×

ครม. เห็นชอบหลักการ พ.ร.ก. เพิ่มอำนาจ ก.ล.ต. ลุยสอบสวนคดี พร้อมแก้กฎหมายฟัน Naked Short Selling มีโทษทั้งปรับ-อาญารุนแรง

27.03.2025
  • LOADING...
Naked Short Selling

พิชัย​ ชุณหวชิร​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง ได้เสนอ ร่าง พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ขอแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์  โดยได้มีการเสนอเหตุผล และความจำเป็น ที่จะต้องออกเป็น พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ของไทยอยู่ในภาวะทรงตัวตลอด​ 1 ปีที่ผ่านมา เคลื่อนไหวทรงตัวอยู่ในช่วง 1,600-​1,700 จุด หลังจากนั้นทยอยปรับลดลงมาต่อเนื่องที่ 1,400-1,500 จุด ส่งผลกระทบทำให้ความเชื่อมั่นของตลาดหายไป ทั้งมาจาก เรื่องแรก คือ สถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลก เรื่องที่สอง คือ ความเสี่ยงหรือความไม่แน่ใจจากการเลือกตั้งของสหรัฐฯ 

 

อีกทั้งมีปัจจัยที่ไม่ให้เกิดความเชื่อมั่นในตลาดทุนไทย เพราะกฎหมายในขณะนั้นไม่สามารถกำกับหรือดูแลการทำงานของหลักทรัพย์ที่อยู่ในตลาดหุ้นได้อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะประเด็นที่เป็นปัญหาอย่างมากคือธุรกรรมการทำ Short Selling หรือ Naked Short Selling ที่เป็นปัญหาใหญ่ เพราะพบว่ามีปริมาณการทำธุรกรรมที่สูงมากในช่วงที่ผ่านมา

 

อย่างไรก็ดีธุรกรรมการ Short Selling เป็นธุรกรรมปกติไม่ผิดกฎหมาย แต่การทำ Naked Short Selling คือธุรกรรมที่ทำโดยผู้ที่ไม่มีหุ้นในมือ แต่นำหุ้นออกไปขายแล้วกลับเข้าไปซื้อหุ้นคืนกลับมาเป็นธุรกรรมที่กฎหมายทั่วโลกและประเทศไทยไม่ได้อนุญาตให้ทำ ขณะที่กฎหมายของไทยไม่สามารถกำกับตรวจสอบธุรกรรมที่จากต่างประเทศได้ เพราะตามกฎหมายจะสามารถกำกับเฉพาะธุรกรรมในประเทศได้เท่านั้นที่ทำผ่านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ประกอบกับตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ เดิม สำนักงาน ก.ล.ต. ก็จะสามารถเอาผิดได้เฉพาะ บล. ที่กฎหมายให้อำนาจ แต่ไม่สามารถเอาผิดไปถึงผู้กระทำผิดในต่างประเทศได้ ดังนั้นจึงต้องแก้ไขกฎหมายเพื่อเพิ่มอำนาจในการกำกับดูแลให้สำนักงาน ก.ล.ต.

 

ทั้งนี้ในระหว่างที่กฎหมายฉบับนี้จะออก ก็ได้มีการออกมาตรการบรรเทาผลกระทบโดยกำหนดให้ผู้ทำ Short Selling  ตั้งมาลงทะเบียนแสดงตัว และแจ้งให้รับทราบว่าการ Naked Short Selling ผิดกฎหมาย โดยหลังการแก้กฎหมายจะส่งผลให้ผู้ทำ Naked Short Selling ถูกบทลงโทษทั้งปรับและอาญาที่มีความรุนแรงซึ่งเชื่อว่าจะช่วยปรามผู้ที่จะทำความผิดได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการในเรื่องนี้

 

โดยการออกมาตรการให้ผู้ที่ซื้อขายหุ้น รับทราบว่าการขายในลักษณะนี้ ผิดกฎหมายในประเทศไทย ดังนั้น การออกกฎหมายฉบับนี้ เมื่อทราบว่ามีการซื้อจากต่างประเทศ คนทำจะมี โทษปรับและโทษอาญาที่ค่อนข้างรุนแรง จึงมองว่าจะสามารถปราบปรามได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด และค่อนข้างเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน

 

นอกจากนี้ยังมีการแจ้งที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบ ถึงเหตุผลและความจำเป็น อย่างกรณีปัญหาใหญ่ๆ ที่พบความเสียหายเป็นหลักหมื่นล้านบาท เช่น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน). MORE, บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) เนื่องจากกระบวนการป้องกันตรวจไม่ทันท่วงที ดังนั้นจึงอยากจะยกระดับเพื่อจะดูผู้ประกอบวิชาชีพในตลาดทุนเช่นกลุ่มผู้สอบบัญชี โดยกำหนดขยายอำนาจหน้าที่จากระดับบุคคลให้ครอบคลุมไปถึงองค์กรของผู้สอบบัญชีอย่างเข้มงวดมากยิ่งขึ้นซึ่งเป็นอีกเรื่องที่เร่งด่วน

 

ขณะเดียวกันยังมีเรื่องของการกำหนดสิทธิของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อเกิดความเสียหายไปแล้ว ไม่ได้เสียหายเฉพาะหุ้นเท่านั้น แต่ผู้ที่ลงทุนหุ้นกู้ไว้ ก็ได้รับผลกระทบไปด้วยทั้งรายเล็กและรายใหญ่ ซึ่งไม่มีหน่วยงานเข้าไปกำกับดูแลอย่างเร่งด่วน ถึงต้องเพิ่ม ความเข้มงวด

“การกำหนดสิทธิของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้เรื่องกระบวนการดำเนินการแทนผู้ถือหุ้นกู้ ว่ากลุ่มไหนได้รับการคุ้มครองหรือไม่ ไม่ใช่ใครมือยาวสาวได้สาวเอา และเข้าไปกำกับถึงการฟื้นฟูองค์กร ก็ต้องว่าให้ความเป็นธรรมกับทั้งรายใหญ่รายย่อย ว่ามีสมเหตุสมผลหรือไม่กับกระบวนการฟื้นฟู หากฟื้นฟูไม่ได้ ต้องเข้ากระบวนการล้มละลาย จะมีการแบ่งสมบัติอย่างไร ต้องกำกับตั้งแต่เริ่มมีปัญหาทุจริต การไล่จับและการฟื้นฟู หากเข้ากระบวนการล้มละลายก็ต้องดูแลให้ทั่วถึง”

 

อีกทั้งในกรณีหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานหุ้นพื้นฐานที่ดี มีผลประกอบการดี แต่กลับมีปัญหาราคาหุ้นปรับลดลงต่อเนื่อง เพราะมีข่าวว่าผู้ถือหุ้นรายใหญ่บางรายได้นำหุ้นไปจำนำไว้ หรือนำไปลงทุนอย่างอื่น เมื่อมีปัญหาก็ถูก​ Forced sell​ หรือการบังคับขาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องเปิดเผยข้อมูลนำหุ้นไปจำนำในระดับหนึ่งที่มีสาระสำคัญให้นักลงทุนรับทราบ

 

ส่วนหลังจากนี้จะไปกำหนดว่ามี มีจำนวนการซื้อขายหุ้นในระดับเท่าไหร่จึงจะต้องเปิดเผย

 

นอกจากนี้อาจจะต้องเพิ่มมาตรการทางกฎหมายเพื่อให้ตรวจสอบได้ ทั้งการกระทำผิด มีมาตรการยับยั้งความเสียหาย เช่น หาก สำนักงาน ก.ล.ต. พบข้อมูลบ่งชี้ามีความน่าสงสัยจะเกิดการทุจริตในโครงการขนาดใหญ่ก็ควรเข้าไปยับยั้งเพื่อป้องกันความเสียหายตั้งแต่จุดเริ่มต้นได้

 

อีกทั้งที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ได้เห็นชอบในหลักการ คือให้ สำนักงาน ก.ล.ต. สามารถเป็นพนักงานสอบสวนในคดีได้ แต่ในทางปฏิบัติเชื่อว่า สำนักงาน (ก.ล.ต.) จะดำเนินการสอบสวนร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และตำรวจ โดยมอบหมายให้เลขากฤษฎีกาช่วยดูรายละเอียด คาดว่ากฤษฎีกาจะใช้เวลาในการพิจารณารายละเอียดประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งหากตรงตามหลักการก็จะมีการประกาศเป็น พ.ร.ก.ต่อไป 

 

พร้อมยังยืนยันว่าได้มีการสำรวจความเห็นนักลงทุนต่างประเทศมากับบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือแล้ว ซึ่งเห็นด้วยและบอกว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นการสร้างความเชื่อมั่น 

 

ด้าน ศ. ดร.พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. ระบุว่าในเรื่องของการสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนว่า อย่างเครื่องมือการ Short Selling ที่เป็นเครื่องมือสากลที่อนุญาตให้ทำได้ แต่ทำอย่างไรเพื่อไม่ให้คนใช้ช่องว่างในการกระทำผิด ที่ผ่านมาในต่างประเทศมีการเอาผิดที่ตัวบุคคล แต่กฎหมายของไทยไปที่เรื่องความปลอดภัย 

 

อย่างไรก็ดี ก.ล.ต. ไม่ได้รอกฎหมาย พ.ร.ก.ใหม่ที่จะออกเพื่อเอาผิด  Naked Short Selling เท่านั้น เพราะกฎหมายปัจจุบันก็สามารถเอาผิดได้ แต่อาจมีกระบวนการที่ไม่กระชับและใช้ระยะเวลาที่นานกว่า

 

ดังนั้น พ.ร.ก. ฉบับนี้จึงต้องทำให้เกิดการรายงานข้อมูลเพื่อลดขั้นตอนการตรวจสอบ โดยยืนยันว่าสำนักงาน ก.ล.ต. มีความพร้อมที่จะทำงานร่วมงานกับหน่วยงานทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง

 

ด้าน อัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เชื่อมั่นว่า ร่างกฎหมายดังกล่าว จะส่งผลดีต่อตลาดทุนโดยรวม เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องของการกำกับดูแลการซื้อขายและการตรวจสอบการทำธุรกรรมของบริษัทจดทะเบียนแล้ว ยังจะช่วยให้การดำเนินการทางคดีและการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการกระทำความผิดในตลาดทุนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถลงโทษผู้กระทำความผิดได้รวดเร็วมากขึ้น อันจะช่วยป้องปรามให้ผู้ที่คิดจะกระทำความผิดเกิดความเกรงกลัว โดยมาตรการต่างๆ ที่กำหนดเพิ่มเติมในร่างกฎหมายดังกล่าว สามารถจะเสริมสร้างความเชื่อมั่น (Trust & Confidence) ให้แก่ผู้ลงทุน ซึ่งถือเป็นวาระสำคัญเร่งด่วนของตลาดทุนไทยในขณะนี้

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising