‘พรรคชาติพัฒนา’ คือพรรคการเมืองที่น่าจับตาไม่แพ้พรรคการเมืองอื่นๆ หากย้อนไปดูประวัติศาสตร์การก่อรูปองค์กรต้องบอกว่าเป็นพรรคการเมืองที่เปลี่ยนชื่อไปมามากที่สุด
เริ่มต้นจากชื่อ รวมชาติพัฒนา ต่อมาเปลี่ยนเป็น รวมใจไทยชาติพัฒนา ขยับมาเป็น ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน และเมื่อปี 2554 จึงปักหมุดใหม่กลับมาใช้ชื่อ ‘ชาติพัฒนา’
การเปลี่ยนแปลงชื่อพรรคแต่ละครั้ง มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไปพร้อมๆ กัน หากนับเอาชื่อแรกคือ รวมชาติพัฒนา ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2550 นับเนื่องจนถึงปัจจุบัน พรรคการเมืองนี้กำลังจะมีอายุครบ 1 รอบ และมีพลเอก เชษฐา ฐานะจาโร อดีตผู้บัญชาการทหารบก เป็นหัวหน้าพรรคคนแรก
แต่ใครที่เป็นคอการเมืองคงรู้จักชื่อพรรค ‘ชาติพัฒนา’ มานานแล้ว เพราะเคยเป็นชื่อเก่าของพรรคการเมืองที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2535 โดยมีพลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทยและอดีตนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้า มี ส.ส. และมีฐานเสียงส่วนใหญ่อยู่ในเขตภาคอีสาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นจังหวัดที่พลเอก ชาติชาย ลงเลือกตั้งตลอดชีวิตทางการเมือง
ก่อนที่ในปี 2548 ยุคของ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นหัวหน้าพรรค จะนำพรรคชาติพัฒนายุบรวมกับไทยรักไทย ปิดตำนานพรรคการเมืองเก่าแก่ และกลับมาฟื้นคืนชีพอีกครั้งในปี 2554 นี้เอง
ล่าสุดความเปลี่ยนแปลงของชาติพัฒนาเกิดขึ้นอีกครั้ง วันนี้ (21 พ.ย.) มีการประชุมใหญ่วิสามัญครั้งแรก เพื่อเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคใหม่ เดิม นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล นั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรค แต่วันนี้ที่ประชุมเคาะชื่อ ‘เทวัญ ลิปตพัลลภ’ น้องชายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ มีความหมายอยู่ในทีว่าสุวัจน์ ได้กลับมาอย่างเต็มตัวอีกครั้ง พร้อมๆ กับมีกระแสว่า เตรียมนั่งประธานที่ปรึกษาพรรค
ดล เหตระกูล หนึ่งในเครือญาติของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ เป็นเลขาธิการพรรค วิว-เยาวภา บุรพลชัย อดีตนีกกีฬาเทควันโด เหรียญทองแดงโอลิมปิก ขึ้นแท่นเป็นโฆษกพรรค แทน หม่อง-ชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา ที่ไปเป็นผู้อำนวยการพรรค ดันลูกชาย บะหมี่-ชนภัทท์ จันทรุเบกษา เข้าสู่สนามการเมืองแทน
ส่วนรองหัวหน้าพรรคมีชื่อ พลเอก ฐิติวัจน์ กำลังเอก บุตรชายของ พลเอก อาทิตย์ กำลังเอก อดีตผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งเป็นการกลับมาสานต่อสิ่งที่บิดาเคยก่อรูปไว้ เพราะพรรคชาติพัฒนาเป็นพรรคที่ดำเนินกิจการต่อเนื่องมาจากพรรคปวงชนชาวไทย ที่บิดาของเขาดำเนินการมาก่อน
เทวัญให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนหลังการประชุมว่า ตัวเองเป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 5 หากนับเอาเฉพาะชาติพัฒนาในอดีต ประกาศ ‘เดินสายกลาง’ ทางการเมือง
เทวัญยังได้ชูจุดขายของพรรคที่มี ‘น้าชาติ’ พลเอก ชาติชาย อดีตนายกฯ เป็นเสาหลัก เพราะเคยมีนโยบายที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาประเทศ ทั้งเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า ทำให้อีสานเป็นประตูสู่อินโดจีน ยกเอาวาทกรรมของน้าชาติมาชวนรำลึกถึงบทบาทที่เคยสร้างไว้
สุดท้ายเทวัญได้ประกาศสโกแกนของพรรคโดยยึดเอาคำพูดของน้าชาติมาใช้ นั่นคือ ‘ชาติพัฒนา No Problem’ และจะเชิญ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ มานั่งในตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรค โดยปฏิเสธที่จะออกความเห็นว่า สุวัจน์จะมีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯหรือไม่ พร้อมส่งผู้สมัครให้ได้มากที่สุดในทุกเขตทั่วประเทศ
บรรยากาศการประชุมวันนี้ มีสมาชิกพรรคทั้งใหม่และเก่า เข้าร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพรียง สมาชิกพรรคที่โดดเด่น ซึ่งเน้นคนรุ่นใหม่ อาทิ เมลิสา มหาพล มิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2006 เข้ามารับตำแหน่งรองโฆษกพรรค รวมถึง แม่หลวงกุ้ง-สุพัตรวี อยู่แพทย์ อดีตผู้ใหญ่บ้าน ตำบลหนองหอย จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีกระแสก่อนหน้านี้ว่าเป็นผู้ใหญ่บ้านที่สวยที่สุดในประเทศไทย และโอเล่-ณภูพรรษ์ ลอยแก้ว คนรุ่นใหม่ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พื้นที่จังหวัดอ่างทองและอดีตนักแสดง
ชาติพัฒนา มีเป้าหมายหลักยึด ส.ส. โคราชให้ได้ทุกเขต หากมองภาพเกมการเมืองยามนี้ โคราชคือประตูสู่อีสานที่ทุกพรรคหวังโกยแต้ม เพราะมีเก้าอี้ ส.ส. มากที่สุด จากนี้ต้องดูกันต่อไปว่า ชาติพัฒนาที่มีโคราชเป็นเมืองหลวงการเมือง จะปิดประตูโกยแต้ม เก็บคะแนนได้มากขนาดไหน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
