ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2019 Dior ได้ปิดประตูสาขาประวัติศาสตร์ตรงแยกซึ่งตัดถนนระหว่าง Avenue Montaigne และ Rue François ในปารีสเพื่อปรับปรุงครั้งใหญ่ ก่อนจะเปิดประตูต้อนรับแขกอีกครั้งเมื่อต้นปี การตกแต่งโฉมใหม่ของสาขา 30 Montaigne ผ่านฝีมือของสถาปนิกเบอร์ใหญ่ชื่อคุ้นหู Peter Marino ผู้ที่แบรนด์แฟชั่นทั้งหรูและยักษ์ใหญ่มักเชื้อเชิญมาออกแบบร้าน หากคุณติดตามแง่มุมนี้ผ่านการเคลื่อนไหวของแบรนด์อย่าง Chanel, Louis Vuitton และ Dior ก็คงเห็นว่าชื่อของเขาคนนี้ถูกพ่วงมาด้วยบ่อยครั้ง
นอกจากตัวบูติก แกลเลอรี อะเตลิเยร์สำหรับเสื้อผ้าโอต์กูตูร์ และสวนสวยด้านในตึกสไตล์ปารีเซียง Dior 30 Montaigne เวอร์ชันนี้ยังมีส่วนที่เราอยากพูดถึงคือ ‘Monsieur Dior’ ร้านอาหารที่ชวนให้สาวกมาซึมซับความเป็น ‘Dior’ เข้าไปอีกขั้นผ่านแต่ละเมนูที่ทางแบรนด์เล่าว่าออกแบบขึ้นเพื่อสะท้อนรสนิยมความเป็นนักชิมของ มองซิเออร์ คริสเตียน ดิออร์ เสิร์ฟบนจานชามพิเศษจาก Dior Maison และแน่นอนว่าแม้แต่น้ำแร่คุณก็จะได้จิบจากแก้วลาย ‘Cannage’ ลายเดียวกับกระเป๋าใบฮิต Lady Dior
เชฟคนไหนกันที่แบรนด์เลือกให้มาถ่ายทอดรสนิยมของมองซิเออร์ ดิออร์ลงบนจานอาหาร? ชื่อของเชฟก็คุ้นหูไม่แพ้สถาปนิกผู้ออกแบบ เพราะ Dior เล่นข้ามถนนไปชวน Jean Imbert ผู้ชนะ Top Chef France Season 3 จากโรงแรม Plaza Athénée ฝั่งตรงข้ามถนน Avenue Montaigne มาเป็นผู้ดูแลครัวที่นี่ ซึ่งเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา Jean Imbert ก็เพิ่งจะสร้างเสียงฮือฮาในวงการอาหารเพราะเขาไปเทกโอเวอร์ร้านที่ถือว่าหรูหราที่สุดร้านหนึ่งในปารีส ณ โรงแรม Plaza Athénée ที่ว่าต่อจากเชฟชื่อก้องโลก Alain Ducasse จนเกิดข้อกังขาขึ้นมากมายจากนักวิจารณ์อาหารในปารีสว่า เชฟที่ไม่เคยผ่านดาวมิชลินและยังถือว่าอายุน้อยอย่างเขาจะมาแทนที่ Alain Ducasse ได้หรือ?
แต่ถึงอย่างไร Jean Imbert เองก็ได้ผ่านอีกหลากหลายประสบการณ์ที่ทำให้เขาถูกพูดถึงในข่าวมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการไปเปิด ToShare ร้านอาหารแนวสตรีทฟู้ดที่ St.Tropez ร่วมกับนักร้อง Pharrell Williams ตามด้วยการไปเปิดร้านอาหารแคริบเบียน La Case ที่รีสอร์ต Cheval Blanc ใน St.Barth และล่าสุดขึ้นโบกี้ไปดูแลอาหารให้รถไฟ Venice Simplon-Orient-Express ของแบรนด์รถไฟและโรงแรมหรู Belmond ที่กลับมาเปิดหลังโควิค ซึ่งเราเองก็ต้องให้ข้อมูลว่าทั้งแบรนด์ Cheval Blanc และ Belmond ถือครองโดย LVMH เช่นเดียวกับ Dior
กลับมาที่ Monsieur Dior ก่อนจะไปไกล ถ้าคุณถามว่าหลังจิบน้ำแร่จากแก้วลายเดียวกับกระเป๋า Lady Dior จนเริ่มหายคอแห้ง และชื่นชมงานศิลปะบนผนังจากการต่อภาพถ่ายของ Guy Limone จนอิ่มตาแล้ว ฉันจะได้กินอะไรแบบเดียวกับที่มองซิเออร์ คริสเตียน ดิออร์โปรดปรานบ้าง
Jean Imbert ให้สัมภาษณ์กับ The New York Times ว่าหลังจากที่ใช้เวลาลงลึกเรื่องราวการกินของมองซิเออร์ คริสเตียน ดิออร์ผ่านหนังสือ La Cuisine Cousu-Main เขาพบว่ามองซิเออร์ชื่นชอบการปรุงอาหารแบบฝรั่งเศสขนานแท้ อย่างจำพวกไก่อบยัดไส้สมุนไพรที่ทานคู่กับสลัดและไข่ทอดน้ำ ดังนั้นเมนูที่นี่จะดัดแปลงมาจากของโปรดของมองซิเออร์เป็นส่วนใหญ่ เราเองเห็นว่าเมนูที่ดูน่าจะทั้งเพลินตาและเพลินลิ้นมีทั้งอะโวคาโดยัดไส้ปูที่จับมาจากทะเลแถบ Granville บ้านเกิดของมองซิเออร์ เสิร์ฟพร้อมเกรปฟรุต จานฝรั่งเศสจ๋าแบบขนมปังคร็อก-เมอซิเออร์ ที่ดัดแปลงด้วยสัมผัสของทรัฟเฟิล ไปจนถึงพายช็อกโกแลต ตกแต่งด้วยช็อกโกแลตแผ่นรูปทรงดาวสลักลาย ‘CD’
ใครอยากซึมซับเรื่องราวของ Monsieur Dior เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้ที่ https://www.dior.com/en_th/fashion/news-savoir-faire/folder-news-and-events/30-montaigne-restaurant
ภาพ: Courtesy of Monsieur Dior