วันนี้ (5 สิงหาคม) เจ้าหน้าที่ตำรวจและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ร่วมกันเปิดปฏิบัติการกวาดล้างพระสงฆ์ที่กระทำผิดกฎหมายและพระธรรมวินัย โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 154 ราย จากเป้าหมายทั้งหมด 181 ราย
พล.ต.อ. ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ปฏิบัติการนี้มีเป้าหมายหลักคือพระสงฆ์ที่กระทำผิดกฎหมาย และใช้ผ้าเหลืองเป็นเกราะกำบังในการหลบหนี ซึ่งผู้ต้องหาส่วนใหญ่ยอมรับสารภาพ โดยเฉพาะผู้ที่หลบหนีคดีอาญาและคดียาเสพติด ซึ่งเป็นความผิดอันดับหนึ่งที่พบในปฏิบัติการครั้งนี้
พล.ต.อ. ไกรบุญ กล่าวว่า แม้จะมีพระบางรูปไม่ยอมลาสิกขา แต่ตามระเบียบใหม่ของมหาเถรสมาคมที่ลดระยะเวลาการดำเนินการจาก 3 ปี เหลือเพียง 10 วัน ทำให้ตำรวจสามารถดำเนินการให้ลาสิกขาได้ทั้งหมดเพื่อเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีการประสานงานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อติดตามจับกุมพระที่หลบหนีไปต่างประเทศ โดยยืนยันว่ากฎหมายฟอกเงินสามารถตามไปดำเนินการนำตัวกลับมาดำเนินคดีได้ ส่วนในอนาคตจะมีการตรวจสอบไปถึงพระชั้นผู้ใหญ่ที่อาจเกี่ยวข้อง หากพบการกระทำผิดก็จะดำเนินการเช่นกัน
ในขณะที่ พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) กล่าวเสริมว่า ข้อมูลที่ใช้ในการตรวจสอบและจับกุมได้มาจากหลายภาคส่วน ทั้งจากศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แต่จะมีการนำข้อมูลมาวิเคราะห์อย่างละเอียดเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
บุญเชิด กิตติธรางกูร รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ยืนยันว่า สำนักพุทธฯ พร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจ 100% หลังจากนี้หากตำรวจต้องการข้อมูลใดก็จะส่งให้ทั้งหมด
โดย พล.ต.อ. ไกรบุญ กล่าวเสริมว่า ได้มีการทำข้อตกลงร่วมกันว่า หากพบว่ามีพระสงฆ์ในจังหวัดใดกระทำผิดเกิน 3 รูป ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนั้นๆ จะต้องถูกย้ายออกจากตำแหน่งเพื่อรับผิดชอบ ซึ่งเป็นมาตรการเดียวกับที่ใช้ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ปฏิบัติการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกวาดล้างกลุ่มบุคคลที่แอบแฝงในคราบผ้าเหลือง และสร้างความเสื่อมเสียให้กับศาสนา เพื่อให้พุทธศาสนิกชนสามารถพิจารณาการถวายเงินและทำบุญได้อย่างมั่นใจ