แพลตฟอร์มสตรีมมิงชื่อดังอย่าง Netflix เตรียมเปลี่ยนแปลงนโยบายเกี่ยวกับการแชร์รหัสผ่าน และจะเริ่มเก็บเงินกับคนที่ต้องการแชร์รหัสด้วยกัน จากตอนนี้ที่สามารถสร้างโปรไฟล์ได้ถึง 5 โปรไฟล์ แต่ภายในต้นปี 2023 โปรไฟล์เหล่านี้จะกลายเป็น ‘บัญชีย่อย’ ที่มีค่าใช้จ่าย
โดยหลังจากนี้จะอนุญาตให้ 1 บ้าน มีเพียง 1 บัญชีเท่านั้น และจะต้องจ่ายเพิ่มหากต้องการเข้าถึงบัญชีเพิ่มภายในบ้านเดิม ทั้งนี้ ผู้ใช้ (User) จะยังสามารถใช้ Netflix นอกบ้านจริงๆ (นอกสถานที่) ได้ แต่ในเงื่อนไขของการใช้บัญชีเดียวกับที่บ้าน อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้สามารถจ่ายเงินเพิ่มเพื่อสร้างบัญชีย่อยได้
บริษัทจะเริ่มเปิดตัวฟีเจอร์นี้ในวงกว้างมากขึ้นภายในต้นปี 2023 โดยขณะนี้เปิดตัวแล้วใน 5 ประเทศ ประกอบด้วยอาร์เจนตินา สาธารณรัฐโดมินิกัน ฮอนดูรัส เอลซัลวาดอร์ และกัวเตมาลา ซึ่งทำให้ผู้ใช้ในประเทศเหล่านี้ต้องจ่ายเพิ่มอีก 2.99 ดอลลาร์ เพื่อเพิ่ม ‘บ้าน’ ในบัญชีของตน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- “เรากำลังอยู่บนเส้นทางสู่การเติบโตอย่างรวดเร็ว” Netflix กล่าว หลังมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านคนในไตรมาสล่าสุด
- เน็ตฟลิกซ์ เคาะราคา 266 บาทต่อเดือน สำหรับ ‘แพ็กเกจมีโฆษณา’ ที่จะต้องเจอ 4-5 นาทีต่อชั่วโมง เริ่ม พ.ย. นี้ ใน 12 ประเทศ แต่ยังไม่มีไทย
- หากอยากใช้งาน ‘หลายบ้าน’ จ่ายเพิ่มมา 110 บาท! Netflix เริ่มทดสอบแผนจัดการ ‘แชร์รหัส’ ในหลายประเทศ
ทั้งนี้ สำหรับผู้ใช้ที่มีการแชร์รหัสผ่านอยู่ก็จะสามารถโอนโปรไฟล์ไปยังบัญชีใหม่ได้ ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้จะสามารถนำประวัติการดูและการแนะนำเนื้อหาไปยังบัญชีใหม่ด้วยได้
ส่วนคนที่แชร์รหัสผ่านกับคนอื่น สามารถสร้างและจัดการบัญชีย่อยได้อย่างง่ายดายด้วยรูปแบบใหม่นี้
“องค์ประกอบอีกอย่างคือการอนุญาตให้เจ้าของบัญชีจ่ายค่าบริการให้เพื่อนหรือครอบครัวได้ ใครก็ตามที่พวกคุณอยากแบ่งปันบริการด้วย… ดังนั้นพวกเขาสามารถสร้างบัญชีย่อยหรือที่เราเรียกว่าสมาชิกพิเศษ เพื่อเปิดใช้งานรูปแบบใหม่ได้อีกด้วย” Gregory Peters ซีอีโอและหัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์กล่าว
ทั้งนี้ การเรียกเก็บเงินจากบัญชีย่อยไม่ใช่ช่องทางรายได้ใหม่เพียงแห่งเดียวของ Netflix ในปีหน้า อีกแผนการคือผู้ใช้จะสามารถจ่ายเงินเพื่อสมัครแพ็กเกจ ‘ขั้นพื้นฐาน’ ที่ถูกลงแต่มีโฆษณาแทรกได้ โดย Peters กล่าวว่า แพ็กเกจนี้ “จะทำให้มีสมาชิกเพิ่มขึ้นและนำไปสู่รายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล”
แพ็กเกจมีโฆษณานี้ในสหรัฐฯ จะมีราคา 7 ดอลลาร์ หรือราว 266 บาทต่อเดือน ซึ่งถูกกว่าแพ็กเกจที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ 15.5 ดอลลาร์ต่อเดือน และไม่มีโฆษณา
อ้างอิง: