ความผิดปกติของการซื้อขายหุ้น บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 โดยราคาหุ้น MORE ปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่เปิดตลาด บวกแรงถึง 4.3% จากราคาปิดวันก่อนหน้า ด้วยมูลค่าการซื้อขายทั้งวันที่สูงมากถึง 7,143 ล้านบาท ขณะที่ในช่วงที่เปิดตลาด มีปริมาณการซื้อขายสูงถึง 1,500 ล้านหุ้น มูลค่าประมาณเกือบ 4,300 ล้านบาท แต่หุ้นถูกเทขายอย่างหนักจนปิดตลาดที่ 1.95 บาท ลดลง 0.83 บาท หรือ -29.86% และถัดมาในวันที่ 11 พฤศจิกายน หุ้น MORE เปิดตลาดด้วยราคา 1.37 บาท ลดลง 0.58 บาท หรือ -29.74% เท่ากับว่าหุ้น MORE ร่วง 2 ฟลอร์ติดกัน
เป็นที่มาที่ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เร่งเข้าตรวจสอบตั้งแต่วันแรกที่พบความผิดปกติร่วมกับโบรกเกอร์, สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จนถึงวันนี้ (16 พฤศจิกายน) ครบ 7 วัน
ล่าสุดผลการตรวจสอบมีความคืบหน้าไปแล้วเกิน 50% พบหลักฐานที่มีนัยสำคัญชัดเจนว่ามีการกระทำที่ไม่ปกติ ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงมีความมั่นใจว่าภายในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ จะรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการต่อไป
จึงเป็นที่น่าติดตามต่อว่า ความผิดที่จะเกิดขึ้นจากความผิดปกติของธุรกรรมปัญหาซื้อขายหุ้น MORE ในครั้งนี้ จะมีฐานความผิดอะไร และมีใครเข้ามามีส่วนในการทำผิดครั้งนี้บ้าง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- จับตา หุ้น MORE ! หลังตลาดหลักทรัพย์และสมาคมโบรกเกอร์เตรียมแถลงแนวทางแก้ปมผิดนัดชำระค่าหุ้น
- ทำความเข้าใจเกม หุ้น MORE ทิ้งคำถามถึงช่องโหว่ของวงการหุ้นไทย
- ตลาดหลักทรัพย์ฯ แขวนหุ้น ‘MORE’ วันนี้ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบธุรกรรม