สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินงานตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ (คมส.) ครั้งที่ 2/2563 เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ณ อาคารสุขภาพแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินการขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ
สาธิตกล่าวว่า การขับเคลื่อนและติดตามมติสมัชชาสุขภาพฯ ให้เป็นรูปธรรมต้องดำเนินการร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งจำเป็นต้องมีการติดตามและทบทวนมติเดิมที่เกิดขึ้นว่าควรยกเลิก ปรับปรุง หรือเดินหน้าต่ออย่างไร เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ในที่ประชุมครั้งนี้มีการติดตามความก้าวหน้าหลายมติ เช่น ความรอบรู้ด้านสุขภาพ การคุ้มครองผู้บริโภคด้านทันตกรรม การใช้ยาอย่างสมเหตุผล การยกเลิกการใช้แร่ใยหิน ฯลฯ
“ผมเชื่อว่าการที่ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ อย่างน้อยที่สุด เราได้เห็นพลังระดับล่างขึ้นบน ผมว่ามีประโยชน์อย่างมากและมีคุณค่าสูงสุดที่จะนำไปสู่การตัดสินใจในระดับนโยบาย ซึ่งผู้มีอำนาจสั่งการต้องพิจารณาทุกผลกระทบ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน หัวใจสำคัญคือ การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน” สาธิตกล่าว
ขณะที่ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ประธานอนุกรรมการฯ ที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์และสาธารณสุข ชี้เป้าหมายสำคัญของการขับเคลื่อนมติในกลุ่มการแพทย์และสาธารณสุข เช่น มติสานพลังปราบยุงลาย ที่ต้องใช้กลไกและเครื่องมือในระดับพื้นที่เป็นฐานปฏิบัติการสำคัญ รวมถึงการสนับสนุนให้ท้องถิ่นมีการจัดทำข้อกำหนดหรือเทศบัญญัติ หรือมติการจัดการเชิงระบบสู่ประเทศใช้ยาอย่างสมเหตุผลโดยชุมชนเป็นศูนย์กลาง ที่แม้ในระดับนโยบายมีการดำเนินการกันมามาก แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่หน่วยงานทั้งหลายจะร่วมกันทำอย่างไรให้ประชาชนมีความรอบรู้ด้านการใช้ยาและสามารถดูแลตนเองเบื้องต้นได้เมื่อเจ็บป่วย
ทางด้าน ทิพย์รัตน์ นพลดารมย์ ประธานอนุกรรมการฯ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพสังคมและสุขภาวะ กล่าวถึงความก้าวหน้าในมติ ‘ทบทวนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ มาตรการทำให้สังคมไทยไร้แร่ใยหิน’ ว่าที่ผ่านมามีการประชุมร่วมกับภาคีเครือข่ายและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และมีข้อเสนอร่วมสำคัญต่อแนวทางการขับเคลื่อนในปี 2564-2565 นั่นคือ ให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานรัฐต้นแบบในการประกาศไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของแร่ใยหินในระบบการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ ใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และประกาศให้โรคที่เกิดจากเหตุแร่ใยหินเป็นกลุ่มโรคสำคัญ ภายใต้ พ.ร.บ. โรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562 โดยเร็ว และเราก็คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีองค์กรหน่วยงานอื่นๆ รวมไปทั้งภาคเอกชนและประชาชนร่วมกันยกเลิกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบจากแร่ใยหินได้ในที่สุด
นอกจากนี้ยังเห็นควรให้มีมาตรการอื่นๆ เช่น การจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกัน สิ่งสำคัญคือต้องเร่งผลักดันรณรงค์ให้ความรู้และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร เพื่อสร้างความตระหนักแก่กลุ่มเป้าหมายต่างๆ
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล