×

นคร มาฉิม พร้อมแลกแม้ไร้อนาคตการเมือง จุดยืนเดียวคือประชาธิปไตยและประชาชน

02.08.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

8 Mins. Read
  • นคร มาฉิม อดีต ส.ส. พิษณุโลก 5 สมัย เคยร่วมชายคาพรรคประชาธิปัตย์ หลังออกมาเขียนข้อความสารภาพผิดทางการเมือง สร้างแรงกระเพื่อมต่อค่ายพระแม่ธรณีอย่างหนัก ประกาศพร้อมสู้หากมีคดี ขอแค่เรียกพยานมาให้หมดทั้ง คสช. และตุลาการ
  • นครเชื่อว่ามีพี่น้องพรรคประชาธิปัตย์อีกหลายคนที่ไม่เอาเผด็จการ เรียกร้องขอให้หันมาสู้ร่วมกับประชาชนเพื่อเอาประชาธิปไตยกลับมา
  • เขาประกาศไม่ร่วมงานกับพรรคการเมืองที่ซูเอี๋ยเผด็จการ ลั่นถ้าไม่มีพรรคไหนรับก็จะตั้งพรรคเอง หรือออกไปหางานอื่นทำ

หลัง นคร มาฉิม อดีต ส.ส. พิษณุโลกหลายสมัยออกมาเขียนบทสารภาพทางการเมืองที่พุ่งตรงไปที่จุดตาย ขยายความถึงปฏิบัติการล้มประชาธิปไตยในสนามการเมืองช่วงที่ผ่านมา (คลิกอ่าน)

 

บทสารภาพดังกล่าวร้อนแรงขึ้นไปอีกเท่าตัว เมื่อสารฉบับนี้มีการสารภาพความผิดและขอโทษต่ออดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ตัวละครสำคัญในการเมืองไทย ทำให้มีทั้งคนรักและคนชังออกมาตอบโต้อย่างเต็มอัตรา

 

ค่ายพระแม่ธรณีดูจะร้อนแรงออกตัวมากที่สุด ด้วยนครเคยอยู่ร่วมชายคาประชาธิปัตย์ สังฆกรรมทางการเมืองร่วมกันมาหลายสิบปี แต่นครบอกกับ THE STANDARD ว่าเขาไม่ได้เอ่ยชื่อพรรคไหนในข้อเขียนนั้นแม้แต่นิดเดียว

 

และต่อไปนี้คือบทสนทนาที่พยายามหาที่มาที่ไปของเหตุผลในการออกมาเขียนบทสารภาพดังกล่าว วันที่ทีมงานนัดพูดคุย ระหว่างสนทนามีสายโทรเข้าหานครอยู่ตลอดเวลา เราจึงตกลงใช้เวลาให้กระชับมากที่สุด และต่อไปนี้คือเรื่องราวจากปากของเขา

ในใจลึกๆ เราไม่เห็นด้วย ในเมื่อนายกฯ ยิ่งลักษณ์เขายุบสภาคืนอำนาจแล้วมันควรที่จะเดินไปสู่การเลือกตั้ง แต่ตอนนั้นทางพรรคมีมติว่าให้ ส.ส. ทุกคนลาออก พวกเราก็ออกหมดเลย ผมก็ลาออก

 

นคร มาฉิม คือใคร

ตอบแบบเข้าใจกระชับๆ เลยนะครับ ผมเกิดที่อำเภอนครไทย เป็นเด็กท้องทุ่ง ลูกชาวไร่ชาวนา อยู่กับป่ากับเขา ช่วยพ่อแม่ทำไร่ไถนาตามวิถีชนบท เป็นลูกศิษย์วัด บวชเรียน เรียน กศน. และมาจบกฎหมาย ทำงานด้านกฎหมาย ทำงานเป็นยุวประชาธิปัตย์รุ่นแรกๆ ก็มีความผูกพันกัน

 

ต่อมาประชาชนให้เราได้มีโอกาสเป็น ส.ส. ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม 2544 นั่นคือสมัยแรกที่สมัครแล้วได้เลย เราก็งง ชนะคู่แข่ง 237 คะแนน ซึ่งเขาเป็นอดีต ส.ส. 3-4 สมัย

 

แต่ตอนนั้นประชาธิปัตย์ได้เสียงน้อย ส่วนไทยรักไทยซึ่งนำโดยคุณทักษิณได้เสียงมากกว่าประมาณ 248 เสียง คุณทักษิณก็เป็นนายกฯ เราก็เป็นฝ่ายค้าน

 

แต่ในฐานะที่เป็นฝ่ายค้าน เราก็ทำหน้าที่โดยเอาปัญหา เอาความเดือดร้อนของประชาชนทั้งหมดมายื่นเป็นกระทู้บ้าง อภิปรายงบประมาณบ้าง เป็นคำถามบ้าง ปรากฏว่าพอครบ 4 ปี เลือกตั้งครั้งที่ 2 ปี 2548 ตอนนี้ประชาชนให้โอกาสเพิ่มขึ้น ชนะคู่แข่งจากไทยรักไทยแบบท่วมท้นเป็นหมื่นคะแนน

 

สมัยที่ 3 ก็ชนะคู่แข่งครึ่งๆ เพราะเป็นเขตใหญ่ ผมได้ประมาณ 90,000 คู่แข่งอย่างไทยรักไทยได้ประมาณ 45,000 พอมาสมัยที่ 4 ตอนนั้นไทยรักไทยถูกยุบ พลังประชาชนถูกยุบ แล้วก็มาเป็นเพื่อไทยในปี 2554 ก็ชนะอีก

 

ตอนนั้นก็คิดว่าอยากจะทำงาน จิตวิญญาณเราก็รักประชาชน ต้องการแก้ปัญหาที่ดิน ต้องการแก้ไขปัญหาความยากจน เรื่องแหล่งน้ำ เรื่องสินค้าเกษตรตกต่ำ แล้วก็ดูแลความเป็นธรรมที่ประชาชนถูกกดขี่ข่มเหงจนเดือดร้อน เราก็สู้ให้

สุดท้ายก็มีมติว่า ‘คว่ำบาตร’ วันนั้นเดือนธันวาคม ปี 2556 พอพรรคตัดสินใจบอยคอตการเลือกตั้ง ผมก็ขออนุญาตลาออกทันทีในวันเดียวกันนั้น

 

ช่วยเล่าย้อนเหตุการณ์นิรโทษกรรมที่นำไปสู่รัฐประหารเวลานี้

พอการเลือกตั้งปี 2554 จบลงเราก็ชนะอีก ในยุคของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ตอนนั้นก็มีการเสนอนิรโทษกรรม ผมเองเป็นตัวแทนของพรรคในการเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติร่วมกับพลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน เพื่อหาทางออกให้กับประเทศ เพราะมองว่าสังคมมันวิกฤต มีความแตกแยก แบ่งฝักฝ่าย ซึ่งตอนนั้นเรามีบทสรุปกันว่าคดีทางการเมืองทั้งหมดควรนิรโทษ

 

ส่วนคดีอาญาและคดี 112 เราไม่แตะต้อง ให้ว่ากันไปตามกระบวนการ ทีนี้พอรัฐบาลเสนอร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมก็มีม็อบ กปปส. เรียกร้องต่อสู้


ผมเองได้อยู่ในหลายๆ เหตุการณ์ ได้ไปหลายที่ ได้อภิปรายความคิดเห็น จนสุดท้ายนายกฯ ยิ่งลักษณ์ก็ถอนร่าง พ.ร.บ. ออก ม็อบ กปปส. ส่วนหนึ่งก็หายไป เหลือกลุ่มที่มีการจัดตั้ง ซึ่งเราต้องยอมรับว่ามันมีการจัดตั้งมาบางส่วน

 

ได้ขึ้นเวที กปปส. ไหม แม้ในเวลาต่อมาจะมีการยุบสภา

ไม่ได้ขึ้น ในใจลึกๆ เราไม่เห็นด้วย ในเมื่อนายกฯ ยิ่งลักษณ์เขายุบสภาคืนอำนาจแล้วมันควรที่จะเดินไปสู่การเลือกตั้ง แต่ตอนนั้นทางพรรคมีมติว่าให้ ส.ส. ทุกคนลาออก พวกเราก็ออกหมดเลย ผมก็ลาออก

 

ทำไมต้องลาออกจากการเป็น ส.ส. เล่าให้ฟังหน่อย

เพื่อให้สภามันเดินไปไม่ได้ ให้สภามันหยุด พอหลังจากพวกเราลาออกก็มาประชุมกันว่าจะลงเลือกตั้งต่อหรือว่าจะเอายังไง

 

ผมเองก็สู้ บอกว่าเราเป็นสถาบันการเมือง เป็นนักการเมือง เราควรรักษาระบอบประชาธิปไตยไว้ ขอให้ลงเลือกตั้งเถอะ แพ้ชนะให้อยู่ที่ประชาชน

 

ก็มีคนหนึ่งพูดมา แต่ก็ขอเอารายละเอียดไปพูดกันในศาลก็แล้วกัน เขาบอกว่า “ลงแล้วแพ้ ลงทำไม ต้องมีวิธีอื่น” สุดท้ายก็มีมติว่า ‘คว่ำบาตร’ วันนั้นเดือนธันวาคม ปี 2556 พอพรรคตัดสินใจบอยคอตการเลือกตั้ง ผมก็ขออนุญาตลาออกทันทีในวันเดียวกันนั้น

พอนึกย้อนกลับไปเราก็มีส่วนร่วมในการล้มรัฐบาลประชาธิปไตย มันส่งผลกระทบต่อบ้านเมือง ต่อพี่น้องประชาชนมากมายถึงขนาดนี้

 

เพราะไม่เห็นด้วยกับแนวทางของพรรคใช่ไหม

ไม่เห็นด้วยกับการบอยคอต ก็เลยขออนุญาตไปตายเอาดาบหน้าแล้วก็ประกาศจุดยืนตัวเอง ต่อให้ผมจะตาย ผมก็ไม่ยอมก้มหัวรับใช้เผด็จการ ก็เดินออกมาเลย

 

บทสารภาพทางการเมืองที่เขียนล่าสุด ความตั้งใจของคุณคืออะไร

อันที่จริงผมก็ไม่ได้คิดว่าจะเกิดเอฟเฟกต์อะไรหรอก

 

แต่เพราะเราเห็นว่าบ้านเมืองบอบช้ำมาก ประชาชนเดือดร้อนจากการปกครองของระบอบเผด็จการที่เข้าปีที่ 5 ผมไปเข้าหาชาวไร่ เกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน เขาก็เดือดร้อนกันไปทุกหย่อมหญ้า แล้วหันกลับมามองรัฐบาลของคุณประยุทธ์

 

ประชาชนบางคนก็มองว่านอกจากคุณประยุทธ์จะไม่อินังขังขอบหรือแคร์ต่อความรู้สึกของประชาชนแล้ว คุณประยุทธ์กลับขู่ ตะคอก ด่าประชาชนเสมือนหนึ่งเป็นทาสเป็นไพร่

 

ประชาชนเดือดร้อนอยู่ก็มาถามเราว่า “ผู้แทน เมื่อไรจะเลือกตั้ง” เราก็ตอบว่าไม่รู้ ก็อยู่ที่ทหาร เขายึดอำนาจเราไปแล้ว 5 ปี ตอนนี้เดือดร้อนแล้ว วิกฤตแล้ว

 

พอนึกย้อนกลับไปเราก็มีส่วนร่วมในการล้มรัฐบาลประชาธิปไตย มันส่งผลกระทบต่อบ้านเมือง ต่อพี่น้องประชาชนมากมายถึงขนาดนี้ เราเลยบอกว่าเนื่องในโอกาสวันเกิดคุณทักษิณ นอกจากจะอวยพรขอให้คุณพระศรีรัตนตรัยคุ้มครองให้ท่านสุขภาพแข็งแรงแล้ว

 

อยากจะย้อนรำลึกว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา เราเองก็อยากจะรับผิด ยอมรับผิด ก็ตรงๆ แฟร์ๆ

 

โดยใช้เวลาที่ทุกอย่างมันสุกงอมอยู่ในตัว เพราะเราเองเป็นคนทำวิทยานิพนธ์เรื่องนี้ มองด้วยพยานหลักฐานทางการเมือง ด้วยข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ผลกระทบที่เกิดจากการยึดอำนาจมันไม่ได้กระทบต่อเราอย่างเดียว แต่กระทบต่อประเทศทั้งหมด ก็เลยขอโทษ

สิ่งที่เหนือกว่าพรรค เหนือกว่าตัวบุคคลมันคือประเทศ มันคือประชาชน มันคือระบอบประชาธิปไตย แล้วเรารู้เห็นว่าระบอบประชาธิปไตยและประชาชนที่ถูกกดขี่เขาไม่ต้องการเผด็จการ

 

ไม่มีเบื้องหลัง ไม่มีใครบอกแน่นะ

ไม่มี ไม่ได้พูด ไม่ได้คุย ตอนนั้นมาทำงานแล้วขับรถจากกรุงเทพฯ ไปพิษณุโลกกว่าจะถึงก็ 6 โมงเย็น พอไปถึงเลยนั่งพักเหนื่อย

 

พอดีนึกขึ้นได้ เพราะเห็นข่าวโทรทัศน์ว่าวันนี้วันเกิดอดีตนายกฯ เลยมานั่งพิมพ์ความรู้สึก 1 ชั่วโมง พอพิมพ์เสร็จมันก็ตรงกับข้อเท็จจริง ปรากฏความในใจตรงกับสิ่งที่เราได้สัมผัส

 

แล้วเราได้มองเห็นภาพรวมว่าเครือข่ายมีใครบ้าง นายทุน ขุนศึก ศักดินา บริษัท ห้างร้าน กลุ่มข้าราชการบางคน บางพวก กลุ่มตุลาการที่ได้เคยเห็น เคยสัมผัส ผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนมาเล่าให้ฟังว่ามีใครบ้าง ใครสนิทสนมกับใคร ใครเป็นพวกใคร เกือบ 20 ปีที่พี่สัมผัสอยู่วงใน  

 

ก็เลยมองไปแล้วเขียน แล้วก็ไม่ได้พาดพิง ใจตอนนั้นไม่ได้พูดถึงพรรคการเมืองใดเลย พูดอยู่คำเดียว เราเป็นอดีต ส.ส. ของพรรคนี้เท่านั้นเอง

 

ตอนนั้นไม่ได้คิดว่าสิ่งที่เขียนจะมีผลสะเทือนขนาดนี้

ไม่ได้คิด

 

แต่ตอนนี้มันมีเสียงสะท้อนกลับมาเยอะมาก มองว่าเป็นเพราะอะไร

มันอาจจะเป็นความสุกงอมของสังคมที่เขาเบื่อหน้าเผด็จการแล้ว มันอาจเป็นความต้องการประชาชนที่เราเริ่มสัมผัสแล้วว่าเผด็จการไม่ได้ดีจริง มีแต่ความยากจน กดขี่ข่มเหง กฎกติกาไม่ใช่เพื่อปฏิรูป แต่เพื่อตนเองและพวกพ้อง โครงสร้างระบอบกลายเป็นของเผด็จการ เพื่อเผด็จการ โดยเผด็จการ

อยากจะบอกนะ ถ้าใครจะคบก็มาคบ แล้วเราคบกันด้วยใจ ถ้าใครเห็นวิถีการต่อสู้โดยเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง เอาประชาธิปไตยเป็นที่ตั้งแล้ว ใครจะประณามหยามเหยียดเราก็ห้ามเขาไม่ได้

 

ยืนยันว่าสิ่งที่ตนเขียนไม่มีตรงไหนแตะประชาธิปัตย์ หรือไปบอกว่าประชาธิปัตย์เป็นส่วนที่ทำให้ประชาธิปไตยหายไปจากสังคมไทย

ไม่มีเลย ผมบอกคำเดียวว่าผมเป็นอดีต ส.ส. ประชาธิปัตย์

 

เป็นไปได้ไหมที่เขาจะรู้สึกว่าคุณแหกคอกธรรมเนียม

ไม่รู้ความคิดเขาจริงๆ

 

หลายคนโจมตีหรือครวญว่าทำไมอยู่กับพรรคมาแต่ทำแบบนี้ หรือใช้คำว่าเนรคุณก็มี มองอย่างไร

หลายคนอาจจะประณามเราแบบนั้น แต่ความรู้สึกของเราคือไม่เคยเนรคุณต่อบุญคุณคนหรือต่อพรรคเลยนะ เราเคารพพรรค

 

แต่สิ่งที่เหนือกว่าพรรค เหนือกว่าตัวบุคคลมันคือประเทศ มันคือประชาชน มันคือระบอบประชาธิปไตย แล้วเรารู้เห็นว่าระบอบประชาธิปไตยและประชาชนที่ถูกกดขี่เขาไม่ต้องการเผด็จการ

 

แต่ในฐานะนักการเมือง ต้นทุนที่จ่ายมันก็สูง หนึ่ง ความสัมพันธ์กับพรรค สอง ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานอาจจะหายไป ไม่เสียดายเหรอ

อยากจะบอกนะ ถ้าใครจะคบก็มาคบ แล้วเราคบกันด้วยใจ ถ้าใครเห็นวิถีการต่อสู้โดยเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง เอาประชาธิปไตยเป็นที่ตั้งแล้ว ใครจะประณามหยามเหยียดเราก็ห้ามเขาไม่ได้ สุดแท้แต่เขา เราเลือกทางนี้ด้วยจุดยืน ด้วยอุดมการณ์ของเรา

 

ขอประกาศไม่ก้มหัวต่อเผด็จการ ยศตำแหน่งมันไม่สำคัญกับเรานะ สิ่งที่เหนือกว่าบุญคุณระหว่างคนมันคือประเทศ คือประชาชนนะ ใครจะคบกับเราหรือไม่คบก็ไม่มายด์นะ แต่ใครเป็นเพื่อนเรา เราเป็นเพื่อนตายกันนะ

 

มีใครโทรหาบ้างไหม

ก็มี ด่าก็มี สาดเสียเทเสียก็มี ให้กำลังใจก็มี

พร้อมสู้ มีหลักฐานในเชิงประจักษ์ ขออย่างเดียว ขอให้กระบวนการยุติธรรม กล้าออกหมายเรียกอดีตนายกฯ รวมทั้งนายกฯ คนปัจจุบัน หรือว่า คสช.

 

ยืนยันว่าไม่ได้เผาบ้านตัวเอง

ผมยืนยัน ผมต่างหากอยากจะให้พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย หรือทุกพรรคการเมืองพัฒนาตนเองไปสู่การเป็นสถาบันทางการเมือง อย่าตายไปกับตัวบุคคล คณะบุคคล

 

ขอให้พรรคต่างๆ เหล่านี้พัฒนาโครงสร้าง พัฒนานโยบาย ความคิดเห็น เพื่อเป็นทางเลือกและทางออกให้กับสังคมด้วยซ้ำ เราถึงทำวิทยานิพนธ์เรื่องพัฒนาการทางการเมืองเพื่อพัฒนาไปสู่ความเป็นสถาบัน

 

เมื่อวานพรรคเก่าของคุณเพิ่งแถลงข่าวว่าจะดำเนินคดี รู้สึกหวั่นไหวไหม

เฉยๆ ไม่หวั่นไหว หลักฐานพร้อม ทุกอย่างพร้อม ชีวิตก็พร้อม ต่อให้ตายก็จะพูดคำเดิม ต่อให้เอาไปขังก็จะพูดคำเดิม

 

บางคนอาจจะมองว่าถ้าไปอยู่พรรคอื่นแล้วกลัวว่าจะเป็นงูเห่า คุณมองอย่างไร

ไม่ๆ แล้วแต่เขาจะคิด แต่ถ้าคุณไปสมคบกับระบอบเผด็จการ ซูเอี๋ยกับระบอบเผด็จการ แล้วหันกลับมายึดอำนาจประชาชน เราต้องเป็นฝ่ายตรงข้ามกันไม่ว่าพรรคไหน

 

ถ้าไม่มีใครรับเลย ไม่มีใครให้อยู่เลย เราก็จะไปขอจดทะเบียนตั้งพรรคใหม่สู้ คนเดียวก็จะสู้ อย่างนี้จริงๆ หรือกลับไปทำมาหากินอย่างอื่นตามแนวทางของเรา

ผมก็อยากชวนพี่น้องประชาธิปัตย์อีกหลายคนที่ไม่ได้เห็นด้วยกับการเป่านกหวีด อีกหลายท่านที่ไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจ อยากเชิญชวนให้ทุกท่านหันมาช่วยกันสู้กับเผด็จการก่อน

 

บางคนมองว่าคุณสร้างเครดิต ปั่นราคาให้ตัวเอง

ไม่เกี่ยว ถ้าไม่มีพรรคไหนเอา ผมก็ไปทำมาหากินของผม ถ้ามีเวลาผมก็สร้างพรรคเอง แล้วก็สู้มันใหม่ แต่ถ้าเกิดว่าพรรคใดมีอุดมการณ์เดียวกัน ไม่ต้องเสียเวลาไปจัดตั้งพรรค เราสู้เพื่อประชาชน ต่อต้านเผด็จการ ล้างมรดกบาปของเผด็จการทั้งหมด เรามาร่วมกัน

 

หมอวรงค์บอกว่าคนพิษณุโลกผิดหวังกับคนชื่อนคร คุณได้ยินแบบเดียวกันไหม

ได้คุยกับชาวบ้าน ส่วนหนึ่งก็ให้กำลังใจ ส่วนหนึ่งก็ขอให้สู้ต่อไป อย่าไปท้อถอย ส่วนการตัดสินใจให้ประชาชนตัดสินใจดีกว่า ถ้าแพ้เราก็เป็นลูกชาวบ้าน อยู่กับชาวบ้าน จุดยืนเราอยู่กับประชาชนแน่นอน แต่ถ้าเกิดชนะ เราก็เป็นตัวแทนไปต่อสู้เพื่อรักษาประโยชน์ รักษาความชอบธรรมให้กับประชาชน มันก็แฟร์ ก็อยู่ที่ประชาชน

 

ผังล้มเจ้าของปลอม ผังล้มประชาธิปไตยของจริง มีหลักฐานไหม

แน่นอน พร้อมสู้ มีหลักฐานในเชิงประจักษ์ ขออย่างเดียว ขอให้กระบวนการยุติธรรม กล้าออกหมายเรียกอดีตนายกฯ รวมทั้งนายกฯ คนปัจจุบัน หรือว่า คสช. คนที่มีส่วนร่วม ข้าราชการบางคน ตุลาการบางคน องค์กรธุรกิจขนาดยักษ์ใหญ่บางกลุ่มมาเป็นพยานให้หมด แล้วจะรู้ว่าใครเป็นใคร

 

ก่อนหน้านี้ก็เคยถูกค้นบ้าน รู้สึกหวาดกลัวไหม

ตอนนั้นไปตรวจสอบการทุจริตของการใช้งบประมาณองค์การทหารผ่านศึกเรื่องขุดคลอง แล้วก็มีเค้าการทุจริตจริงๆ งบเป็นสิบล้าน ทำได้นิดเดียว ก็เลยบอกว่ามาตรวจสอบหน่อย เขาก็มาตรวจ พอมาตรวจแล้วก็ถูกค้นบ้าน ถูกเรียกปรับทัศนคติ ถูกคุกคาม ที่จริงมีหลายอย่างที่เราโดน

มีที่เสนอมา 4-5 พรรค หนึ่งในนั้นก็คือเพื่อไทยด้วย แต่ว่าผู้ใหญ่ของเพื่อไทยก็ยังไม่รู้ว่าพรรคจะถูกยุบอีกหรือเปล่า

 

เลยมองว่าแบบนี้ไม่แฟร์

มันถึงเวลาแล้ว คุณไม่มีความชอบธรรมตั้งแต่ต้น สร้างโครงสร้างให้อยู่ในอำนาจต่อไป 10 ปี 20 ปี มันไม่ถูก ประเทศควรเดินไปข้างหน้า

 

อยากจะฝากว่าไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมือง ตุลาการ กลุ่มทุน ขุนศึก ทหาร ข้าราชการ หลายคนที่เป็นคนดีไม่มีโอกาสขึ้นสู่อำนาจที่จะแสดงจุดยืน

 

บางองค์กร บางกลุ่ม บางพรรค ในช่วงสถานการณ์บางอย่างเขาอาจได้ผู้นำที่ไม่ดี เขาก็นำองค์กร พาสถาบันไปลงเหวผิดทิศทางจากระบอบประชาธิปไตย

 

แต่ผมเชื่อว่าคนที่มีใจเป็นธรรมยังมีอยู่ ผมก็อยากชวนพี่น้องประชาธิปัตย์อีกหลายคนที่ไม่ได้เห็นด้วยกับการเป่านกหวีด อีกหลายท่านที่ไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจ อยากเชิญชวนให้ทุกท่านหันมาช่วยกันสู้กับเผด็จการก่อน

 

ยืนยัน คนชื่อนครไม่มีเบื้องหลัง

ผมตัวคนเดียว  

 

ตอนนี้มีพรรคในใจหรือยัง หรือพรรคไหนทาบทามบ้าง

ได้มีการพูดคุยกัน มีที่เสนอมา 4-5 พรรค หนึ่งในนั้นก็คือเพื่อไทยด้วย แต่ว่าผู้ใหญ่ของเพื่อไทยก็ยังไม่รู้ว่าพรรคจะถูกยุบอีกหรือเปล่า ประกอบกับ คสช. ยังไม่ปลดล็อกพรรคการเมือง เลยทำอะไรไม่ได้

 

แต่ยืนยันว่าแนวทางทางการเมืองเป็นไปตามที่ให้สัมภาษณ์

อันนี้จากใจเลย ไม่มีอะไรแอบแฝงทั้งสิ้น

 

ภาพระหว่างการลงพื้นที่พบประชาชนของ นคร มาฉิม

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising