ผู้ชุมนุมในเมียนมาเรียกร้องให้อาเซียนไม่รับรองรัฐบาลเผด็จการทหาร หลังกองทัพเริ่มเคลื่อนไหว ส่ง รมว. ต่างประเทศคุยกับประเทศสมาชิก

วานนี้ (24 กุมภาพันธ์) ผู้สนับสนุนประชาธิปไตยในเมียนมาจำนวนไม่น้อยต่างรวมตัวกันบริเวณหน้าสถานเอกอัครรราชทูตประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกเหล่านั้น ไม่รับรองรัฐบาลเผด็จการทหารที่มาจากการรัฐประหาร หลังกองทัพเมียนมาเริ่มเคลื่อนไหว ส่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเดินทางไปคุยกับบรรดาผู้แทนของประเทศสมาชิกในอาเซียน

“เผด็จการไม่เคยรักษาสัญญา หยุดการเจรจากับพวกเขา และมีปฏิสัมพันธ์กับรัฐบาลของพวกเราที่มาจากการเลือกตั้ง”

โดย วันนา หม่อง ละวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมียนมาที่ได้รับการแต่งตั้งจากกองทัพแทนที่ ออง ซาน ซูจี ได้เดินทางมาเยือนกรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ เพื่อหารือแนวทางคลี่คลายวิกฤตการณ์ในเมียนมา ที่ปะทุขึ้นนับตั้งแต่กองทัพก่อรัฐประหาร ยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนแรกในรัฐบาลทหารเมียนมาที่เดินทางมาเยือนไทยภายหลังการรัฐประหาร

ภารกิจหลักของ วันนา หม่อง ละวิน ภายในไทยคือ การเปิดพื้นที่เจรจา 3 ฝ่าย กับ ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และเร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหญิงอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นความพยายามทางการทูตที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มอาเซียน เพื่อหาทางออกให้กับสถานการณ์ในเมียนมา หลังจากที่เกิดการประท้วงต่อต้านรัฐประหารขึ้นทั่วเมียนมาในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทางด้าน อู อ่อง เมียว มิน สมาชิกกลุ่ม Equality Myanmar ระบุ “ถ้าอาเซียนไม่เคารพเจตจำนงของประชาชน แรงกดดันจากนานาชาติจะเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน นั่นก็จะเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการขั้นพื้นฐานของอาเซียนที่จะช่วยสนับสนุนประเทศสมาชิกประเทศหนึ่งให้ก้าวไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย ดังที่ได้ระบุไว้ในกฎบัตรอาเซียน”

ขณะที่ ธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเผยว่า การเดินทางเยือนไทยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเมียนมาครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการทางการทูตระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ยืนยันการสนับสนุนสันติภาพและเสถียรภาพในเมียนมา และความหวังที่จะเห็นสถานการณ์ในเมียนมาได้รับการคลี่คลายโดยสันติ เพื่อประโยชน์ของประชาชนเมียนมา ซึ่งสอดคล้องกับท่าทีของอาเซียน และเป็นสิ่งที่ประชาคมระหว่างประเทศปรารถนา