เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ระบุว่า อิสราเอลสามารถยืนหยัดได้เพียงลำพังในกรณีที่สหรัฐฯ อาจยุติการส่งอาวุธช่วยอิสราเอลสู้รบในฉนวนกาซา หากรัฐบาลอิสราเอลมีคำสั่งปฏิบัติการทหารเต็มรูปแบบที่เมืองราฟาห์ ซึ่งอิสราเอลเชื่อว่าเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของกลุ่มฮามาส
“หากจำเป็น เราจะยืนหยัดเพียงลำพัง เราจะสู้ด้วยเขี้ยวเล็บของเรา”
ด้าน โยอัฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล เน้นย้ำว่า อิสราเอลจะยืนหยัดอย่างเข้มแข็งและเราจะบรรลุเป้าหมาย
ความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่สหประชาชาติ (UN) ระบุว่า มีชาวปาเลสไตน์มากกว่า 80,000 คนทยอยอพยพออกจากเมืองราฟาห์แล้วนับตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางการโจมตีเมืองราฟาห์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การเจรจาหยุดยิงชั่วคราวครั้งล่าสุดดูเหมือนจะล้มเหลวอีกครั้ง
ขณะที่ จอห์น เคอร์บี โฆษกความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ เผยว่า โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ไม่เชื่อว่าการโจมตีราฟาห์จะช่วยทำให้เป้าหมายของอิสราเอลที่ต้องการจะกำจัดกลุ่มฮามาสนั้นบรรลุผลได้ พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า ความพ่ายแพ้อย่างราบคาบของกลุ่มฮามาสเป็นเป้าหมายที่ทั้งสหรัฐอเมริกาและอิสราเอลต่างมีร่วมกัน ดังนั้นข้อถกเถียงที่ว่า สหรัฐฯ กำลังจะถอยหนีจากอิสราเอล หรือไม่เต็มใจที่จะช่วยอิสราเอลเอาชนะกลุ่มฮามาสนั้น จึงไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง
กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ระบุว่า สงครามอิสราเอล-ฮามาสที่ดำเนินมานานกว่า 7 เดือน มีผู้เสียชีวิตในกาซาแล้วกว่า 34,900 คน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลอยู่ที่ราว 1,200 คน ส่วนจำนวนตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสควบคุมตัวตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้ว อิสราเอลเชื่อว่ามีอยู่ 128 คน และในจำนวนนี้ 36 คนได้รับการสันนิษฐานว่าเสียชีวิตแล้ว
ภาพ: Amir Cohen / Pool / Reuters
อ้างอิง:
