การเดิมพันในพันธบัตรยูเครนออกใหม่ซึ่งถือโดย Morgan Stanley Investment Management กำลังให้ผลตอบแทนมากที่สุดในตลาดเกิดใหม่ภายในระยะเวลา 3 เดือน
เหตุการณ์จลาจลช่วงเวลาสั้นๆ ในรัสเซียเป็นผลบวกต่อสินทรัพย์ยูเครนในสัปดาห์นี้ หลายฝ่ายเดิมพันว่าความระส่ำระสายในหมู่ผู้นำระดับสูงของรัสเซียอาจเป็นประโยชน์ต่อความพยายามของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครนในการกระตุ้นเศรษฐกิจและดำเนินการตอบโต้จากสงคราม
พันธบัตรที่เชื่อมโยงกับ GDP มูลค่า 3.2 พันล้านดอลลาร์ ที่หมดอายุเดือนสิงหาคม 2041 ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 40 เซนต์ในสัปดาห์นี้ จาก 27 เซนต์เมื่อสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยข้อมูลจาก Bloomberg ณ 31 มีนาคมที่ผ่านมาพบว่า Morgan Stanley ซื้อพันธบัตรบางส่วน
ทั้งนี้ ผลตอบแทนรวม (Total Return) ของพันธบัตรดังกล่าวอยู่ที่ราว 47% สำหรับไตรมาสที่ผ่านมา โดยราคาขายพันธบัตร ณ วันอังคารที่ผ่านมาอยู่ที่ 38 เซนต์
นอกจากนี้ พันธบัตรรัฐบาลสกุลเงินดอลลาร์ของยูเครนเอาชนะตลาดเกิดใหม่แห่งอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่ได้จดทะเบียนในเดือนมิถุนายน และสร้างผลตอบแทนมากกว่า 30% ในไตรมาสนี้ ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลสกุลเงินดอลลาร์ในตลาดเกิดใหม่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเพียง 1.8% เท่านั้นในช่วงเวลาเดียวกัน
นอกเหนือจากผลกระทบจากเหตุจลาจลในรัสเซียเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มเศรษฐกิจของยูเครนเริ่มกลับมาเติบโตมากกว่าเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับเพิ่มแนวโน้มการเติบโตของยูเครนในปี 2023 เป็น 3% ในเดือนพฤษภาคม จากเดิม 1% ด้าน Goldman Sachs Group เพิ่มการคาดการณ์การเติบโตของยูเครนเป็น 5.5% จากรายงานเดือนมิถุนายน
เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลต่อผู้ถือพันธบัตร GDP ของยูเครน เพราะการจ่ายผลตอบแทนระบุว่าจะต้องจ่ายเท่ากับการเติบโตที่แท้จริง ซึ่งต้องเป็น 3% หรือมากกว่า
รายงานของ Morgan Stanley ระบุว่า สินเชื่อของยูเครนกำลังเป็นที่โปรดปรานในหมู่ธนาคาร เพราะคาดถึงผลตอบแทนจากมูลค่าการฟื้นตัวและความคาดหวังต่อเสถียรภาพของหนี้และเศรษฐกิจ
ด้าน IMF เชื่อว่านอกเหนือจากการสูญเสียด้านมนุษยธรรมอย่างน่าสยดสยองแล้ว การรุกรานยูเครนของรัสเซียยังคงส่งผลกระทบร้ายแรงต่อเศรษฐกิจ แต่เศรษฐกิจยูเครนก็แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นอย่างน่าทึ่ง
อ้างอิง: