วันนี้ (11 สิงหาคม) ที่ห้องประชุมอาคารวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร, คณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พร้อมด้วยวิศวกรรมสถานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมแถลงข่าวถอดบทเรียนเหตุเพลิงไหม้สถานบันเทิง Mountain B ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา
จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ดังกล่าว พบว่าวัสดุที่ใช้ติดตั้งเพื่อป้องกันเสียงจากภายในสถานบันเทิงประกอบไปด้วย ชั้นแรกคือรังไข่ ชั้นที่ 2 คือใยแก้ว และชั้นสุดท้ายคือรังไข่ที่เคลือบด้วยสารหน่วงไฟเพื่อลดการเผาไหม้ไม่ให้ไฟลุกลามได้รวดเร็ว ถึงแม้จะมีการเคลือบไว้มากแต่ก็สามารถที่จะเผาไหม้ได้เช่นเดิม ทั้งนี้สถานบันเทิงดังกล่าวใช้อุปกรณ์ป้องกันเสียงจำนวนมาก จึงเป็นเชื้อเพลิงได้อย่างดี
ตามกฎหมายได้กำหนดประเภทระบบความปลอดภัยของอาคารที่ใช้เพื่อประกอบกิจการเป็นสถานบริการไว้ว่า กรณีฉนวนกันความร้อนที่มีส่วนผสมของปิโตรเลียม พลาสติก ประเภทโฟม จะต้องปิดผิวความร้านด้วยยิปซัมที่มีความหนาไม่น้อยกว่า 12 มิลลิเมตร หรือแผ่นคอนกรีตหนาไม่น้อยกว่า 25 มิลลิเมตร หรือแผ่นกันความร้อนที่จะไม่ทำให้อุณหภูมิด้านในสัมผัสความร้อนสูงกว่า 120 องศาเซลเซียส ซึ่งร้านดำเนินการไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ส่วนประเด็นระบบความปลอดภัยที่บังคับใช้และร้านไม่ปฏิบัติตามคือ ไม่มีระบบหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอัตโนมัติ ระบบระบายควันไฟ และระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ อีกทั้งยังพบว่าอาคารมีเส้นทางหนีไฟที่ละเมิดกฎเกณฑ์ความปลอดภัย ทั้งประตูทางเข้าและวัสดุที่ใช้ นอกจากนี้ยังมีการละเมิดกฎเกณฑ์งานติดตั้งระบบไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นแหล่งกำเนิดความร้อนจากการทำงานที่ผิดปกติ
สำหรับปัญหาหลักที่พบคือ ตัวอาคารพื้นที่ค่อนข้างแคบ ไม่ใช้กระจกนิรภัย และมีการใช้วัสดุอันตราย เส้นทางหนีไฟไม่สอดคล้องกับจำนวนผู้ใช้บริการ ตามกฎหมาย และขนาดพื้นที่ ต้องมีเส้นทางเข้า-ออกหลักอย่างน้อย 3 ทาง และต้องกว้างไม่น้อยกว่า 3 เมตร
พิชญะ จันทรานุวัฒน์ นายกสมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร (BSA) กล่าวว่า จากการสันนิษฐานเชื่อว่าเกิดจากอุปกรณ์ไฟฟ้าจากที่สูงระดับเพดานมีการเปลี่ยนอุปกรณ์ ไม่มีระบบคัตไฟ และพื้นที่ฝ้าเพดานแคบ ประกอบกับมีฉนวนสายไฟที่เก็บความร้อนเกินขนาด ถือว่าผิดมาตรฐานการออกแบบก่อสร้าง
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากถอดบทเรียนแล้วพบว่ากฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายฉบับไม่ได้บูรณาการให้ทันต่อสถานการณ์ จึงไม่เอื้อต่อการบังคับใช้ ซึ่งทำให้เกิดความไม่ปลอดภัย ทางสมาคมผู้ตรวจสอบอาคารเสนอให้แก้ไขการให้ใบอนุญาตประกอบกิจการร้านอาหาร จะต้องมีระบบความปลอดภัยใกล้เคียงหรือน้อยกว่ากฎหมายสถานบันเทิง
และวัสดุตกแต่งภายใน โดยเฉพาะฉนวนกันเสียง ให้เป็นไปตามกฎหมาย จำกัดที่ไม่เกินร้อยละ 10 ของพื้นที่ทั้งหมด และวัสดุติดไฟจะต้องเติมสารห้ามไฟลุกลาม ส่วนการเดินสายไฟโดยช่างไฟฟ้า ควรเป็นบุคคลที่ได้รับการรับรองความรู้ความสามารถจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน