ต้อนรับเช้าวันใหม่กับความเคลื่อนไหวสำคัญในโลกเศรษฐกิจ การเงิน และการลงทุน ประจำวันที่ 27 พฤศจิกายน ใน THE STANDARD WEALTH Morning Brief
UBS Group คาด GDP ‘จีน’ ปีหน้าโต 8.2%
ตลาดหุ้นจีน CSI300 เพิ่มขึ้น 8.89 จุด หรือ 0.18% ดัชนีรวมหุ้นขนาดใหญ่ของตลาดหุ้นจีนปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบแทบตลอดการซื้อขาย โดยปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงในตลาดภาคเช้า แต่ดัชนีสามารถฟื้นตัวได้ดีในตลาดภาคบ่าย จนปิดที่ระดับปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนดัชนี Shanghai ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของกลุ่มสถาบันการเงิน ด้านนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิอีกครั้งที่ 918 ล้านดอลลาร์
ด้านความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ (1) ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง แสดงความยินดีต่อ โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ และหวังว่าทั้งจีนและสหรัฐฯ จะมีพัฒนาการที่ดีในเรื่องของความสัมพันธ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ใช่แค่ส่งผลบวกต่อประชาชนชาวจีนและสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ส่งผลบวกต่อความคาดหวังร่วมกันของประชาคมโลกด้วย (2) UBS Group จากสวิตเซอร์แลนด์คาดว่า GDP ของประเทศจีนจะขยายตัวได้ 8.2% ในปี 2021 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกและการบริโภคภายในประเทศที่แข็งแกร่ง
Credit Suisse ชี้ความเสี่ยงจากนโยบายรัฐ ไม่สามารถหยุดหุ้นเทคจีนได้
ผู้บริหารความมั่งคั่งชื่อดังจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์มองว่า หนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมของจีนที่จะเติบโตได้ดีในปี 2021 คือกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่นักลงทุนมีความกังวลมากขึ้น หลังจากที่ภาครัฐมีแนวโน้มจะออกกฎระเบียบเพื่อควบคุมบริษัทในกลุ่มนี้มากขึ้น เนื่องจากการเติบโตของหุ้นในกลุ่มนี้มาจากการไปกินส่วนแบ่งทางการตลาดจากธุรกิจแบบดั้งเดิม แต่ทาง CS ยังเชื่อว่า ความเสี่ยงที่มาจากนโยบายรัฐไม่น่าจะหยุดการเติบโตของหุ้นเทคโนโลยีจีนได้ นอกจากนี้ยังมองว่า GDP จีนในปี 2021 น่าจะเติบโตได้ราว 7.1%
‘จีน’ เตรียมตอบโต้ ‘อินเดีย’ หลังถูกแบน 43 แอปพลิเคชัน
ตลาดหุ้นอินเดีย Nifty 50 เพิ่มขึ้น 128.60 จุด หรือ 1.00% ดัชนีของตลาดหุ้นอินเดียกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีอีกครั้งหลังจากที่ปรับตัวลดลงแรงกว่า 1% ในตลาดเมื่อวันพุธ ตลาดหุ้นอินเดียปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ตามตลาดส่วนใหญ่ในภูมิภาค ดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ แต่สามารถฟื้นตัวมาอยู่ในแดนบวกได้ในตลาดภาคบ่าย โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มธนาคารที่กลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นได้โดดเด่นอีกครั้ง นอกจากกลุ่มธนาคารแล้ว กลุ่มอุตสาหกรรมส่วนใหญ่สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ ส่วนกลุ่มเทคโนโลยีและน้ำมันปรับตัวผสมผสาน
ด้านความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ จีนเริ่มตอบโต้อินเดีย หลังจากที่รัฐบาลอินเดียได้ประกาศแบนแอปพลิเคชันจีน 43 แอปฯ ที่รวมถึงแอปฯ ชื่อดังอย่าง AliExpress ด้วย โดยทางจีนได้กล่าวว่า “เราไม่เห็นด้วยที่อินเดียใช้เหตุผลเรื่องความมั่นคงเป็นข้ออ้างในการแบนแอปพลิเคชันจีน รัฐบาลจีนมีมาตรฐานที่เป็นสากลในการควบคุมบริษัทจีนสำหรับการทำธุรกิจในต่างแดนอยู่แล้ว และยังต้องดำเนินธุรกิจให้เป็นไปตามหลักจริยธรรมอีกด้วย ทางจีนหวังว่าอินเดียจะจัดเตรียมสิ่งแวดล้อมในการทำธุรกิจที่ยุติธรรม ไม่เอนเอียง และเลือกปฏิบัติต่อบริษัทจากนานาชาติซึ่งรวมถึงจีนด้วย”
ดัชนี Nikkei ปรับขึ้น 3 วันซ้อน อานิสงส์กลุ่มเทคโนโลยี
ตลาดหุ้นญี่ปุ่น Nikkei เพิ่มขึ้น 240.45 จุด หรือ 0.91% ดัชนีของตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน แต่เมื่อดูในภาพรวม จำนวนหุ้นที่ปรับตัวลดลงมีมากกว่าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ระดับหนึ่ง 118 ต่อ 98 หลักทรัพย์ ปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้น มาจากหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวเพิ่มขึ้นกันได้ดีมาก โดยเฉพาะเทคโนโลยีขนาดใหญ่ทั้งภาคบริการและการผลิต ส่วนหุ้นในกลุ่มอื่นๆ ปรับตัวลดลงกันแทบทั้งหมด โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ ท่องเที่ยว และสถาบันการเงิน แต่ไม่ได้ปรับตัวลดลงรุนแรงอะไร ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยมาที่ 104.30 เยน
ด้านความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนที่จะให้สิทธิพิเศษทางภาษีสำหรับชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักในประเทศญี่ปุ่นแบบระยะยาว โดยนโยบายนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่รัฐบาลต้องการจะผันประเทศญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญของโลก และจะช่วยดึงดูดให้ชาวต่างชาติที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาทำงานในประเทศญี่ปุ่น ตลาดคาดว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะอนุมัตินโยบายภาษีต่อชาวต่างชาติในช่วงก่อนสิ้นปี 2020
Barclays ฟันธง ‘หุ้นยุโรป’ จ่อทำจุดสูงสุดใหม่ในปีหน้า
ดัชนีของตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวในกรอบที่แคบ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกสลับกับแดนลบ แต่เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นและลดลงเพียงเล็กน้อย การซื้อขายเป็นไปอย่างเงียบเหงา เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในเทศกาล Thanksgiving Day มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจากประเทศเยอรมนีและฝรั่งเศส โดยเป็นตัวเลขที่ไม่ได้มีความสำคัญสูง แต่ก็แสดงให้เห็นถึงสัญญาณการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ โดยมีปัจจัยมาจากการแพร่ระบาดที่รุนแรงในเดือนพฤศจิกายน
ด้านความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ โดย Tesla ประกาศปรับเพิ่มราคารถยนต์รุ่น Model S ทั่วยุโรป โดยปรับขึ้นเฉลี่ยที่ราว 5,000 ยูโร ในแต่ละประเทศ ขณะที่ Barclays ธนาคารเพื่อการลงทุนสัญชาติอังกฤษมองว่า ตลาดหุ้นยุโรปน่าจะทำจุดสูงสุดใหม่ได้ในปี 2021 โดยมองว่ามีอัปไซด์ประมาณ 13% สำหรับดัชนี STOXX 600 นอกจากนี้ ยังได้แนะนำหุ้น 3 หลักทรัพย์ โดยมองว่ามีอัปไซด์สูง ตัวแรกคือ BP บริษัทน้ำมันจากอังกฤษ ตัวที่สองคือ ABN AMRO จากเนเธอร์แลนด์ และสุดท้าย BT Group บริษัทด้านการสื่อสารจากอังกฤษ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์