×

Nasdaq 100 เตรียมปรับเกณฑ์คำนวณน้ำหนักดัชนีกรณีพิเศษ หลังหุ้นบิ๊กเทคครอบงำดัชนีเกินครึ่ง

12.07.2023
  • LOADING...

การเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งของบรรดาหุ้นเทคฯ เมกะแคปอย่าง Apple และ Microsoft ได้ทำหุ้นเหล่านี้ฝ่าฝืนขีดจำกัดสูงสุดที่กำหนดไว้ในดัชนี Nasdaq 100 ด้วยเหตุนี้ Nasdaq จึงได้ประกาศ ‘การปรับสมดุลแบบพิเศษ’ โดยจะดำเนินการกระจายน้ำหนักของหุ้นในดัชนีรูปแบบใหม่ 

 

ตามคำแถลงของ Nasdaq เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 กรกฎาคม) ระบุว่า การปรับครั้งใหม่นี้จะเกิดขึ้นก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ โดยจะจัดการกับความเข้มข้นที่มากเกินไปของหุ้นบางส่วนในดัชนี และจะประกาศการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในวันที่ 14 กรกฎาคมนี้ โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะไม่มีการนำหุ้นเข้าหรือออกจากดัชนี

 

ดัชนี Nasdaq 100 เป็นดัชนีที่ให้น้ำหนักกับการคำนวณโดยอิงจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) เป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่เพียงแค่ปัจจัยเดียว ตัวอย่างเช่น ณ วันที่ 7 กรกฎาคม หุ้น Microsoft มีน้ำหนักมากที่สุดที่ 12.9% แต่หุ้น Apple มีน้ำหนัก 12.5% แม้ว่าหุ้น Apple จะมี Market Cap อยู่ที่ 2.999 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่า Microsoft ที่ 2.51 ล้านล้านดอลลาร์

 

 

การดำเนินการที่แปลกใหม่ของ Nasdaq เป็นผลพวงมาจากการปรับตัวขึ้นอย่างไม่หยุดยั้งของตลาดในปีนี้ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยกระแส AI อย่างรุนแรง และได้จุดประกายการถกเถียงอย่างเผ็ดร้อนภายในวอลล์สตรีทว่าความก้าวหน้าดังกล่าวในตลาดจะคงอยู่ต่อไปได้หรือไม่

 

แม้ว่ารายละเอียดในการดำเนินการจะยังไม่แน่ชัด แต่ในเว็บไซต์ของ Nasdaq ระบุว่า การปรับสมดุลพิเศษสามารถเกิดขึ้นได้ในกรณีที่หุ้นในดัชนีเกินเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ในเอกสารกล่าวว่าน้ำหนักต่อดัชนีของหุ้นสามารถถูกปรับลดลงได้ หากหุ้นขนาดใหญ่แต่ละตัว (ที่มีน้ำหนักมากกว่า 4.5% ต่อดัชนีขึ้นไป) มีน้ำหนักต่อดัชนีรวมกันคิดเป็นสัดส่วนเกิน 48%  

 

ข้อมูลจาก Bloomberg ระบุว่า ณ วันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา หุ้น 6 บริษัทอย่าง Microsoft, Apple, Alphabet, Nvidia, Amazon และ Tesla มีน้ำหนักรวมกันต่อดัชนี 50.9% หากอิงจากวิธีการคำนวณของ Nasdaq จะทำให้น้ำหนักของทั้ง 6 หุ้นนี้ต่อดัชนีรวมกันลดลงเหลือ 40% 

 

จากข้อมูลของ Cameron Lilja ประธานฝ่ายปฏิบัติการของ Nasdaq ระบุว่า การปรับน้ำหนักมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้จัดการกองทุนที่เกี่ยวข้องกับดัชนี Nasdaq 100 สามารถปฏิบัติตามกฎการกระจายความเสี่ยงของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) ที่จำกัดน้ำหนักรวมของการถือครองหุ้นที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งมีตั้งแต่ 5% จนถึง 50% ตามกรณี 

 

นักวิเคราะห์จาก Wells Fargo เผยว่า หุ้นที่ ‘ใหญ่รองลงมา’ จากเมกะบิ๊กเทค จะได้รับอานิสงส์จากการปรับน้ำหนักครั้งใหม่ ตัวอย่างเช่น หุ้น Starbucks (SBUX), Mondelēz International (MDLZ), Booking Holdings (BKNG), Gilead Sciences (GILD), Intuitive Surgical (ISRG), Analog Devices (ADI) และ Automatic Data Processing (ADP)

 

ในขณะที่บรรดาบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดจะถูกลดสัดส่วนลง กองทุนติดตามดัชนี เช่น Invesco QQQ Trust (QQQ) จะต้องปรับเปลี่ยนการถือครองเช่นกัน การสับเปลี่ยนนี้ไม่น่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งต่อผลการดำเนินงานของ Nasdaq ในอนาคต โดย Apple, Microsoft และ Amazon จะยังคงเป็นผู้นำในมาตรวัดที่เหมาะสมต่อไปกับมูลค่าตลาดที่สูงถึง 13 หลัก 

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising