ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ดนตรีนั้นมีอิทธิพลต่อชีวิตของเรามากแค่ไหน เมื่อเดินทางไปที่ไหนก็มีแต่เสียงดนตรี ดนตรีจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญเสียไม่ได้ที่จะอยู่ในโฆษณาและการตลาด จนกลายเป็นกรณีศึกษาเรื่อง Music Marketing ที่น่าสนใจและน่าทำตาม
Music Marketing คืออะไร
ถ้าให้ตอบอย่างง่ายที่สุด Music Marketing คือการเอาเพลงหรือดนตรี มาเป็นส่วนหนึ่งของการตลาด จุดประสงค์ส่วนใหญ่ที่หลายๆ แบรนด์สนใจการตลาดผ่านดนตรีก็คือ การทำให้ผู้ชม ลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมายนั้น ได้รับรู้ถึงตัวแบรนด์ในความหมายและมิติอื่นๆ มากขึ้น พูดให้ง่ายกว่านั้นคือการทำให้แบรนด์เป็นที่จับต้องได้ ไม่จำเป็นต้องเน้นขายเพียงอย่างเดียว การใส่ดนตรีเข้าไปในการตลาดช่วยทำให้แบรนด์นั้นมีชีวิตจิตใจ ซึ่งนั่นทำให้แบรนด์เข้าถึงง่าย กลายเป็นคนรู้จัก และอาจกลายเป็นเพื่อนของกลุ่มเป้าหมายเลยก็ได้
ถ้าอยากมี Music Marketing ต้องทำอย่างไร
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ในช่วงปีที่ผ่านมานั้น การตลาดผ่านดนตรีกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง สาเหตุสำคัญก็คือ เมื่อแบรนด์เบื่อวิธีการซ้ำซากจำเจแบบเดิม เราจึงได้เห็นวิธีการใหม่ๆ อย่างการตลาดผ่านดนตรีเกิดขึ้นมา โดยเราขอยกตัวอย่างเคสที่น่าสนใจดังนี้
- Music Marketing = ความบันเทิง
เราคงเคยเห็นโฆษณาทางโทรทัศน์ของยาสีฟันยี่ห้อหนึ่งที่มีแต่แค่บทพูด ไม่มีเสียงดนตรีประกอบใดๆ โฆษณานั้นจึงนิ่งและน่าเบื่อ การใส่ดนตรีเข้าไปนั้นทำให้แบรนด์มีอารมณ์และความรู้สึก และแน่นอนว่าทำให้เราจดจำแบรนด์นั้นได้อย่างง่ายดาย
กรณีศึกษา: “xxxxxxxx ห้าบาท ร้อยยี่สิบห้ามิลลิลิตร” ที่คนร้องตามได้ทั้งบ้านทั้งเมือง
- Music Marketing = ความเป็นแบรนด์
เรามักจะเห็นหลากหลายแบรนด์เลือกใช้เพลงทั้งเพลงเก่าและใหม่ เพื่อบอกความเป็นแบรนด์นั้นให้ชัดเจนขึ้น เพลงที่เดิมทีนั้นมีอารมณ์ของมันอยู่แล้ว เมื่อเอามาประกอบกันกับภาพลักษณ์ หรืออัตลักษณ์ของแบรนด์ที่อยากจะสื่อ ก็ทำให้ชัดเจนขึ้น และเข้าใจในมุมมองรวมถึงทัศนคติของแบรนด์ที่มีต่อลูกค้าได้อีกด้วย
กรณีศึกษา: เพลง ‘Wall In Your Heart’ ประกอบภาพฟุตเทจขาวดำ ของเครือข่ายโทรศัพท์มือถือเปิดตัวใหม่แบรนด์หนึ่ง เปรียบเสมือนกับการเริ่มต้นแนะนำตัว ด้วยการบอกว่า เรากำลังจะทำให้ทุกคนได้พูดคุยกันมากขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น
- Music Marketing = จดจำ จำได้
เคยไหม ที่เวลาเราได้ยินเสียงดนตรีจากที่ไหนสักแห่ง แล้วเราก็จำได้เลยว่ามันคือโฆษณาอะไร นั่นแหละคือหน้าที่ของดนตรีในการตลาด เพราะมันทำให้คนจำได้ และนึกถึงแบรนด์ทันทีที่ได้ยิน ซึ่งนี่ถือเป็นการเล่นกับความทรงจำ และสมองของผู้ชมได้อย่างดี
กรณีศึกษา: ลองค้นหาเพลง Dreams ของ DJ Quards แล้วตอบคำถามว่า คุณจำได้หรือไม่ ว่านี่คือดนตรีประกอบรายการใด
- Music Marketing = ตรงกลุ่มเป้าหมาย
เมื่อเพลงและดนตรีนั้นมีหลากหลายแนวให้เลือกฟัง หลากหลายแบรนด์ก็เลยเลือกเจาะกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นด้วยการใช้แนวเพลง หรือศิลปินที่มีกลุ่มเป้าหมายของตัวเองอยู่แล้ว และนำมาประยุกต์กับกลยุทธ์การตลาดของตัวเองเพื่อให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ผลที่ได้คือ awareness แบบชัดเจน ส่งตรงจากกลุ่มเป้าหมายที่ว่าเต็มๆ
SC ASSET ขอจับตลาดคนรุ่นใหม่เป็นครั้งแรก ออกแคมเปญ ‘Say Hi บ้านหลังใหม่’ ด้วยการทำ Music Marketing ชวน The TOYS ศิลปินรุ่นใหม่ที่กำลังเป็นที่จับตามอง มาทำเพลงพิเศษ ชวนกลุ่มคนเจเนอเรชันใหม่ ไล่ตามความฝันในพื้นที่ที่เป็นของตัวเอง บ้านหลังใหม่แห่งแรงบันดาลใจ ที่จะเปลี่ยนโลกเดิมๆ ให้กลายเป็นวันดีๆ ได้ทุกวัน
“เปิดไลน์ แชร์โล ส่งไป Say hi กับบ้านหลังใหม่
‘Pave my way. Verve to have. get it all.’
อยากให้เธอลองดูกับความเป็นไป
ในความเป็นจริงสิ่งที่เป็นดังความฝัน
อยากให้เธอมายืนอยู่ตรงนี้ลองดูโลกทั้งใบที่เธอไม่เคย
อยู่ตรงนี้ เปลี่ยนแปลงโลกเดิมๆ ที่เคยมี
จากท้องฟ้าเดิมๆ ให้เป็นวันดีๆ
อยู่ตรงนี้ เปลี่ยนชีวิตเดิมๆ ที่เคยเป็น
บอกให้เห็นในความเป็นจริงอีกที แค่อยู่ตรงนี้”
โดยเพลง ‘Say Hi’ เปิดตัวพร้อมกันกับแบรนด์ Pave และ Verve น้องใหม่จาก SC ASSET จับกลุ่มคนเจเนอเรชันล่าสุด ที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเองในราคาที่จับต้องได้
Pave เน้นไปที่ครอบครัวคนรุ่นใหม่เพิ่งแต่งงานหรืออยากมีบ้านหลังแรกของตัวเอง กับบ้านเดี่ยวท่ามกลางบรรยากาศสดใสและสังคมน่าอยู่ เช่นกันกับ Verve ที่เหมาะสำหรับวัยรุ่นเหล่า First-Jobber ที่อยากมีทั้งห้องและธุรกิจเป็นของตัวเอง พร้อมด้วยคอมมูนิตี้ที่ตอบโจทย์ทุกความฝัน และเพื่อนบ้านที่พร้อมให้คุณได้ ‘Say Hi’ ด้วยรอยยิ้ม
เตรียมเปิดม่านเพื่อ Say Hi และทักทอย เอ๊ย…ทักทายเพื่อนบ้านใหม่ได้แล้ววันนี้!
พร้อมชมไลฟ์สดและมินิคอนเสิร์ตจาก The TOYS ที่ Pave และ Verve ตลอดเดือนกรกฎาคม-กันยายนนี้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1749 หรือ www.scasset.com