ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับการแข่งขัน MotoGP™ 2019 ที่เรารู้ผลกันแล้วว่าผู้คว้าชัยชนะในปีนี้ตกเป็นของ ‘มาร์ค มาร์เกซ’ กับแชมป์โลกสมัยที่ 8 ซึ่งความน่ายินดีคือการที่เขาบินมาคว้าแชมป์โลกได้สำเร็จที่สนามแข่งขันในเมืองไทยอย่าง สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็น 1 ใน 19 สนามแข่งของรายการนี้ และแม้เกมจะจบไปแล้ว แต่สิ่งที่หลายคนยังคงสงสัยคือ ในเกมกีฬาที่เอาชนะกันด้วยความเร็วอย่างจักรยานยนต์ทางเรียบ ที่บางครั้งเฉือนชนะกันเพียงไม่กี่วินาทีก่อนเข้าเส้นชัยนั้น แบรนด์นาฬิกาสัญชาติสวิสอย่าง Tissot ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนการจับเวลาอย่างเป็นทางการของรายการนี้ ใช้วิธีไหนในการตรวจจับเวลาที่ทำให้ผลลัพธ์นั้นแม่นยำและเที่ยงตรงมากที่สุดจนคนทั้งโลกต่างให้การยอมรับ
มาร์ค มาร์เกซ แบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Tissot
เรื่องนี้ทีมงานของ THE STANDARD ได้บุกเข้าไปหาคำตอบกันถึงห้อง Time Keeping Room หรือห้องจับเวลา ซึ่งเป็นห้องที่โดยปกติแล้วบุคคลภายนอก หรือแม้แต่นักแข่งเองยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป แต่ด้วยความเอ็กซ์คลูซีฟจริงๆ เราจึงได้เห็นเบื้องหลังการทำงานของทีมจับเวลาว่าพวกเขาทำงานกันอย่างไร และใช้วิธีไหนในการจับเวลามอเตอร์ไบค์แต่ละคัน ให้ทุกสนามแข่งขันมีมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด
คำตอบที่เราได้รับคือ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา Tissot ผู้สนับสนุนการจับเวลาอย่างเป็นทางการของการแข่งขัน MotoGP™ ได้ทุ่มทุนเพื่อพัฒนาระบบที่มีความซับซ้อนในการจับเวลาให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้รถทุกคันที่ใช้ในการแข่งขันต้องถูกติดตั้งเครื่องทรานสปอนเดอร์ (Transponder) ไว้กับตัวรถ ซึ่งเจ้าเครื่องนี้ทำหน้าที่เป็นตัวรับ-ส่งสัญญาณระหว่างรถกับระบบปฏิบัติการที่อยู่ในห้องจับเวลา ซึ่งก็เป็นห้องที่เราได้เข้ามาสำรวจนั่นเอง จากจุดนี้เราสามารถมองเห็นภาพบรรยากาศในสนามแข่งได้อย่างชัดเจน ภายในห้องเต็มไปด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากมาย และที่ขาดไม่ได้คือหน้าจอคอมพิวเตอร์หลายสิบจอ ที่ขึ้นภาพมอเตอร์ไบค์แต่ละคันที่กำลังแล่นอยู่ในสนาม พร้อมระบุข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับความเร็วของมอเตอร์ไบค์คันนั้นๆ อย่างละเอียด
เครื่องทรานสปอนเดอร์ (Transponder)
เครื่องทรานสปอนเดอร์ที่ถูกติดตั้งอย่างแน่นหนา จะทำงานร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ ที่ติดตั้งอยู่ตามจุดต่างๆ ภายในสนาม และจะส่งข้อมูลต่างๆ กลับมาที่ห้องจับเวลาแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นความเร็ว องศาการโค้ง และตำแหน่งของผู้เข้าแข่งขันในสนาม ฯลฯ จากนั้นเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญจะคอยตรวจเช็กสัญญาณเหล่านั้น และตรวจสอบความแม่นยำ ก่อนจดบันทึกด้วยมืออีกที เพื่อให้มั่นใจว่าผลการจับเวลาที่ได้นั้นมีความแม่นยำและเที่ยงตรงมากที่สุด
บรรยากาศภาพในห้องจับเวลา
อีกทั้งนอกเหนือจากข้อมูลที่ถูกส่งต่อมาแล้ว ทางทีมงานยังใช้ภาพที่ถ่ายได้จากกล้องที่ติดตั้งไว้บริเวณเส้นชัยควบคู่ด้วยอีกทาง เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับมานั้นไม่ค้านกับสิ่งที่สายตาได้เห็น ซึ่งก็มีอยู่หลายครั้งที่นักบิดตีคู่เข้าเส้นชัยในระยะเวลาที่แทบจะพร้อมกัน เช่น ต่างกันเพียง 0.001 วินาที การมีภาพถ่ายที่ถูกจับขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถบอกให้เรารู้ได้ว่าใครเข้าเส้นชัยก่อนกัน จากภาพตัวอย่างที่ทีมงานเปิดให้ดู ต้องบอกเลยว่าบางครั้งเฉือนกันไปนิดเดียวจริงๆ ถ้ามองด้วยตาเปล่า เราไม่สามารถมองเห็นระยะห่างนี้ได้อย่างแน่นอน
ตัวอย่างภาพจากกล้องบริเวณเส้นชัย
ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่แบรนด์นาฬิกา Tissot จะผูกขาดกับการเป็นผู้สนับสนุนหลักในการจับเวลาอย่างเป็นทางการมาเป็นเวลากว่า 18 ปี และด้วยความเชื่อมั่นในการพัฒนาระบบจับเวลาที่เที่ยงตรงและแม่นยำ Tissot จึงกลายมาเป็นแบรนด์นาฬิกาในดวงใจของสิงห์นักบิดหรือผู้ที่ชื่นชอบความเร็ว ที่ต้องการนาฬิกาที่มีดีไซน์หรูหราตามแบบฉบับของนาฬิกา Swiss Made และความเท่ทะมัดทะแมง ที่สะท้อนให้เห็นถึงคาแรกเตอร์ของผู้สวมใส่ ซึ่งทาง Tissot ก็ผลิตนาฬิกาออกมารองรับคนกลุ่มนี้หลายต่อหลายรุ่นในชื่อตระกูล T-Race
ดังเช่นรุ่นที่ออกมาพิเศษสุดในปีนี้อย่าง Tissot T-Race MotoGP™ Quartz Chronograph Limited Edition (ทิสโซต์ ทีเรซ โมโตจีพี 2019 โครโนกราฟ ลิมิเต็ด เอดิชัน) ที่โดดเด่นด้วยแรงบันดาลใจจากมอเตอร์ไบค์ ไม่ว่าจะเป็นขอบเรือนสีดำแข็งขันดุดันคล้ายล้อแม็กซ์ ตัวสายทำจากยางที่มีความยืดหยุ่นแต่ทนทาน สามารถใส่ลุยน้ำได้สบาย ในขณะที่ตัวกระจกทำจากแซฟไฟร์ที่ทนต่อแรงกระแทกและการขีดข่วน สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนแม้อยู่ในที่มืด เดินด้วยระบบควอทซ์เที่ยงตรง ตัวเรือนทำจากสเตนเลสสลีล 316L ที่มีขนาดใหญ่รับข้อมือหนุ่มๆ เพราะอยู่ที่ 45 มิลลิเมตร สามารถใส่กันน้ำได้ลึก 100 เมตร
และตามแบบฉบับของนาฬิกาโครโรกราฟที่ต้องมาพร้อมหน้าปัดนาฬิกาย่อยเพื่อจับเวลาและบอกวินาที (น่าจะเป็นที่ถูกอกถูกใจคนที่ชื่นชอบฟังก์ชันนี้) และเมื่อพลิกดูด้านหลังจะเห็นโลโก้ MotoGP™ โดดเด่นชัดเจน พร้อมสลักคำว่า ‘Official Timekeeper MotoGP™ World Championship’ และหมายเลขตัวเรือน ที่ตอกย้ำให้เห็นถึงการเป็นแบรนด์นาฬิกาที่นักบิดทั่วโลกให้การยอมรับ และเชื้อเชิญให้เก็บสะสม เพราะทางแบรนด์ได้ดีไซน์กล่องนาฬิกาให้เป็นรูปทรงหมวกกันน็อก ที่เราไม่ค่อยได้เห็นจากแบรนด์ไหน ที่สำคัญนาฬิการุ่นนี้ผลิตออกมาเพียง 4,999 เรือนทั่วโลกเท่านั้น สนนราคาอยู่ที่ 27,300 บาท ถือเป็นนาฬิกาที่ผสานเสน่ห์ของเกมกีฬาอย่าง MotoGP™ และเรือนบอกเวลาสัญชาติสวิสได้อย่างชาญฉลาด เพื่อให้สมกับการเป็นแบรนด์นาฬิกาที่ผูกขาดกับ MotoGP™ มาเป็นเวลากว่าสองทศวรรษ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
- สามารถจับจองเป็นเจ้าของนาฬิการุ่นนี้ได้ที่ร้าน Tissot ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โทร. 0 2613 1172, ชั้น 2 เซ็นทรัลภูเก็ต ฟลอเรสต้า โทร. 0 7661 9960, ชั้น G เทอร์มินอล 21 พัทยา โทร. 0 3325 2608 และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0 2610 0200 หรือคลิก www.tissotwatches.com และ Facebook: th-th.facebook.com/TissotTh