วันนี้ (27 เมษายน) ศาลเมียนมาภายใต้ยุคเผด็จการทหารตัดสินให้ ออง ซาน ซูจี อดีตที่ปรึกษาประเทศเมียนมา ต้องโทษจำคุกเพิ่มอีก 5 ปี หลังพบความผิดฐานทุจริตคอร์รัปชัน รับสินบนในรูปแบบเงินสดและทองคำแท่งมูลค่า 600,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 20.6 ล้านบาท) จากอดีตผู้บริหารเมืองย่างกุ้ง ส่งผลให้ ออง ซาน ซูจี ต้องโทษจำคุกแล้ว 11 ปี
โดยก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา เธอมีความผิดฐานยุยงปลุกปั่น สร้างความเกลียดชังให้ประชาชนลุกฮือต่อต้านทหาร รวมถึงละเมิดกฎข้อบังคับเกี่ยวกับมาตรการรับมือโควิด และเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เธอก็มีความผิดฐานครอบครองอุปกรณ์สื่อสาร Walkie Talkie ผิดกฎหมายและละเมิดมาตรการรับมือโควิดเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ออง ซาน ซูจี ยังเผชิญข้อกล่าวหาอีกราว 10 ข้อกล่าวหา ยังไม่นับรวมข้อกล่าวหาทุจริตการเลือกตั้งและฝ่าฝืนกฎหมายความลับของทางราชการ ซึ่งแต่ละข้อกล่าวหามีโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี หากศาลตัดสินว่าเธอมีความผิดจริงทุกข้อกล่าวหา อาจทำให้เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพของเมียนมาต้องโทษจำคุกสูงกว่า 190 ปี
บรรดาองค์การด้านสิทธิมนุษยชนต่างประณามการตัดสินโทษดังกล่าว พร้อมเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่เธอ โดย ออง ซาน ซูจี ถูกกักให้อยู่แต่ที่พักอาศัยนับตั้งแต่กองทัพเมียนมาปล้นอำนาจประชาชน ตัดสินใจก่อรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือน เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ภาพ: Suhaimi Abdullah / Getty Images
อ้างอิง:
