นาทีนี้… หากมีใครถามว่า “นักฟุตซอลไทยที่ประสบความสำเร็จที่สุดในยุโรปคือใคร”
คำตอบที่ได้..คงไม่มีใครเหมาะไปกว่า มูฮัมหมัด อุสมานมูซา หรือที่แฟนโต๊ะเล็กเรียกกันติดปากว่า ‘เจ้าเหม็ด’
ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ เขาเพิ่งจารึกประวัติศาสตร์ให้กับตัวเอง ด้วยการเป็นนักฟุตซอลไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ ฟุตซอลลีกสูงสุดของสเปน กับสโมสร จิมบี คาร์ตาเฆนา ในฤดูกาล 2024/25
แต่กว่ามาถึงจุดนี้ ชีวิตของเหม็ดไม่เคยง่ายเลย…
นี่คือเรื่องราวของชายคนหนึ่ง ที่ใช้ความมุ่งมั่น พรสวรรค์ และความไม่ยอมแพ้ ปูทางตัวเองจากสนามในซอยเล็กๆ สู่เวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกฟุตซอล
เรื่องราวที่สมควรถูกบันทึกไว้ในฐานะ แรงบันดาลใจของนักเตะรุ่นใหม่ทั่วประเทศ
มูฮัมหมัดเกิดเมื่อวันที่ 19 มกราคม 1998 ที่กรุงเทพฯ เป็นลูกครึ่งไทย-กานา พ่อของเขาเป็นอดีตนักฟุตบอลชาวกานา เคยเล่นให้กับการยาสูบและการท่าเรือแห่งประเทศไทย แต่คุณพ่อจากไปตั้งแต่เหม็ดอายุแค่ 3 ขวบ ขณะที่แม่ต้องไปทำงานต่างประเทศ คุณยายจึงกลายเป็นเสาหลักของชีวิตในบ้านหลังเล็กๆ ที่ซอยสุเหร่า
สนามบอลแรกในชีวิตของเหม็ดคือพื้นที่ว่างข้างบ้าน ทำอาณาเขตประตูด้วยรองเท้าเก่าๆ กับความสุขคือการได้เตะบอลกับเพื่อนทุกวัน มันคือความเรียบง่ายที่กลายเป็นรากฐานของความฝันอันยิ่งใหญ่ ที่คุณครูและผู้ใหญ่มองเห็นแววในตัวของเด็กหนุ่มผู้นี้…
จุดเปลี่ยนมาเยือนตอนเขาอายุได้ 9 ขวบ เมื่อเริ่มแข่งขันฟุตซอลระดับเล็กๆ และค่อยๆ เติบโตบนเส้นทางสายนี้ ก่อนจะเรียนจบจากโรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร และโรงเรียนราชวินิตบางเขน ที่เปรียบเสมือนโรงเรียนที่ช่วยขัดเกลาฝีเท้าและทัศนคติให้แกร่งยิ่งขึ้นตามกาลเวลา
แม้เส้นทางนักกีฬาจะเต็มไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยและความคาดหวัง แต่สิ่งหนึ่งที่เหม็ดไม่เคยละทิ้งคือ ‘การศึกษา’
เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ด้วยความเชื่อมั่นว่า ฟุตซอลไม่ใช่แค่ความฝัน แต่มันคือบันไดที่นำพาเขาและครอบครัวสู่ชีวิตที่มั่นคงและงดงามกว่าเดิม
ปี 2016 เขาก้าวสู่ลีกอาชีพกับ Bangkok BTS Futsal Club ด้วยวัยเพียง 17 ปี ก่อนจะกลายเป็นแกนหลักของทีมอย่างรวดเร็ว คว้าแชมป์ ฟุตซอลเอฟเอคัพ 2017 และแชมป์ ฟุตซอลอาเซียน 2018 กับทีมชาติไทย ก่อนก้าวสู่ทีมชาติชุดใหญ่ และลงเล่นในเวทีใหญ่อย่าง ฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2021 และ 2024
ปี 2017 เหม็ดสร้างหมุดหมายใหม่ให้วงการฟุตซอลไทย ด้วยการเป็นนักเตะไทยคนแรกที่ย้ายไปเล่นในลีกสเปนกับ ซานติอาโก ฟุตซอล แม้จะเป็นสัญญายืมตัว แต่ก็เป็นประตูบานแรกสู่ฟุตบอลยุโรป
แต่ชีวิตจริงในแดนกระทิงดุไม่ง่ายเลย… เขาได้ลงสนามเพียง 1 นัด แต่ก็ฝากผลงานด้วย 1 ประตู ก่อนจะกลับสู่เมืองไทยเพื่อเดินหน้าสร้างชื่อกับ การท่าเรือ, ชลบุรี บลูเวฟ และ แบล็คเพิร์ล ยูไนเต็ด อย่างต่อเนื่อง
ถึงจุดหนึ่ง..แฟนฟุตซอลเริ่มตั้งคำถามว่า “หรือว่าลีกไทยจะเล็กเกินไปสำหรับผู้ชายคนนี้?”
ในวัย 24 ปี เหม็ดเคยบินไปทดสอบฝีเท้ากับยักษ์ใหญ่แห่งโปรตุเกสอย่าง เบนฟิกา แม้สุดท้ายจะไม่ได้เซ็นสัญญา แต่ก็กลายเป็นอีกหนึ่งบทเรียนสำคัญในชีวิต ก่อนจะกลับมาเล่นในไทยลีก และได้โอกาสบินลัดฟ้าสู่สเปนอีกครั้งในปี 2023 กับ คอร์โดบา ฟุตซอล ด้วยสัญญายืมตัว
ที่คอร์โดบา เหม็ดไม่ใช่เด็กคนนั้นที่เคยลงเล่นแค่ 1 นัดกับ ซานติอาโก เมื่อปี 2017 อีกต่อไป เพราะตอนนี้เขาคือนักเตะที่แบกความหวังของฟุตซอลไทย พร้อมประสบการณ์ที่สั่งสมมาทั้งชีวิต
เหม็ดตอบแทนความเชื่อใจด้วยผลงานสุดโหดในฤดูกาล 2023/24 หลังลงสนาม 27 นัด ยิง 17 ประตู และทำ 8 แอสซิสต์ พาทีมจบอันดับ 11 ของลีก และทำให้ชื่อของเขาดังกระหึ่มในวงการฟุตซอลสเปน
“เขาเป็นศูนย์หน้าที่โดดเด่น มีร่างกายแข็งแกร่ง ยิงประตูได้ยอดเยี่ยมด้วยขาทั้งสองข้าง ไม่เพียงแค่นั้น เหม็ดยังเล่นแนวรับได้สมบูรณ์แบบ มีการเคลื่อนที่ในสนามและมีการปรับตัว ซึ่งสร้างความประหลาดใจได้” โจแซน กอนซาเลซ โค้ชของคอร์โดบา กล่าวถึงลูกทีมคนสำคัญจากประเทศไทย
ผลงานอันยอดเยี่ยมพาเขาไปสู่ข้อเสนอจาก จิมบี คาร์ตาเฆนา ทีมระดับท็อป (เป็นแชมป์ลีก 2023/24) ของสเปนในปี 2024 และเพียงแค่ฤดูกาลแรก เขาก็กลายเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของทีมทันที ยิง 9 ประตูรวมทุกรายการ พร้อมพาทีมคว้า 2 แชมป์ใหญ่
🏆 แชมป์ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญา 2024
🏆 แชมป์ ฟุตซอลพรีเมียร์ ดิวิชั่น สเปน 2024/25
🥉 อันดับ 3 UEFA Futsal Champions League 2024/25
ดูโด้ (Eduardo São Thiago Lentz) โค้ชของจิมบี คาร์ตาเฆนา เคยกล่าวยกย่องตั้งแต่ตอนที่ได้ตัวเหม็ดมาร่วมทีมว่า “มูฮัมหมัดเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม เขามีความเร็ว ความแข็งแกร่ง และความเข้าใจเกมที่เหมาะกับสไตล์ของจิมบี เขาจะเป็นส่วนสำคัญของทีมเรา”
ขณะที่ มิเกล โรดริโก โค้ชฟุตซอลทีมชาติไทย ก็เคยพูดถึงเขาด้วยประโยคที่ทรงพลังที่สุดว่า “เจ้าเหม็ดไม่ใช่นักเตะธรรมดา ไม่ได้หาได้ทั่วไปในไทย เขาคือของขวัญของทีมไทย ที่เขามอบสิ่งพิเศษให้เสมอ”
วันนี้ มูฮัมหมัด คือเครื่องพิสูจน์ว่าความฝันไม่มีพรมแดน จากเด็กหนุ่มในซอยสุเหร่า สู่ชายผู้ใช้พรสวรรค์ ความมุ่งมั่น และความกตัญญู ปูทางให้ตัวเองเดินไปบนเวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก
และความสำเร็จที่เกิดขึ้น มันไม่ใช่แค่เรื่องของถ้วยรางวัล แต่มันคือ “ตำนานบทใหม่ของฟุตซอลไทย” จากชายที่ทำให้คนทั้งประเทศต่างภาคภูมิใจในตัวเขา
มูฮัมหมัด อุสมานมูซา ✨🇹🇭
ภาพ: Mu Med
