ผ่านพ้นไปเกิน 24 ชั่วโมงหลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.7 ใกล้มัณฑะเลย์ของเมียนมา มีรายงานความเสียหายและความสูญเสียเข้ามาอย่างต่อเนื่อง THE STANDARD สรุปสถานการณ์ล่าสุดในเมียนมา รวมถึงความช่วยเหลือจากนานาชาติที่เริ่มหลั่งไหลเข้าสู่ประเทศที่กำลังติดหล่มสงครามกลางเมืองนาน 4 ปีหลังเหตุการณ์รัฐประหาร
- สถานีโทรทัศน์ MRTV ของทางการเมียนมารายงานว่า พบผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 100 ปีและอาฟเตอร์ช็อกแล้วอย่างน้อย 1,002 คน บาดเจ็บอีก 2,376 คน และสูญหายอีกเป็นจำนวนมาก
- สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาแห่งสหรัฐฯ (USGS) ประมาณการว่ายอดผู้เสียชีวิตในเมียนมาอาจสูงถึง 10,000 คน
- พลเอกอาวุโส มินอ่องหล่าย ผู้นำทหารเมียนมาได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ใจกลางประเทศ ครอบคลุมเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับสอง, กรุงเนปิดอว์ เมืองหลวง, พื้นที่สะกาย พะโค และมะกเว รวมถึงรัฐฉานทางตะวันออก
- นอกจากนี้ มินอ่องหล่าย ได้เรียกร้องให้องค์การระหว่างประเทศและนานาชาติส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมา ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยนัก
- จีนเป็นชาติแรกที่ส่งทีมกู้ภัยถึงเมียนมา โดยเดินทางถึงเมืองย่างกุ้งเช้าวันนี้ ขณะที่รัฐบาลปักกิ่งจะจัดสรรความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้เมียนมามูลค่า 100 ล้านหยวน โดยสื่อรายงานด้วยว่า ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้พูดคุยกับมินอ่องหล่ายทางโทรศัพท์ด้วย
- นอกจากจีนแล้ว รัสเซียได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญ ประกอบด้วยทีมสุนัขดมกลิ่น วิสัญญีแพทย์ และนักจิตวิทยาไปเมียนมา ขณะที่อินเดียส่งทีมแพทย์และกู้ภัย พร้อมความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังเมียนมา ส่วนฮ่องกง สิงคโปร์ และมาเลเซีย ระบุว่าจะส่งทีมกู้ภัยไปช่วยเช่นกัน
- ขณะที่สหรัฐฯ แม้รัฐบาลจะปลดพนักงานเกือบทั้งหมดในหน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ หรือ USAID รวมทั้งเดินหน้าปิดหน่วยงานดังกล่าว เพื่อลดรายจ่ายของรัฐบาล แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันว่า สหรัฐฯ จะให้ความช่วยเหลือเมียนมา โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันว่า การตัดงบและปลดพนักงาน USAID จะไม่กระทบการส่งทีมกู้ภัยไปเมียนมา
- วันนี้ มินอ่องหล่าย ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายที่เมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งมีประชากรราว 1.5 ล้านคน และเป็นเมืองใหญ่ที่อยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวมากที่สุด จากบริเวณรอยเลื่อนสะกาย ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่ยังมีพลัง
- การเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยทั่วประเทศอาจมีอุปสรรค เนื่องจากถนนในพื้นที่ห่างไกลถูกตัดขาด มีซากปรักหักพังของอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างถล่มลงมาปิดเส้นทาง ขณะที่ระบบสื่อสาร รวมถึงอินเทอร์เน็ตยังล่มในหลายพื้นที่ ทำให้การประเมินภาพรวมความเสียหายทั้งหมดเป็นเรื่องที่ยากลำบาก
- เกือบ 80% ของเมียนมาไม่ได้อยู่ในการควบคุมของกองทัพและรัฐบาลทหาร แต่ปกครองโดยกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ต่างๆ ซึ่งต้องอาศัยการสื่อสารหรือร่วมมือกันมากขึ้นเพื่อเปิดทางให้ความช่วยเหลือเข้าสู่พื้นที่ต่างๆ ได้
- เจส ฟีนิกซ์ นักธรณีวิทยาให้สัมภาษณ์กับ CNN ว่า แผ่นดินไหวขนาด 7.7 ก่อให้เกิดพลังงานเทียบเท่ากับระเบิดปรมาณูมากกว่า 300 ลูก พร้อมทั้งเตือนว่าอาฟเตอร์ช็อกจะยังสร้างความเสียหายต่อไป
- หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.7 และอาฟเตอร์ช็อก 6.4 มีรายงานว่าเกิดอาฟเตอร์ช็อกย่อยๆ อีกรวมกว่า 70 ครั้งในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ขณะที่นักอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า จะเกิดอาฟเตอร์ช็อกต่อเนื่องอีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์หรือนับเดือน
- กระทรวงการต่างประเทศมีการอัปเดตข้อมูลกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้งเป็นระยะ ยืนยันว่ายังไม่มีคนไทยในเมียนมาได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต พร้อมออกประกาศแนะนำคนไทยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และระวังอาฟเตอร์ช็อก
- ทาเคชิ อิวายะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ส่งสารแสดงความเสียใจถึง มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย เกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งมีคนไทยและชาวต่างชาติได้รับผลกระทบ
ภาพ: Social Media via Reuters
อ้างอิง: