า ‘โค้ก ไม่มีน้ำตาล สูตรใหม่ อร่อยซ่า…ใช่กว่าเดิม จริงดิ?’ ต้องมีคำตอบ เราเชื่อว่าคนที่จะตัดสินได้ดีที่สุดว่า #YES หรือ #NO ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือผู้บริโภคที่จะบอกได้ว่าโค้ก ไม่มีน้ำตาล สูตรใหม่ อร่อยยิ่งขึ้น…แล้วหรือยัง
ลองเลย…แล้วมาคุยกัน
ติดตามความอร่อยซ่าของโค้กได้ที่ www.facebook.com/cocacolaTH
#NewCokeZeroSugar #โค้กไม่มีน้ำตาลสูตรใหม่ #ลองยัง
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: