วันนี้ (27 พฤษภาคม) ศุภชัย ใจสมุทร ฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า จากการติดตามข้อมูลพบว่า สำนักงานอัยการสูงสุดได้หนังสือจาก ไวยกาญจน์ จามิกรณ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 จำนวน 2 ฉบับ ถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพื่อนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีฟอกเงินการขายที่ดินของ ศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น วงเงิน 477 ล้านบาท โดยมี ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็น 1ใน 14 ผู้ถูกกล่าวหาด้วย
หนังสือฉบับแรกลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 เรื่อง ‘ขอให้จัดการให้ได้ตัวผู้ต้องหา’ โดยมีรายละเอียดว่า พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 ได้พิจารณาสำนวนคดีดังกล่าวแล้วมีคำสั่งฟ้อง ณฐพร ผู้ต้องหาที่ 2 และผู้เกี่ยวข้อง ในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และประมวลกฎหมายอาญา
แต่เนื่องจากณฐพรมีพฤติการณ์หลีกเลี่ยง ไม่มารายงานตัวต่อพนักงานอัยการตามกำหนดนัดด้วยเหตุดังกล่าว จึงขอให้ท่านจัดการติดตามให้ได้ตัวณฐพรมาฟ้องต่อศาล หากไม่สามารถติดตามตัวณฐพรมาได้ ให้ดำเนินการขอออกหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าวเพื่อให้ได้ตัวมายื่นฟ้องต่อศาลภายในกำหนดอายุความ 15 ปีนับแต่วันกระทำความผิด และหากตรวจสอบแล้วพบว่าผู้ต้องหาดังกล่าวอยู่ต่างประเทศ ให้จัดการให้ได้ตัวมาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาโดยเคร่งครัด และตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดให้ครบถ้วน อนึ่งคดีนี้มีกำหนดขาดอายุความในวันที่ 15 มิถุนายน 2568
จากนั้นมีหนังสือฉบับที่ 2 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เรื่อง ‘เตือนให้จัดการให้ได้ตัวผู้ต้องหาและขอออกหมายจับ’ ที่ได้ขอให้ดำเนินการจัดการให้ได้ตัวนายณฐพร และผู้เกี่ยวข้อง มาดำเนินคดีร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน หรือขอออกหมายจับ เพื่อพนักงานอัยการจะได้นำตัวผู้ต้องหาฟ้องต่อศาลต่อไป
บัดนี้ระยะเวลาได้ล่วงเลยมาเป็นเวลาพอสมควรแล้ว แต่พนักงานสอบสวนมิได้ดำเนินการ อย่างหนึ่งอย่างใด ทั้งมิได้รายงานหรือแจ้งผลการดำเนินการให้พนักงานอัยการทราบ เนื่องจากคดีนี้จะครบกำหนดอายุความในการกระทำความผิดตามบทกฎหมายข้างต้นในวันที่ 15 มิถุนายน 2568 ดังนั้น จึงขอให้ท่านดำเนินการจัดการให้ได้ตัวณฐพร และผู้เกี่ยวข้อง มาเพื่อฟ้องต่อศาล
ศุภชัยกล่าวว่า จากเอกสารดังกล่าวที่สำนักงานอัยการพิเศษ 4 สอบถามถึงสองครั้ง แสดงว่า DSI เพิกเฉยที่จะนำตัวณฐพรมาให้อัยการดำเนินคดีฐานฟอกเงิน ทั้งที่คดีดังกล่าวจะหมดอายุความในวันที่15 มิถุนายน 2568 และทั้งๆ ที่ DSI ก็พบเห็นบุคคลดังกล่าวอยู่ตลอด โดยณฐพรมาปรากฏตัวยื่นร้องเรียนเรื่องตามสถานที่ต่างๆ เป็นที่รับรู้โดยตัวไป
นอกจากนี้ณฐพรยังยืนยันด้วยว่าได้ข้อมูลเรื่องการสอบสวนคดีฮั้ว สว. มาจาก DSI โดยแสดงเอกสารให้เห็น จึงชี้ให้เห็นว่าอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือพนักงานสอบสวน DSI พบกับณฐพร ดังนั้นการที่มีเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น แต่ไม่ดำเนินจับกุมตัวมาดำเนินคดี จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของ DSI
จึงเรียกร้อง ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ สั่งการให้ DSI นำตัวณัฐพรเพื่อส่งให้อัยการเพื่อดำเนินคดีฐานฟอกเงิน ขณะเดียวกันให้เรียกร้องกระทรวงยุติธรรมสั่งการให้ตรวจสอบเรื่องนี้ในทันทีและแถลงให้ประชาชนทราบ
ศุภชัยกล่าวอีกว่า หากยังมีการเพิกเฉยอยู่ตนก็จะไปร้องทุกข์กล่าวโทษอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานความผิดปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบต่อ ป.ป.ช. ในทันที
ภาพ: ครอบเอาแค่คนกลาง