Netflix ลุยธุรกิจ ‘เกม’ จริงจัง ตั้งอดีตผู้บริหารแผนกเกม Facebook และ EA ขึ้นแท่นรองประธานพัฒนา นักวิเคราะห์เชื่อ ‘กลยุทธ์ดึงเวลาคนดู’

ย้อนกลับไปเมื่อราวๆ 3 ปีที่แล้ว แพลตฟอร์มสตรีมมิงคอนเทนต์ Netflix (NFLX) เคยสร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัวภาพยนตร์แนวอินเทอร์แอ็กทีฟที่สปินออฟมาจากซีรีส์ยอดฮิตของพวกเขาอย่าง ‘Black Mirror: Bandersnatch’ ที่ชวนคนดูเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดเส้นทางและการเดินเรื่องของภาพยนตร์จากการตัดสินใจของตัวละครได้ด้วยการกดปุ่มที่รีโมตของเราเอง ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีอยู่พอสมควร

จนนำไปสู่แรงบันดาลใจที่ทำให้พวกเขาเริ่มพัฒนาคอนเทนต์แนวนี้ออกมาอีกต่อเนื่อง เช่น You vs. Wild, Minecraft: Story Mode, Puss in Book: Trapped in an Epic Tale หรือ Headspace: Unwind Your Mind เป็นต้น โดยมีแนวคิดเดียวกัน นั่นคือการเพิ่มรสชาติให้กับคอนเทนต์ของพวกเขา ดึงดูดความน่าสนใจของคนดู และสร้างนวัตกรรมที่ทำให้คนดูสามารถเข้ามามีส่วนร่วมกับประสบการณ์การรับชมคอนเทนต์ที่ต่างจากแพลตฟอร์มอื่นๆ

ขณะที่ ‘เกม’ ก็เป็นอีกหนึ่งในพื้นที่ที่ Netflix ปรารถนาจะพาตัวเองเข้ามาสร้างความได้เปรียบในตลาดนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร เพื่อให้แพลตฟอร์มของพวกเขามีความหลากหลายมากกว่าเดิม ช่วงชิงความได้เปรียบเหนือคู่แข่งในตลาดที่ยังไม่มีคอนเทนต์เกมในแพลตฟอร์ม โดยที่ผ่านมาได้นำร่องด้วยการเปิดตัวเกมในซีรีส์ Stranger Things ลงบนแพลตฟอร์มต่างๆ มาแล้ว

จนนำไปสู่ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจอีกครั้ง เมื่อวันพุธที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ Netflix ได้ประกาศแต่งตั้ง Mike Verdu อดีตผู้บริหารแผนกคอนเทนต์ AR และ VR ของ Facebook ที่เคยผ่านประวัติการทำงานอย่างช่ำชองกับสตูดิโอผู้พัฒนาเกมอย่าง EA, Kabam, Zynga และ Atari ขึ้นดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่ายพัฒนาเกมของบริษัท ควบคู่ไปกับการจัดตั้งแผนกทีมพัฒนาเกมอย่างจริงจัง

แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยในแง่โมเดลธุรกิจออกมาว่าจะเป็นไปในรูปแบบใด แต่สื่ออย่าง Bloomberg ก็เชื่อว่า Netflix จะพัฒนาเกมของพวกเขาออกมาผ่านช่องทางแพลตฟอร์มสตรีมมิงเดิมของตัวเอง และมีแนวโน้มที่อาจจะใช้เนื้อหาคอนเทนต์จากออริจินัลคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มมาต่อยอด (เหมือนที่ทำกับ Stranger Things) โดยคาดว่าสมาชิกเดิมของ Netflix น่าจะเริ่มเล่นเกมที่ถูกพัฒนาข้ึนมาได้ตั้งแต่ช่วงปีหน้าเป็นต้นไป และไม่มีเก็บค่าบริการเพิ่ม (แต่ไม่รับประกันว่าในอนาคตจะขึ้นค่าบริการของสมาชิกหรือเปล่า)

หลังประกาศข่าวดีออกมา มีรายงานว่าหุ้นของ Netflix ได้ปรับขึ้น 2% ในช่วงเปิดตลาดซื้อขายสหรัฐฯ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ก่อนจะปรับลงมาอยู่ที่ระดับ 547.95 ดอลลาร์สหรัฐ หรือปรับขึ้น +1.34% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของวันก่อนหน้า

ด้าน Geetha Ranganathan นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมสื่อจาก Bloomberg Intelligence สะท้อนความเห็นเอาไว้ว่า ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้เป็นกลยุทธ์ด้านคอนเทนต์ของ Netflix ที่แม้ว่าอาจจะไม่ได้ช่วยให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ในทางหนึ่งก็จะเป็นสปริงบอร์ดและสะพานที่ดีที่จะเชื่อมคอนเทนต์ของพวกเขาให้เข้าไปทำปฏิกริยา สร้างเอนเกจเมนต์กับแฟนๆ ให้มากขึ้นด้วยวิธีการที่ต่างออกไป

“อย่าคาดหวังว่านี่จะเป็นเทิร์นนิงพอยต์ของพวกเขา แต่มันได้สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทมีวิธีการนำเสนอวิธีการรูปแบบใหม่ๆ ที่จะช่วยเพิ่มให้คนดู ผู้บริโภคใช้เวลาอยู่บนแพลตฟอร์มของพวกเขาได้นานมากยิ่งขึ้น”

อ้างอิง: