หลังประสบความสำเร็จกับคอนเทนต์แบบอินเตอร์แอ็กทีฟที่เปิดโอกาสให้คนดูได้มีส่วนร่วมกำหนดเนื้อหาและชะตากรรมตัวละครผ่าน Black Mirror: Bandersnatch ไปเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว มาคราวนี้ Netflix ยังคงเลือกหยิบรูปแบบการดำเนินเรื่องอินเตอร์แอ็กทีฟกลับมาใช้อีกครั้งกับซีรีส์ผจญภัย เอาตัวรอดจากธรรมชาติ ‘You vs. Wild’ โดยได้นักผจญภัยระดับแม่เหล็กอย่าง แบร์ กริล (Bear Grylls) มาเป็นผู้ดำเนินรายการ
You vs. Wild เป็นซีรีส์ความยาวทั้งหมด 8 ตอน นำเสนอการเอาชีวิตรอดท่ามกลางธรรมชาติและภยันตรายต่างๆ ที่ แบร์ กริล นักผจญภัยและผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์เชิงสารคดีการเอาตัวรอดชื่อดังจะเป็นผู้ดำเนินรายการและตัวแสดงหลัก เริ่มออนแอร์ 10 เมษายนนี้พร้อมกันบนแพลตฟอร์ม Netfllix ทั่วโลก
เมื่อเป็นคอนเทนต์แบบอินเตอร์แอ็กทีฟ ความสนุกและความเจ๋งจึงอยู่ที่ผู้ชมอย่างเราสามารถเลือกกำหนดหรือออกคำสั่งให้ แบร์ กริล ทำตามในแต่ละช่วงสำคัญของการตัดสินใจปฏิบัติภารกิจแต่ละตอนได้ และเพราะความเป็นรายการรูปแบบเซอร์ไววัลกึ่งเรียลิตี้ จึงทำให้มิติความน่าสนใจอาจจะมากกว่า Black Mirror: Bandersnatch พอสมควร
ตัวอย่าง You vs. Wild
ก่อนหน้านี้ Netflix เคยผลิตคอนเทนต์แบบอินเตอร์แอ็กทีฟมาแล้วหลายเรื่อง เริ่มต้นตั้งแต่ในเดือนมิถุนายนปี 2017 กับ Puss in Book: Trapped in an Epic Tale ตามมาด้วย Buddy Thunderstruck: The Maybe Pile, Minecraft: Story Mode และ Stretch Armstrong: The Breakout ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแอนิเมชันทั้งหมด ก่อนจะเริ่มออนแอร์คอนเทนต์ที่ใช้คนแสดงจริงกับ Black Mirror: Bandersnatch เมื่อธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าใช้ต้นทุนการผลิตที่สูงกว่าแอนิเมชันแบบลิบลับ
การเปิดตัว You vs. Wild ในช่วงเวลาที่ไม่ได้ทิ้งห่างจาก Bandersnatch สักเท่าไรจึงสะท้อนให้เห็นว่า Netflix เตรียมเริ่มขยับขยายมาผลิตคอนเทนต์รูปแบบอินเตอร์แอ็กทีฟมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: