Nestle ผู้ผลิตสินค้าอาหารบรรจุภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เตรียมปรับขึ้นราคาสินค้า หลังจากที่ต้นทุนการผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้นจนฉุดให้ผลกำไรของบริษัทลดลง
Mark Schneider กรรมการบริหาร Nestle ยอมรับว่ามีแผนที่จะขึ้นราคาสินค้า แต่ปฏิเสธที่จะระบุถึงระดับของราคาที่จะเพิ่มขึ้น เพียงแต่ย้ำว่า Nestle มีความจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาสินค้าเพื่อชดเชยกับความเสียหายที่เกิดจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งรวมถึงราคาพลังงาน หนึ่งในต้นทุนการผลิตที่สำคัญปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
แถลงการณ์ของบริษัทเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกับที่บริษัทเปิดเผยผลประกอบการปี 2022 ซึ่งกำไรสุทธิลดลงสู่ระดับ 9.3 พันล้านฟรังก์สวิส ต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่มองว่าจะอยู่ที่ 1.16 หมื่นล้านฟรังก์สวิส
นอกจากนี้ กำไรสุทธิปี 2022 ของ Nestle ลดลงจาก 1.69 หมื่นล้านฟรังก์สวิสจากเมื่อปี 2021 ซึ่งในปีนั้น Nestle สามารถทำกำไรได้มหาศาลจากการขายหุ้น L’Oreal ไปบางส่วน
ส่วนยอดขายปี 2022 ของ Nestle เพิ่มขึ้นแตะ 9.44 หมื่นล้านฟรังก์สวิส โดยต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 9.502 หมื่นล้านฟรังก์สวิส แม้จะมีการปรับขึ้นราคาสินค้าในระหว่างปีไป 8.2% แล้วก็ตาม
Schneider ระบุว่า อัตรากำไรขั้นต้นของ Nestle ลดลงประมาณ 2.6% ซึ่งถือว่าสูงมาก ทำให้บริษัทจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาสินค้าเพื่อให้บริษัทสามารถเดินหน้าต่อไปได้
หลายฝ่ายมองว่าการปรับขึ้นราคาสินค้าของผู้ผลิต KitKat และ NESCAFÉ รายนี้ จะกระทบต่อกำลังการใช้จ่ายของครัวเรือนในหลายประเทศทั่วโลกที่กำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้ออยู่ในปัจจุบัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ตรึงราคาไม่ไหว! ‘ลีโอ’ ขึ้นราคา 1-1.5 บาทต่อขวด ส่วน ‘ช้าง’ เพิ่มขวดแก้วอีก 1 บาท ฟากน้ำตาลกำลังจะขึ้น หวั่นทำสินค้าอื่นๆ ขยับตัวตามอีก 2-3 เดือนข้างหน้า
- ขึ้นราคาสินค้าอีกรอบ! ‘P&G’ ยักษ์ผู้ผลิตสินค้าคอนซูเมอร์ ปรับราคารับต้นทุน-ดอลลาร์แข็ง แม้อาจกระทบการใช้จ่ายผู้บริโภค
- ไปญี่ปุ่นเตรียมควักกระเป๋าจ่ายเพิ่ม สินค้าอุปโภคบริโภคกว่า 7,000 รายการจ่อขึ้นราคาอีกระลอก รับเงินเยนอ่อนค่าดันต้นทุนพุ่ง
อ้างอิง: