×

Moulin Rouge! ภาพยนตร์ที่กลับมาดูกี่ครั้งก็หลงรักและไม่รู้สึกวินเทจ

05.05.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 MINS READ
  • Moulin Rouge! เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 3 ในชีวิตของ บาซ เลอห์มานน์ ที่เขาเขียนและกำกับเอง ใช้ทุนสร้าง 52 ล้านเหรียญสหรัฐ และใช้เวลาถ่ายทำเกือบ 1 ปีเต็ม
  • สำหรับบทนางเอก ซาติน ตอนแรก แคเธอรีน ซีตา-โจนส์ ก็เป็นหนึ่งในตัวเก็ง ส่วนนักร้องสาว คอร์ตนีย์ เลิฟ ก็ถึงขั้นยอมให้บาซใช้เพลง Smells Like Teen Spirit ของวง Nirvana หากเธอได้บทนี้ (เธอเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ หลังสามี เคิร์ต โคเบน เสียชีวิต)
  • Moulin Rouge! ใช้คอสตูมไปทั้งหมดกว่า 300 ชุด และมีทีมงานสำหรับส่วนนี้สูงถึง 80 คน

 

ความคลาสสิกของ Moulin Rouge! อยู่ตรงไหน

ภาพยนตร์สไตล์ละครเพลง เป็นหนึ่งในหมวดภาพยนตร์ที่มักถูกตีค่าและเหมารวมว่ามีความเฉพาะกลุ่ม แต่ละเรื่องเพียงแค่สะท้อนภาพลักษณ์ของสังคมในยุคสมัยที่ดำเนินเรื่อง เช่น Saturday Night Fever ก็มีความดิสโก้ยุค 70s หรือ Singin’ in the Rain ของ จีน เคลลี ก็ยุค 50s ซึ่งพอกลับมาดูตอนนี้ก็อาจมีความรู้สึกที่ว่า ‘เรื่องนี้มันยุคพ่อแม่เรามาก’ แต่กับ Moulin Rouge! ถึงแม้เรื่องจะจำลองเหตุการณ์ปี 1899 ในย่านมงต์มาตร์ของกรุงปารีส พร้อมเสื้อผ้าหน้าผมที่คนยุคปัจจุบันถือเป็นคอสตูมแฟนซีไปแล้ว แต่หนังกลับรู้สึกร่วมสมัยและเท่สุดๆ ทุกครั้งที่ได้ดู แถมอาร์ตไดเรกชันก็ถือว่ายอดเยี่ยมและมีความสดใหม่ เพราะเรื่องไม่ได้ถูกดัดแปลงหรือรีเมกจากที่เคยมีมาแล้ว ซึ่งหลายคนอาจมีมาตรฐานหรือมีภาพในหัว

 

 

ต้องยกให้ บาซ เลอห์มานน์

Moulin Rouge! เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 3 ในชีวิตของบาซที่เขาเขียนและกำกับเองโดยใช้หลากหลายเรื่องราวและแรงบันดาลใจในการสร้างหนังเรื่องนี้ เช่น ประสบการณ์การไปประเทศอินเดีย โอเปราเรื่อง La traviata ที่ดัดแปลงจากนิยาย La Dame aux Camélias ของนักเขียน อเล็กซานเดอร์ ดูมาส์ ฟิลส์ มาอีกที และละครโศกนาฏกรรมของกรีกเรื่อง Orpheus and Eurydice

 

ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายครั้งแรกที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ในปี 2001 และเพราะความสำเร็จของสองภาพยนตร์ก่อนหน้านี้ของเขา Strictly Ballroom (1992) และ Romeo + Juliet (1996) จึงทำให้ Moulin Rouge! ได้ทุนสร้างสูงถึง 52 ล้านเหรียญสหรัฐ และใช้เวลาถ่ายทำเกือบ 1 ปีเต็มในช่วงปี 1999-2000 ที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ก่อนที่จะล่วงเลยตารางการถ่ายทำและต้องยกกองไปถ่ายส่วนที่เหลือที่เมืองมาดริด ประเทศสเปน เพราะภาพยนตร์ Star Wars: Episode II – Attack of the Clones ได้จองสตูดิโอที่ซิดนีย์ต่อไว้แล้ว

 

 

ลงตัวที่ นิโคล คิดแมน และยวน แม็กเกรเกอร์

สำหรับนักแสดงนำใน Moulin Rouge! ก็ถือว่ามีการออดิชันหลายคน เริ่มจากบทนางเอก ซาติน ที่ตอนแรก แคเธอรีน ซีตา-โจนส์ เป็นหนึ่งในตัวเก็งสำหรับบทนี้ ส่วนด้านนักร้องสาว คอร์ตนีย์ เลิฟ ก็ถึงขั้นยอมให้บาซใช้เพลง Smells Like Teen Spirit ของวง Nirvana หากเธอได้บทนี้ (เธอเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ หลังสามี เคิร์ต โคเบน เสียชีวิต โดยตอนหลังแม้ไม่ได้บท แต่เธอก็ยอมให้ใช้เพลง) สุดท้ายเป็น นิโคล คิดแมน ที่ได้บทนี้ไป และทำให้นิโคลได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงในปี 2002

 

ด้านตัวละครเอกฝ่ายชาย คริสเตียน ก็ได้กลายเป็นอีกหนึ่งบทบาทที่นักแสดงฮอลลีวูดชายหลายคนฟาดฟันกันเพื่อที่จะได้มา ซึ่งไม่แปลก เพราะชื่อเสียงที่ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ได้จากเรื่อง Romeo + Juliet ก็ถือว่าถล่มทลาย ซึ่งลีโอนาร์โดเองก็เข้าร่วมออดิชันเหมือนกัน แต่ตอนหลัง ยวน แม็กเกรเกอร์ ก็ได้บทนี้ไป และเฉือนเอาชนะคู่แข่งสำคัญอย่าง ฮีธ เลดเจอร์ และเจค จิลเลนฮาล

 

 

ดนตรีคือหัวใจสำคัญ

หนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ Moulin Rouge! ประสบความสำเร็จและอยู่ในใจหลายๆ คนก็คือเพลงที่ถูกคัดสรรมาใช้ในภาพยนตร์ โดยบาซได้นำคอนเซปต์ Jukebox ที่เอาเพลงในกระแสหลักที่เราคุ้นเคยทั้งในหมวดร็อก ป๊อป อาร์แอนด์บี ละติน และแดนซ์มายำร่วมกันและรีมิกซ์เป็นเวอร์ชันใหม่ๆ ที่ฟังแล้วยังคงรู้สึกร่วมสมัยทุกวันนี้ ซึ่งรายชื่อศิลปิน เช่น Fatboy Slim ในเพลง Because We Can, เดวิด​ โบวี่ ในเพลง Nature Boy และสำหรับเพลงเมดเลย์ Elephant Love Medley ก็มีการนำเพลงอย่าง All You Need Is Love ของ The Beatles, Pride ของ U2 และ Your Song ของเอลตัน จอห์น มาใช้

 

แต่สำหรับสองเพลงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็ต้องเริ่มด้วยเพลงบัลลาด Come What May ที่ร้องโดยคู่พระนางของเรื่อง ซึ่งกลายเป็นอีกหนึ่งเพลงดูเอ็ตคลาสสิกไปแล้ว แต่เสียดายที่ไม่สามารถเข้าชิงสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ เพราะมีกฎว่าเพลงจะต้องถูกแต่งเพื่อใช้สำหรับภาพยนตร์เรื่องนั้นโดยเฉพาะ ซึ่ง Come What May ในครั้งแรกแต่งไว้ให้ภาพยนตร์ Romeo + Juliet

 

ส่วนเพลง Lady Marmalade ของวงเกิร์ลกรุ๊ป Labelle ก็ถูกนำมาคัฟเวอร์ใหม่ในภาพยนตร์ Moulin Rouge! โดยได้ คริสตินา อากีเลรา, ไมยา, พิงก์, มิสซี เอลเลียต และลิล คิม มาร้อง ซึ่งก็ฮิตติดชาร์ตอันดับหนึ่งทั่วโลก ชนะรางวัลแกรมมี่ สาขา Best Pop Collaboration with Vocals และทุกวันนี้ยังคงเป็นเพลงที่คนต้องเลือกร้องตอนไปคาราโอเกะ

 

 

แฟชั่นที่ขาดไม่ได้

เครื่องแต่งกายในภาพยนตร์เรื่อง Moulin Rouge! ก็เป็นอีกหนึ่งหัวใจหลักที่ทำให้แต่ละซีนของหนังครบถ้วนสมบูรณ์แบบ โดยผู้อยู่เบื้องหลังก็คือ แคเธอรีน มาร์ติน (ภรรยาของบาซที่รับหน้าที่ Production Designer ด้วย) และแองกัส สตราธี ซึ่งทั้งคู่ชนะรางวัลออสการ์สาขาเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยมสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ในปี 2002

 

มีการคาดการณ์ไว้ว่าภาพยนตร์ Moulin Rouge! ใช้คอสตูมไปทั้งหมดกว่า 300 ชุด และมีทีมงานในส่วนนี้สูงถึง 80 คน ส่วนนิโคลเองก็ต้องใส่ชุดคอร์เซ็ตรัดรูปอยู่เป็นประจำ ซึ่งใช้เวลาเกือบ 20 นาทีต่อครั้ง เพราะตอนนั้นซี่โครงของเธอหัก 2 ซี่ในช่วงฝึกซ้อมสำหรับภาพยนตร์ และปิดท้ายด้วยสร้อยเพชรที่เธอใส่ในฉากหนึ่งก็กลายเป็นเครื่องประดับที่มีราคาสูงสุดในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ตอนนั้น ซึ่งดีไซน์โดย สเตฟาโน แคนทูรี กับเพชร 1,308 ชิ้น หนัก 134 กะรัต และมีมูลค่ากว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

Photo: Moulin Rouge/Facebook

 

อ้างอิง:

FYI
  • Moulin Rouge! เวอร์ชันละครเวที กำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายนนี้ ที่เมืองบอสตัน ณ โรงละครเอเมอร์สัน โคโลเนียล (Emerson Colonial Theatre) ก่อนจะย้ายไปบรอดเวย์ที่นิวยอร์กหากประสบความสำเร็จ โดยเวอร์ชันนี้ได้ อเล็กซ์ ทิมเบอร์ส มากำกับ พร้อมด้วย อารอน ทเวต มารับบทคริสเตียน และคาเรน โอลิโว ในบทซาติน
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising