รายงานสหประชาชาติชิ้นล่าสุดระบุว่า ผู้นำกองทัพเมียนมาทั้ง 6 คน หนึ่งในนั้นคือ นายพล Min Aung Hlaing อาจถูกศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ต้ังข้อหาและนำตัวขึ้นสู่ศาลฐานทำการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุในรัฐยะไข่ รวมถึงก่ออาชญากรรมที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงในพื้นที่อื่นๆ จนเกิดเป็นวิกฤตโรฮีนจา ที่ทำให้ปัญหาผู้อพยพและผู้ลี้ภัยในประชาคมโลกทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นตลอด 1 ปีที่ผ่านมา
ในช่วงเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว หมู่บ้านของชาวโรฮีนจาถูกทำลาย ชาวโรฮีนจาอย่างน้อย 700,000 คนอพยพหนีออกนอกประเทศไปยังแหล่งพักพิงในบังกลาเทศ นางออง ซาน ซูจี ในฐานะที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมาและเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักที่ปล่อยให้กองทัพเมียนมาใช้กำลังและความรุนแรงต่อชาวโรฮีนจาในประเทศ จนนำไปสู่การตั้งคำถามว่า รัฐบาลพลเรือนชุดนี้มีอำนาจในการบริหารงานและตัดสินใจมากน้อยแค่ไหน
รายงานฉบับนี้ยังได้พูดคุยกับพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ รูปถ่าย ภาพถ่ายดาวเทียม และคลิปวิดีโอต่างๆ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่า กองทัพเมียนมาเลือกใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แม้ว่าภายหลังรัฐบาลเมียนมาจะระบุว่า มีโครงการเปิดรับให้ชาวโรฮีนจาเดินทางกลับประเทศได้ แต่ก็อยู่ในอัตราส่วนที่น้อยมาก เพราะแทบจะไม่มีหลักประกันใดรับรองความปลอดภัยได้เลย
นอกจากกองทัพเมียนมา นางออง ซาน ซูจี รวมถึงรัฐบาลพลเรือนชุดนี้แล้ว กลุ่มติดอาวุธในรัฐคะฉิ่นและรัฐฉาน และกองทัพปลดปล่อยโรฮีนจาแห่งอาระกัน (Arsa) ก็มีส่วนที่ก่อให้เกิดการใช้ความรุนแรงและป่าเถื่อนนี้ต่อชาวโรฮีนจาในครั้งนี้อีกด้วย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
