×

NBA on Prime: จุดเริ่มต้น 11 ปีที่กำลังนิยามใหม่ การดูเกมสดจากทั่วโลก

19.10.2025
  • LOADING...
NBA on Prime

ภายใน Amazon MGM Studio ในคัลเวอร์ ซิตี้ ลอสแองเจลิส สตูดิโอที่เป็นบ้านแห่งใหม่ของ NBA หลัง Prime ได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดมาด้วยสัญญา 11 ปี ซึ่งจะเริ่มต้นถ่ายทอดสดฤดูกาลแรกปีนี้ เต็มไปด้วย ตำนานนักบาส และ สื่อมวลชนจากทั่วโลก รวมถึง THE STANDARD SPORT ที่ได้รับเกียรติเดินทางไปร่วมงานครั้งนี้ด้วยที่สหรัฐอเมริกา

 

โดยปีนี้ Prime Video จะถ่ายทอดสด NBA ในประเทศไทยกว่า 60 แมตช์ พร้อมด้วยเกมรอบ เพลย์อิน ทัวร์นาเมนต์ รวมไปถึงรอบเพลย์ออฟ ทั้งเกมชิงแชมป์สาย และ ซีรีส์ชิงชนะเลิศ โดยแฟนกีฬาชาวไทยไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าสมาชิกเพิ่ม หากคุณเป็นสมาชิกของ Amazon Prime อยู่แล้ว (149 บาทต่อเดือน)

 

ซึ่งงานเปิดตัวครั้งนี้ของ NBA on Prime เป็นการประกาศว่าพวกเขาจะนำเสนอลีกบาสเกตบอลที่ดีที่สุดในโลก ในดีลที่ผ่านผู้บริหารของ Prime ใช้ว่า First Global Sport Deal ของ Amazon จะมีรูปร่างหน้าตา และ นวัตกรรมอะไรเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับการรับชมให้กับผู้คนจากทั่วโลก

 

จากประสบการณ์ที่เราได้ไปร่วมกับทาง NBA on Prime ที่ลอสแองเจลิส ตลอด 3 วันที่ผ่านมานี่คือสิ่งที่เรามองเห็นว่าการถ่ายทอดสดในปีนี้ NBA จะมีความเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นบ้าง

 

จากสนาม Crypto.com Arena ของเลเกอร์ส สู่การเชื่อมต่อของ Prime

 

วันแรกที่เราไปถึงเราได้โอกาสเข้าไปชมการแข่งขันแมตช์ปรีซีซั่น ระหว่าง แอลเอ เลเกอร์ส และ โกลเดนสเตท วอร์ริเออร์ส ซึ่งแน่นอนว่า รูปเกมอาจไม่ใช่ไฮไลต์สำคัญอะไร แต่เราได้เห็นรูปแบบของ Sport Entertainment แบบเต็มสูบครั้งแรกของกีฬาอเมริกันเกม

 

ทั้ง Kiss Cam, โชว์พักครึ่ง ดีเจในสนาม และ การดึงแฟนกีฬาเข้ามามีส่วนร่วมบนพื้นคอร์ด คือองค์ประกอบสำคัญทั้งหมดของกีฬาอเมริกันที่ทำให้เราเข้าใจว่า มาตรฐานสูงสุดของ Sport Entertainment ที่ควรจะเป็นคืออะไร

 

วันต่อมาเราได้เข้าไปดูเบื้องหลังการทำงานทั้งหมดของสนามกีฬาแห่งนี้ด้วยประสบการณ์ Stadium Tour Crypto.com Arena ที่เป็นสนามเหย้าของทั้งบาสเกตบอล NBA ทีมเลเกอร์ส และ LA Kings ทีมฮอกกี้น้ำแข็ง NHL

 

สนามแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาด้วยจุดประสงค์เพื่อการถ่ายทอดสด โดยมีสายไฟสัญญาณวิ่งทั่วสนามเพื่อให้สามารถเชื่อมต่อสัญญาณจากกล้องไปสู่สายตาของคนจากทั่วโลก

 

นอกจากนี้ยังมีการต่อเติม Jumbo Tron จอขนาดยักษ์ตรงกลางของสนามไว้สำหรับการเล่นกับคนดูในสนาม และ การโชว์ Data ของเกมแบบ Real Time อีกด้วย

 

ทั้งหมดนี้เป็นการนับหนึ่งของสัญญาณที่จะถูกถ่ายทอดสดไปทั่วโลก แต่สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงไปในปีนี้คือ วิธีการที่ Prime จะนำเข้ามาใช้ยกระดับประสบการณ์การรับชม

 

Amazon MGM Studio ฐานใหม่ของ NBA on Prime

 

หลังจากสัญญาณถูกส่งมาจากสนามกีฬาทั่วประเทศ รวมถึง Crypto.com Arena ในปีนี้ หากคุณรับชมผ่าน Prime คุณจะได้เห็นสตูดิโอใหม่ที่ Prime สร้างขึ้นเพื่อฤดูกาลแรกของพวกเขากับ NBA โดยเฉพาะ

 

เริ่มต้นทาง Prime ได้พาเราเข้าไปยัง Studio 15 ที่ใช้สำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังหลายเรื่อง โดยนวัตกรรมที่พวกเขาโชว์คือการแปลงจอ LED 3,000 จอที่อยู่ล้อมรอบกล้องถ่าย ด้วย Unreal Engine ฉายภาพบรรยากาศที่ทำให้เราไปอยู่ได้ทั่วทุกมุมโลก และ พร้อมถ่ายทำฉากที่เราต้องการได้ทันที

 

ซึ่งต่อมาเมื่อเราก้าวเข้าไปสู่สตูดิโอใหม่ของ NBA ในปีนี้ หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือ สนามฮาล์ฟคอร์ตมาตรฐานและห่วงแบบ LED ทั้งหมด สนามฮาล์ฟคอร์ตและห่วงบาสเกตบอลแบบ LED ของสตูดิโอแห่งนี้ นับว่าเป็นพื้นสตูดิโอความละเอียดสูงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา และจะกลายเป็นหัวใจสำคัญทั้งในเชิงเทคนิคและวัฒนธรรมของรายการ NBA on Prime โดยจะถูกใช้สำหรับการสาธิตและกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้งรายการ

 

โดย ยูโดนิส ฮาสเล็ม (Udonis Haslem) นักวิเคราะห์ของ NBA on Prime ได้ทำการสาธิตการวิเคราะห์เกม ผ่านเทคโนโลยีใหม่นี้ ด้วยการแสดงให้เห็นว่า แต่ละจุดเปลี่ยนของเกมเกิดขึ้นตรงไหนบนพื้นสนามจอ LED ถ้านึกภาพไม่ออก อาจลองนึกถึงเวลาที่ฟุตบอลใช้จอสัมผัสขนาดใหญ่ลากเส้นตามมุมที่นักเตะส่งบอลกัน แต่นี่เป็นจอ LED ที่ใหญ่เท่ากับสนามบาสเกตบอล ครึ่งคอร์ต ที่นักวิเคราะห์สามารถลงไปทำให้ดู และมีกราฟิกขึ้นตามจุดเปลี่ยนสำคัญทันทีที่ใช้วิเคราะห์เกม

 

ซึ่งในวัน NBA on Prime Launch พวกเขายังได้เปิดตัว ทีมงานจาก NBA on Prime นำโดยนักบาสเกตบอลชื่อดังอย่าง เบลก กริฟฟิน (Blake Griffin), เดิร์ก โนวิตซ์กี (Dirk Nowitzki), สตีฟ แนช (Steve Nash), จอห์น วอลล์ (John Wall), รูดี้ เกย์ (Rudy Gay), แคนเดซ ปาร์คเกอร์ (Candace Parker), ดเวย์น เวด (Dwyane Wade), สวิน แคช (Swin Cash) และ เบรนต์ แบร์รี (Brent Barry) อีกด้วย

 

แล้วหน้าจอของ NBA on Prime จะมีอะไรที่ใหม่บ้าง

 

จากที่ THE STANDARD SPORT ได้มีโอกาสไปร่วมงานกับทาง AWS หรือ Amazon Web Service ผู้ให้บริการระบบ Cloud พาร์ทเนอร์คนสำคัญของ F1 เราได้เข้าใจวิธีการทำงานที่พวกเขาสามารถเก็บข้อมูล ส่งไปประมวลผลด้วย Machine Learning และ ส่งกลับมาเป็นข้อมูลพร้อมใช้งานที่สนามกีฬา ให้ทันก่อนที่นักแข่งจะเข้าโค้งต่อไป ทำให้เราได้เข้าใจว่า การกำจัด Latency หรือความหน่วงของการเดินทางของข้อมูล ทำให้เกิดความเป็นไปได้ใหม่ในการถ่ายทอดสดกีฬาระดับโลก ในมิติต่างๆ (สำหรับ F1 ตัวอย่างที่ชัดสุดคือข้อมูลบนหน้าจอถ่ายทอดสดที่บอกว่า ถ้านักแข่งตัดสินใจเข้าพิตตอนนี้ เขาจะออกมาที่ลำดับที่เท่าไหร่)

 

สำหรับ NBA on Prime พวกเขาจะนำเอาระบบนี้เข้ามาใช้ยกระดับการรับชม NBA ซึ่งแน่นอนว่าที่ผ่านมา อเมริกันเกม เป็นกีฬาที่เต็มไปด้วยสถิติและข้อมูลอยู่แล้ว แต่สำหรับ NBA on Prime ถ้าคุณเคยมีโอกาสได้ชมซีรีส์ จะมีฟังก์ชั่นที่สามารถกดลงมาดูโปรไฟล์นักแสดงได้ระหว่างการรับชม แต่สำหรับ NBA พวกเขาสามารถจะสามารถดูสถิติแบบเรียลไทม์ได้ซึ่งพวกเขาเรียกสิ่งนี้ว่า Live overlays

 

ต่อมาคือการตอบโจทย์สำหรับเวลาการรับชมที่คนจากทั่วโลกจะดูเวลาที่ต่างกัน ตามไทม์โซน ทาง Prime ปีนี้จึงมีสิ่งที่เรียกว่า Rapid Recap / Key Moments ฟีเจอร์ที่เมื่อคุณกดเข้ามาแล้วสามารถข้ามไปรับชมช็อตสำคัญได้เลย สำหรับคนที่เข้ามาหลังจากเกมเริ่มไปแล้ว

 

อีกระบบที่ตอบโจทย์พฤติกรรมคนดูคือ Multiview ที่เลือกวางได้ 2-4 เกมพร้อมกัน โดยสามารถตั้งเป็นเกมหลัก และ เลือกต้นทางเสียงของเกมได้ทันที เหมาะสำหรับคนที่อยากชมเกมพร้อมกันหลายคอร์ด

 

การถ่ายทอดสดปีแรกนี้ ทาง Prime จะมีพากย์ทั้งหมด 12 ภาษา ซึ่งรวมภาษาไทยด้วย และ จะถ่ายทอดสดเข้าถึงคนกว่า 200 เขตตลาดทั่วโลก

 

นับหนึ่ง NBA on Prime sandbox ของนวัตกรรม และสนามแข่งใหม่ของสื่อกีฬา

 

สิ่งที่ทางผู้บริหารของ NBA on Prime ยืนยันคือนี่เป็นเพียงปีแรก และเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการนำเอานวัตกรรม และ ฟีเจอร์ต่างๆของ Prime เข้ามาเพิ่มประสบการณ์การรับชม ซึ่งหลังจากนี้จะมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ขึ้นตามความต้องการของแฟนกีฬาจากทั่วโลก

 

ตามปรัชญาที่ Amazon ว่าพวกเขาพร้อมที่คิดใหญ่ และ เริ่มต้นแผนการทำงานจาก ความต้องการของลูกค้า ซึ่งน่าสนใจว่าพวกเขาจะเพิ่มเติมอะไรเข้ามาเพื่อให้ผู้คนสามารถเข้าถึงประสบการณ์ของ NBA ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้จากอีกมุมหนึ่งของโลก

 

หมายเหตุถึงผู้อ่านไทย:

 

  • ฟีเจอร์/การรองรับอุปกรณ์/แพ็กเกจอาจแตกต่างตามประเทศ โปรดตรวจสอบหน้า Prime Video ในประเทศของคุณ
  • ตัวเลขการเติบโตในเม็กซิโกและบราซิลเป็นข้อมูลจากเวทีบรรยาย ซึ่งสะท้อนทิศทางการใช้งานจริงในภูมิภาคละตินอเมริกา
  • รายละเอียดสิทธิ์ถ่ายทอดย่อย (จำนวนเกม/ประเภทเกมในแต่ละตลาด) มีความเฉพาะตัวและอาจอัปเดตตามฤดูกาล

 

สำหรับแฟนๆ บาสเกตบอล NBA สามารถรับชม การถ่ายทอดสด บาสเกตบอล NBA ผ่านทาง NBA on Prime เพียงเดือนละ 149 บาท รับชมเกม NBA ได้ 60 คู่ต่อ ฤดูกาล และชมเกมในช่วงเพลย์ออฟ ได้แบบปีเว้นปีด้วย

 

ส่วน รายการ NBA on Prime จะเปิดตัวในวันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม 2568 (ตามเวลาประเทศไทย) ประเดิมด้วยสองเกมต่อเนื่อง ด้วย บอสตัน เซลติกส์ พบ นิวยอร์ก นิกส์ (เวลา 6.30 น.) ตามด้วย มินนิโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟส์ พบ ลอสแอนเจลิส เลเกอร์ส (เวลา 9.00 น.)

 

การถ่ายทอดสดจะเริ่มตั้งแต่เวลา 6.00 น. โดยเปิดด้วยรายการก่อนเริ่มเกม (pregame show) จากคัลเวอร์ซิตี้ มีทีมผู้ดำเนินรายการในสตูดิโอรายงานในช่วงพักครึ่ง และการแข่งขันทุกค่ำคืนจะปิดท้ายด้วยรายการ NBA Nightcap ซึ่งเป็นรายการหลังเกมความยาวหนึ่งชั่วโมงที่มีทั้งการสัมภาษณ์ผู้เล่นและวิเคราะห์เกมแบบเจาะลึก ทั้งนี้ ระหว่างการแข่งขันแบบดับเบิลเฮดเดอร์ Prime Video จะมีรายการพิเศษ The Crossover เพื่อเชื่อมต่อการถ่ายทอดสดต่อจากสตูดิโอ NBA on Prime

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising