11 ปีที่ชายหญิงคู่หนึ่งเติบโตบนเส้นทางสายอาชีพไปพร้อมๆ กับความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ ก่อตัวและเติบโตจนกลายเป็น ‘ความรัก’ และหลายๆ โมเมนต์นั้นได้ถูกถ่ายทอดออกมาใน On That Day EP.23 ที่ ณเดชน์ คูกิมิยะ และ ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ ในจังหวะที่ผลงานการแสดงนำเรื่องล่าสุดอย่าง ลายกินรี กำลังออกอากาศทั้งทางช่อง 3 และ Netflix อยู่ในเวลานี้
สามารถรับชมรายการ On That Day EP.23 ณเดชน์-ญาญ่า เปิดมุมมองความสัมพันธ์ของความรักที่ยิ่งกว่าในละคร ได้ที่นี่
“เวลาที่เราเหนื่อยจากการทำงานในกองถ่ายละครหรือถ่ายหนังที่เราได้ถ่ายด้วยกัน เราต้องการใครสักคนที่เราสามารถระบายอะไรสักอย่างกับปัญหาของการแสดง กับปัญหาของสิ่งแวดล้อมที่เราอยู่ มันจะมีตลอดเวลา แล้วเขา (ญาญ่า) จะเป็นคนที่ชอบปลอบเรา และใช้วิธีเสนอไอเดีย ลองคิดแบบนี้สิ หรืออาจจะเป็นเพราะแบบนี้ ไม่ได้เออออตาม แต่เขาช่วยเบรกเราด้วย รับฟังเราด้วย”
ณเดชน์ คูกิมิยะ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ On That Day EP.23 เกี่ยวกับสิ่งที่เขาได้รับเมื่อได้แสดงละครหรือภาพยนตร์ร่วมกับ ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์
“ผมว่าละคร ลายกินรี คือ Feminism ในยุคสมัยที่ผู้หญิงถูกบังคับไม่ให้ทำอะไรเลยนอกจากร้อยพวงมาลัย เย็บผ้า แต่ตัวละครของญาญ่าเป็นหมอผู้หญิง เขาเป็นตัวแทนของผู้หญิงที่จะบอกว่า ไม่ได้มีเพศใดเพศหนึ่งหรือไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่งที่ถูกขนานนามว่าเป็นหมอหลวงเท่านั้น แต่เขาเป็นผู้หญิงชาวบ้านที่มีองค์ความรู้เดียวกับหมอหลวงเลย แล้วเขาต้องการพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนรู้ว่าผู้หญิงทุกคนทำได้เหมือนกัน”
ณเดชน์ คูกิมิยะ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ On That Day EP.23 ถึงความน่าสนใจของละคร ลายกินรี และบทบาทการแสดงที่แตกต่างไปจากเดิมของ ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์
“ญ่ารู้สึกว่าทุกวันในชีวิตก็เป็นแบบนั้นเหมือนกันค่ะ แต่ด้วยยุคของเรื่องนี้ (ละคร ลายกินรี) มันคือยุคที่ Feminism ยังไม่มีตัวตนด้วยซ้ำ ก็เลยรู้สึกชอบการเปิดหัวข้อเหล่านี้ให้ผู้ชมได้มาขบคิดร่วมกัน ญ่าว่าเมื่อเราได้ดูละครเรื่องนี้จะรู้สึกว่าจริงๆ แล้ว เราควรจะยอมรับมาตั้งนานแล้ว”
ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ On That Day EP.23 เกี่ยวกับประเด็น Feminism ในละคร ลายกินรี และบทบาทที่เธอได้รับอย่าง หมอพุดซ้อน
“ผมจะติดอย่างหนึ่งคือเมื่อผมมีปัญหาอะไรผมจะไม่ค่อยพูด ซึ่งเขา (ญาญ่า) ก็ต้องขุด ถามเราว่ามีอะไรพูดออกมา แต่คือสุดท้ายเราก็ต้องคุยกัน ต่อให้เราไม่อยากพูดหรือเราไม่มีวิธีการพูดที่ดี ผมว่าสุดท้ายแล้วเราก็ต้องคุยกัน ต้องปรับความเข้าใจให้ไปในทิศทางเดียวกันให้ได้”
ณเดชน์ คูกิมิยะ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ On That Day EP.23 เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างตัวเขาและ ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ ที่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น
“ก่อนที่จะถึงจุดเปลี่ยนของเรา เรายังหาตรงกลางในการคุยกันไม่ได้ เพราะเราพูดอย่างเดียว แต่เขา (ณเดชน์) จะไม่ค่อยพูด จนมาถึงจุดๆ หนึ่งที่เหมือนเราโตไปพร้อมกันจริงๆ จุดนั้นคือเราคุยกันทุกอย่าง แล้วเราก็ประนีประนอมทุกอย่างค่ะ
“ถ้าย้อนไปประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว เราก็จะบอกว่า Communication ของเราไม่ค่อยดี แต่เมื่อมาถึงจุดที่ Communication ของเราดีมาก ชีวิตเปลี่ยนเลยค่ะ เพราะหัวใจสำคัญในความสัมพันธ์ของเราที่หนูรู้สึกว่ามันดีมากจนถึงทุกวันนี้ได้คือ Communication ที่มันดีขึ้นในทุกๆ ปีที่เราเติบโตไปด้วยกันค่ะ”
ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ On That Day EP.23 เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเธอและ ณเดชน์ คูกิมิยะ ที่ค่อยๆ เติบโตขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการพูดคุยที่เริ่มดีขึ้นในทุกๆ ปี
“ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะเรียนรู้หรือพยายามพัฒนาตัวเองให้เราได้เดินไปด้วยกัน ผมว่ามันไม่ได้ฝืนอะไรเลย มันอยู่ที่ว่าเราอยากจะเดินต่อกับเขา อยากจะเรียนรู้กับเขา อยากจะวาดฝันถึงวันที่ยิ่งใหญ่ของเรามากขนาดไหน ถ้าสมมติว่าเราตอบคำถามของความสัมพันธ์ของทั้งคู่ได้ขนาดนี้ ผมว่ามันก็คงไม่ใช่เรื่องยาก”
ณเดชน์ คูกิมิยะ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ On That Day EP.23 ถึงเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองและเริ่มเปิดใจพูดคุยในเรื่องต่างๆ กับ ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ มากขึ้น
“เมื่อก่อนเราอาจจะเดิมพันชีวิตด้วยเหตุผลอื่น เหมือนกับเราออกไปทำงานในวันนี้เพราะเราอยากได้ผลงานที่ดี แต่ญ่ารู้สึกว่าเมื่อเราโตขึ้น ถ้าเราสามารถเดิมพันชีวิตด้วยคำว่า ‘รัก’ ชีวิตเราจะดีขึ้นมาก นั่นคือสิ่งที่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับความรัก มันทำให้ชีวิตเรามีความสุขมากขึ้น”
ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ On That Day EP.23 เกี่ยวกับมุมมองความรักที่เปลี่ยนแปลงไป และสิ่งที่เธอได้เรียนรู้จากคำว่าความรัก
