วันนี้ (15 กรกฎาคม) ตำรวจสอบสวนกลางร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) แถลงข่าวปฏิบัติการ ‘นารีพิฆาตพระ’
โดยสามารถจับกุม วิลาวัลย์ หรือที่รู้จักกันในนาม ‘สีกากอล์ฟ’ อายุ 35 ปี ได้ภายในบ้านพักในจังหวัดนนทบุรี ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในข้อหา สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ, ร่วมกันฟอกเงิน, สมคบกันฟอกเงิน และรับของโจร
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นนโยบายเร่งด่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยได้มีการสืบสวนเชิงรุกหลังพบพฤติกรรมกรรโชกทรัพย์พระสงฆ์ ซึ่งสร้างความเสียหายต่อสถาบันศาสนาอย่างรุนแรง
การสืบสวนพบว่า วิลาวัลย์ มีพฤติกรรมแบล็กเมลพระสงฆ์หลายรูป โดยอ้างว่ามีความสัมพันธ์และเรียกร้องเงินจำนวนมาก จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า วิลาวัลย์ มีเงินหมุนเวียนสูงถึง 385 ล้านบาท ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้เล่นการพนันออนไลน์
พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า ได้แบ่งกลุ่มพระสงฆ์ที่เกี่ยวข้องออกเป็น 3 กลุ่ม
1. กลุ่มที่ร่วมประเวณีและเสพเมถุน: มี 9 รูป ส่วนใหญ่ได้ลาสิกขาไปแล้ว เหลือเพียง 1 รูปคือเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก
2. กลุ่มที่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว: มี 3 รูป ซึ่งถือเป็นการผิดวินัยร้ายแรง
3. กลุ่มที่ประพฤติตนไม่เหมาะสม: อยู่ระหว่างการคัดกรองข้อมูล
ด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า มีผู้เสียหาย 2 รายที่เข้ามาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ วิลาวัลย์ ได้แก่ อดีต ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร ในข้อหา ฉ้อโกง และอดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรในข้อหา รีดเอาทรัพย์ จากพฤติกรรมข่มขู่ว่าจะเปิดเผยความสัมพันธ์เพื่อเรียกเงิน
ภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการ ป.ป.ท. ยืนยันว่า ปฏิบัติการครั้งนี้มุ่งหมายที่จะกวาดล้างและฟื้นฟูศรัทธาให้กับพระพุทธศาสนา โดยเชื่อว่ายังมีผู้เสียหายอีกหลายคนที่ยังไม่กล้าออกมาแสดงตัว จึงขอเชิญชวนให้เข้ามาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลา โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกเก็บเป็นความลับ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมข้อมูลทั้งหมดเพื่อนำไปสู่การขยายผลการจับกุมอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการนัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันที่ 17 กรกฎาคมนี้ เพื่อตรวจสอบข้อมูลพระสงฆ์ทั่วประเทศที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อไป