แดนลึกลับยอดฮิตตั้งแต่ยุค 90s

     หากใครไม่คุ้นชื่อ Mysteryland คงคิดว่ามันเป็นชื่อของสวนสนุกสักแห่ง แต่จริงๆ แล้ว Mysteryland คือดินแดนลึกลับของเทศกาลดนตรีอิเล็กทรอนิกส์

     ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศเนเธอร์แลนด์ และไม่ใช่จัดกันมาแค่ปีสองปี เพราะเทศกาลนี้เขาจัดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1993 แล้ว เปรียบเป็นตำนานความสนุกที่อยู่คู่ชาวดัตช์ผู้หลงใหลในดนตรี EDM (Electronic Dance Music) มาถึง 24 ปี สนุกสนานกันมาตั้งแต่รุ่นน้าแบบ ‘Before EDM was cool’ และเทศกาลนี้ก็ค่อยๆ ขยายความฮอตขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนแฟนๆ ที่ล้นหลามขึ้นทุกปี จนปีล่าสุดนั้นบัตร Sold Out ในเวลาอันรวดเร็ว!

     Mysteryland นั้นลึกลับสมชื่อ เพราะหลังจากที่เราจอดรถบัสในสถานที่จอดแล้ว เราต้องใช้เวลาเดินเท้าเข้าไปอีกราวๆ 10-15 นาที ผ่านพื้นดินกับป่าหญ้าแห้งๆ และบางช่วงบางตอนก็เป็นหินกรวด แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆ เมื่อเรามองไปเห็นผู้ร่วมทริปของเราอย่าง ติช่า กันติชา ชุมมะ จิกรองเท้าส้นสูง 4 นิ้วเดินเข้างานอย่างไม่เหนื่อยอ่อน สมศักดิ์ศรีแชมป์ The Face Thailand จริงๆ!

Style within Style

     อีกหนึ่งความโดดเด่นของงานนี้คือ แฟชั่นการแต่งตัวแบบจัดหนักกันทุกหมู่เหล่า ซึ่งเราขอนับแค่เฉพาะสาวๆ เท่านั้นนะ เพราะชายหนุ่มก็ต่างไม่ค่อยใส่เสื้อใส่ผ้า เข้าใจว่าอากาศมันค่อนข้างร้อน ส่วนสาวๆ ก็ต่างงัดทุกสีสันและไอเท็มออกมาใส่กันอย่างสนุกสนาน และเทศกาลดนตรีแห่งนี้ก็ใช่ว่าจะต้องแต่งตัวเป็นเฉพาะฮิปปี้กันมา เพราะเราเห็นตั้งแต่ลุคซูเปอร์โมเดล ลุคแคชวลสบายๆ เซ็กซี่ลุคด้วยบิกินีและเสื้อคลุม หรือแม้แต่การแต่งมาสคอตเป็นยูนิคอร์นก็มี!

   ซึ่งนั่นรวมไปถึงหนึ่งสาวคนเก๋อย่าง เจนนี่ ปาหนัน ผู้ร่วมทริปของเราที่ขุดไอเท็มเด็ดของเธอมาใส่ จนคนสองข้างทางต่างเดินมาขอถ่ายรูปด้วยอย่างไม่ขาดสาย โดดเด่นอย่างมีสไตล์

17 เวที 17 สไตล์

     แค่บอกว่าเป็นเทศกาลดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ล้วน เราก็หวั่นใจว่าจะไม่มีเพลงที่ร้องตามได้ (นึกออกใช่มั้ยว่ามันคงมีแต่เสียงบีตหนักๆ กับเสียงซินธ์บาดหู) แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เราใช้วิธีเดินร่อนทั่วงานเพื่อหาเวทีที่ถูกจริต นอกจากเวทีหลัก ที่ทำเราเซอร์ไพรส์ที่สุด เพราะเมื่อไปถึงงานเราก็บังเอิญไปเจอศิลปินสุดที่รักของเราอย่าง เครก เดวิด (Craig David) กำลังแสดงอยู่ ตะโกนร้องเพลง 7 Days จนเสียงแทบหาย ก่อนจะค่อยๆ เดินไปเจอเวทีที่เปิดเพลงรีมิกซ์จากหลากศิลปิน และเพลงยอดฮิตที่เราได้ยินกลับไม่ใช่ Despacito แต่เป็น Wild Thoughts (เพลงของ คาเลด (DJ Khaled) ที่มี ริฮานน่า (Rihanna) และ ไบรสัน ทิลเลอร์ (Bryson Tiller) มาร่วมฟีเจอริ่ง) เมื่อได้ยินเพลงโปรดแว่วๆ จากหลายเวที เราก็พุ่งตรงไปเต้นอย่างไม่รีรอ

     ขนาดของเวทีนั้นมีหลากหลายกันไป และแต่ละเวทีก็ต่างดีไซน์รูปแบบโครงสร้างและบรรยากาศโดยรอบออกมาไม่เหมือนกัน อย่างเวทีหลักที่นอกจากจะมีปริมาณคนเยอะมากที่สุดแล้ว ยังมีเอฟเฟกต์แบบจัดเต็มทั้งพลุ ไฟ ควัน เพื่อเพิ่มอรรถรสเมื่อจังหวะดนตรีนั้นถึงขีดความมันขั้นสุด

     หรืออย่างเวทีที่เรารักมาก แต่ไม่มีโอกาสได้เข้าไป เพราะโชว์จบก่อนนั่นคือ Milkshake ซึ่งเป็นกลุ่มจัดปาร์ตี้เกย์ชื่อดังในเนเธอร์แลนด์ โดยเวทีของพวกเขาอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยมขนาดยักษ์บนยอดเขา Big Spotters ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางงาน ชมวิวบริเวณโดยรอบได้เต็มตาแถมอากาศยังดีมากๆ อีกด้วย

เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

     แค่นับเรื่องวินัยการทิ้งขยะของชาว Mysteryland เราก็นับว่าอยู่ในระดับยอดเยี่ยมแล้ว และนอกจากจะเป็นเทศกาลดนตรีที่ค่อนข้างสะอาดสะอ้าน ปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้เรารู้สึกดีกับที่นี่ก็คงเป็นการใส่ใจสิ่งแวดล้อมในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการแจกถุงน้ำขนาดพกพาไว้ให้คุณเติมน้ำดื่มได้ตลอดเวลา ลดปริมาณการใช้ขวดพลาสติกไปได้อีกมากโข ส่วนเรื่องอาหารต่างๆ เขาก็ใช้กระดาษที่ย่อยสลายได้ง่ายเป็นภาชนะ กินง่าย ทิ้งง่าย ย่อยง่าย น่าประทับใจ

     ชมภาพบรรยากาศของงานที่เรานำมาฝากกันได้ กับประสบการณ์ความสนุกที่ THE STANDARD และ Heineken มอบให้กับคุณผู้อ่าน เพื่อให้คุณได้เข้าถึงทุกความสนุกเช่นเรากับ #LiveAccessTH