วันนี้ (30 มีนาคม) ณัฐวุฒิ บัวประทุม พร้อมด้วย ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล และธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ริเริ่มเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ป.พ.พ.) 1448 หรือร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม แถลงข่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติไม่เห็นด้วยกับการเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่..) พ.ศ. …. หรือร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า และไม่เห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ป.พ.พ.) 1448 หรือร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม
ณัฐวุฒิกล่าวว่า กรณีนี้ที่เกิดขึ้นพรรคก้าวไกลมีความเห็นใน 3 ประเด็นสำคัญ
ประเด็นแรก รัฐบาลจงใจทำลายความน่าเชื่อถือของสภาผู้แทนราษฎรที่มีหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจของรัฐในทุกระบบ อาทิ กรณีห้ามหรือไม่ให้พูดถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจในที่ผ่านมา ทั้งในการตั้งข้อหาและดำเนินคดีต่อผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกลที่อภิปรายในหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล และนี่ก็เป็นการทำลายความชอบธรรมในฐานะนักนิติบัญญัติ ผู้พิจารณากฎหมาย ให้ไม่สามารถดำเนินการได้
ประเด็นที่ 2 สะท้อนกลับไปในประเด็นที่ จุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีท่าทีต่อร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ที่เสนอโดย เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร โดยจุติกล่าวว่า เป็นเกมการเมือง เราขอชี้แจงตรงนี้ว่า เราทำนโยบายตามที่เราหาเสียงไว้
แต่ตรงกันข้าม เราพบว่าหลายเรื่องที่พรรครัฐบาลเคยหาเสียงไว้ ทั้งพรรคพลังประชารัฐและประชาธิปัตย์ แต่ไม่ได้ดำเนินการตามที่ตัวเองหาเสียงไว้ เรื่องนี้คือไม่ใช่เรื่องการเมือง ถึงจะเป็นเรื่องการเมืองก็เป็นการเมืองที่เราต้องการทลายทุนผูกขาด เป็นหนึ่งในนโยบายที่เราหาเสียงไว้ตั้งแต่สมัยอดีตพรรคอนาคตใหม่
ประเด็นที่ 3 รัฐบาลมีความพยายามอุ้มกฎหมายที่เสนอโดย ส.ส. และประชาชนหลายรูปแบบด้วยกัน โดยเรายกร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ ตั้งแต่สมัยอดีตพรรคอนาคตใหม่ แต่ใช้เวลากว่า 3 ปี ที่กฎหมายดังกล่าวจะได้บรรจุเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร
พรรคก้าวไกลมีจุดยืนว่า แม้ว่าคณะรัฐมนตรีจะไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ แต่พรรคก้าวไกลเรายืนยันว่า เมื่อร่างกฏหมายดังกล่าวตีกลับเข้าสู่สภา พรรคก้าวไกลยืนยันจะรับหลักการ และขอให้สมาชิกสมาผู้แทนราษฎรทุกคนที่ร่วมลงมติ ร่วมอภิปราย ขอให้ร่วมรับหลักการอีกครั้ง เพื่อการปลดล็อกทั้งในเรื่องสุราก้าวหน้าและสมรสเท่าเทียม เรายืนยันว่าเราพร้อมเคียงข้างประชาชน
“เรามาไกลเกินกว่าจะแพ้ แต่เราพร้อมสู้เพื่อชัยชนะ ที่ประชาชนให้ฉันทามติกับพวกเราในฐานะผู้แทนของประชาชน” ณัฐวุฒิกล่าว
ด้านธัญวัจน์กล่าวว่า การที่เป็นนักการเมือง หากมีประวัติไม่รับร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมเป็นเรื่องที่น่าละอายมาก เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของครอบครัว และ 60 วันที่ร่างกฎหมายฉบับนี้ได้ถูกอุ้มไปให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา ตนได้มีโอกาสหารือกับทุกภาคส่วนในขั้นตอนของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งในการหารือทุกฝ่ายต่างก็เห็นด้วย
“คณะรัฐมนตรีฟังตรงนี้ อำนาจอยู่ในมือของท่าน ท่านสามารถรับร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับได้ เพราะสมรสเท่าเทียมไม่เท่ากับ พ.ร.บ.คู่ชีวิต พรรคก้าวไกลยืนยันว่าจะผลักดันร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมต่อไป ตนขอขอบคุณประชาชนที่ส่งกำลังใจมาในข้อความทุกช่องทาง แน่นอนว่าเราเสียใจ เราผิดหวัง แต่เราในฐานะผู้แทนราษฎร เราจะต้องต่อสู้ผลักดันต่อไป” ธัญวัจน์กล่าว
ขณะที่ศิริกัญญา รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุทิ้งท้ายว่า ขอให้ประชาชนอย่าหมดหวัง เราพรรคก้าวไกลจะผลักดันร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับต่อไป โดยกระบวนการของกฎหมายทั้ง 2 ฉบับยังไม่เสร็จสิ้นในรัฐสภา หากประชาชนเห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต และร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ขอให้ส่งเสียง ส่งข้อความ ส่งเอกสารไปที่ ส.ส. เขตของตน เพื่อให้เป็นตัวแทนของประชาชนในสภารับหลักการร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ร่างที่ถูกอุ้มโดยคณะรัฐมนตรีกลับมาได้รับการโหวตอีกครั้งในสภา
