×

Morning Brief I 4 ธันวาคม 2563

04.12.2020
  • LOADING...
Morning Brief (4 ธ.ค. 2563)

HIGHLIGHTS

  • Credit Suisse แนะรอซื้อหุ้นหลังเดือนธันวาคม 
  • Barclays มอง S&P 500 แตะ 4,000 จุดในปีหน้า 
  • Pfizer เตรียมวางแผนกระจายวัคซีนในปีนี้ใหม่เนื่องจากเจอปัญหาระบบห่วงโซ่อุปทาน
  • Xiaomi ตั้งเป้าขึ้นอันดับ 2 ตลาดสมาร์ทโฟนในด้านผู้ส่งมอบเครื่อง
  • ‘เงินวอน’ เกาหลีใต้แข็งค่าสุดรอบ 30 ปี จากเงินทุนไหลเข้า

Morning Brief (4 ธ.ค. 2563)

 

Credit Suisse แนะรอซื้อหุ้นหลังเดือนธันวาคม


Jonathan Golub หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ จากบริษัทบริหารความมั่งคั่งชื่อดังจากสวิตเซอร์แลนด์ได้ออกมาเตือนว่า “ถ้าใครคิดจะใส่เงินเข้ามาในตลาดหุ้นตอนนี้ อยากแนะนำว่าให้รอหลังเดือนธันวาคมจะดีกว่า ในอนาคตอันใกล้นี้จะมีปัจจัยเชิงลบจากการขายหุ้นในช่วงคริสต์มาส ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องจับตา รวมไปถึงสัญญาณของการปรับตัวเพิ่มขึ้นของผู้มาลงทะเบียนว่างงานด้วย สำหรับปี 2021 ไวรัสน่าจะไม่ใช่ปัญหาแล้ว” โดย Golub ได้วางเป้าหมายของดัชนี S&P 500 ไว้ที่ 4,050 จุด หรือราว 10% จากปัจจุบัน และยังเชื่อว่าหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีจะยังได้รับความนิยมจากนักลงทุนต่อเนื่อง

 

Barclays มอง S&P 500 แตะ 4,000 จุดในปีหน้า


หัวหน้าฝ่ายวิจัยทางเศรษฐกิจของธนาคารรายใหญ่จากอังกฤษมีมุมมองว่า GDP โลกของปี 2021 จะเติบโตได้ราว +5.6% เมื่อเทียบกับปี 2020 ประเทศส่วนใหญ่ในฝั่งตะวันตกจะเข้าสู่สภาวะ ‘ภูมิคุ้มกันหมู่’ ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2021 ตัวเลขเงินเฟ้อจะมีการขยายตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งไม่มากพอที่จะทำให้ธนาคารกลางต่างๆ เริ่มปรับดอกเบี้ยขึ้น ตลาดแรงงานจะมีการฟื้นตัวขึ้น แต่ตัวเลขอัตราการว่างงานจะยังอยู่ในระดับสูง สุดท้ายได้คาดการณ์ว่าดัชนี S&P 500 จะแตะระดับ 4,000 จุด ดัชนี STOXX 600 จะทำจุดสูงสุดใหม่ และผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ จะอยู่ที่ราว 1.25% ในปี 2021

 

Pfizer เตรียมวางแผนกระจายวัคซีนในปีนี้ใหม่ เนื่องจากเจอปัญหาเกี่ยวกับระบบห่วงโซ่อุปทาน


ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเล็กน้อยในภาพรวม โดยดัชนี S&P 500 เป็นเพียงดัชนีเดียวที่ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากดัชนีหลัก ทั้ง 3 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อยู่ในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่ดี โดยเฉพาะตัวเลขผู้มาลงทะเบียนว่างงานครั้งแรกที่น้อยกว่าที่คาด และตัวเลข PMI ภาคบริการที่ยังขยายตัวได้ดี แต่ตลาดต้องมาเจอกับปัจจัยกดดันในช่วงท้ายตลาด

 

โดยมีข่าวว่าทางบริษัท Pfizer กำลังวางแผนในการกระจายวัคซีนในปีนี้ใหม่เนื่องจากเจอปัญหาเกี่ยวกับระบบห่วงโซ่อุปทาน ดัชนี Dow Jones ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เด่นที่สุดแต่ยังไม่สามารถปิดที่ระดับเหนือ 30,000 จุดได้ โดยปิดไปที่ 29,996 จุด

 

Xiaomi ตั้งเป้าขึ้นอันดับ 2 ตลาดสมาร์ทโฟนในด้านผู้ส่งมอบเครื่อง


ดัชนี Hang Seng TECH Index เพิ่มขึ้น 91.94 จุด หรือ 1.17% กลุ่มเทคโนโลยีกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีอีกครั้ง โดยเฉพาะหุ้น Xiaomi ที่มีแผนจะเติบโตในปี 2021

 

ด้านความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ Xiaomi ตั้งเป้าจะขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ในตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกในแง่ของจำนวนเครื่องส่งมอบ โดยหวังจะแซง Huawei และ Apple ให้ได้ภายในปี 2021 และเชื่อว่าจะสามารถทำได้ด้วย โดยตั้งเป้าส่งมอบเครื่องในปี 2021 ที่ 240 ล้านเครื่อง ซึ่งมากกว่าตัวเลขยอดส่งมอบของ iPhone ที่อยู่ที่ราว 200 ล้านเครื่องต่อปี

 

‘เงินวอน’ เกาหลีใต้แข็งค่าสุดในรอบ 30 ปี จากเงินทุนไหลเข้า


ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ KOSPI เพิ่มขึ้น 20.32 จุด หรือ 0.76% ดัชนีของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เป็นวันที่ 3 ติดต่อกันเช่นเดียวกับตลาดหุ้นญี่ปุ่น แต่ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้โดดเด่นกว่ามาก ปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวเพิ่มขึ้นยังคงเป็นปัจจัยเดิมๆ นั่นคือ 1. หุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่อง 2. นักลงทุนต่างชาติยังเข้าซื้อสุทธิเพิ่มเติมอีก 193 ล้านดอลลาร์ 3. สภาเกาหลีใต้มีมติเพิ่มรายจ่ายในงบประมาณปีหน้าที่ 1,990 ล้านดอลลาร์ จากแผนเดิมเพื่อช่วยลดผลกระทบจากการแพร่ระบาด

 

ด้านความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ 1. ค่าเงินวอนแข็งค่าที่สุดในรอบ 30 เดือน จากกระแสเงินลงทุนต่างชาติเข้ามาที่ตลาด หลังมีข่าวด้านบวกเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนและค่าเงินดอลลาร์ที่ตกต่ำต่อเนื่อง 2. จากการแพร่ระบาดในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนหลายประเทศ รวมถึงในเกาหลีใต้ หันมาใช้บริการออนไลน์ในด้านต่างๆ มากขึ้น รวมถึงบริการจากทางธนาคาร ส่งผลให้ธนาคารส่วนใหญ่ในเกาหลีใต้เริ่มผลักดันนโยบาย ‘เกษียณก่อนกำหนด’ กันมากขึ้นเพื่อลดต้นทุนของธนาคาร 

 

ภาพประกอบ: เทียนจรัส วงศ์พิเศษกุล

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising