โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ กับอนาคตในแอนฟิลด์… ที่ขึ้นอยู่กับลิเวอร์พูล

โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ สตาร์กองหน้าทีม ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล กำลังถูกจับตามองเรื่องอนาคตในถิ่นแอนฟิลด์ หลังจากที่มีการออกมาให้สัมภาษณ์ล่าสุดในประเด็นนี้อย่างน่าสนใจ

โดยดาวยิงวัย 28 ปีที่ทำไปแล้ว 13 ประตูในฤดูกาลนี้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ TV2 จากประเทศนอร์เวย์เกี่ยวกับเรื่องอนาคตกับลิเวอร์พูล ซึ่งในระยะหลังถูกจับตามองมากขึ้นจากหลายฝ่าย หลังมีกระแสข่าวว่าซาลาห์ไม่มีความสุขกับทีม

คำตอบจากซาลาห์ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของทีมมาโดยตลอดนับตั้งแต่ย้ายมาจากโรมาเมื่อปี 2017 ชัดเจนว่าพร้อมจะอยู่ในแอนฟิลด์ต่อไป แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุดอยู่ที่ประโยคต่อท้าย

“ผมไม่รู้เหมือนกัน ถ้าคุณถามผม ผมก็อยากบอกว่าผมอยากจะอยู่ที่นี่ต่อไปให้นานที่สุด แต่ก็อย่างที่ผมเคยบอกก่อนหน้านี้ ทุกอย่างอยู่ในมือของสโมสร

ผมจะทุ่มเท 100 เปอร์เซ็นต์เสมอจนกว่าจะถึงนาทีสุดท้ายที่สโมสรแห่งนี้ และผมก็อยากจะคว้าโทรฟี่ให้ได้มากที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ ผมอยากจะทุ่มเทเต็มร้อยให้แก่ผู้คนที่มอบความรักให้กับผมตลอดมา”

การออกมาเปิดเผยความรู้สึกของซาลาห์ ยิ่งทำให้สถานการณ์ระหว่างเขาและต้นสังกัดอย่างลิเวอร์พูลน่าจับตาขึ้นไปอีก เนื่องจากก่อนหน้านี้กองหน้าสายสปีดได้เคยให้สัมภาษณ์กับ AS สื่อดังจากประเทศสเปนแบบหมดเปลือก

โดยในบทสัมภาษณ์ครั้งนั้นมีการกล่าวถึงบาร์เซโลนาและเรอัล มาดริด สองสโมสรที่ใหญ่ที่สุดของสเปนและของโลก และยอมรับว่าผิดหวังกับการที่ไม่ได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมในเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก กับเอฟซี มิดทิลลันด์ เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

ความเคลื่อนไหวของซาลาห์ถูกคาดว่าเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องสัญญาฉบับใหม่ โดยสัญญาฉบับปัจจุบันนั้นมีการตกลงกันตั้งแต่ปี 2018 หลังจบฤดูกาลแรกในแอนฟิลด์ ซึ่งเขาทำผลงานได้อย่างมหัศจรรย์ โดยทำไปถึง 44 ประตู และมีส่วนในการพาทีมเข้าชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก แต่โชคร้ายถูก เซร์คิโอ รามอส เล่นงานจนบาดเจ็บหนักที่ไหล่และต้องเปลี่ยนตัวออก ก่อนที่ลิเวอร์พูลจะแพ้ไปในเกมดังกล่าว

แม้ซาลาห์จะเป็นผู้เล่นที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงที่สุดภายในทีมลิเวอร์พูล แต่ผลงานการทำประตูสม่ำเสมอในช่วงที่ผ่านมาทำให้ต้องการที่จะได้รับค่าตอบแทนเพิ่มในสัญญาฉบับใหม่ เพื่อที่จะได้ฝากอนาคตเอาไว้กับทีมลิเวอร์พูลต่อไป

สมาคมฟุตบอลอียิปต์แถลง โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ติดโควิด-19

ซาลาห์กับค่าสถิติที่น่ากังวล

จังหวะในการออกมาเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องอนาคตในถิ่นแอนฟิลด์ของซาลาห์อาจจะไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีนัก เนื่องจากลิเวอร์พูลกำลังเผชิญกับช่วงฟอร์มตกอย่างหนักที่สุดในรอบหลายปี

4 นัดหลังสุดในศึกพรีเมียร์ลีกแชมป์เก่าเก็บได้เพียงแค่ 3 คะแนน จาก 12 คะแนนเต็ม โดยเสมอ 3 และแพ้ 1 ไม่ชนะแม้แต่เกมเดียว นอกจากนี้ยังทำประตูไม่ได้ต่อเนื่องกันเป็นเกมที่ 3 ซึ่งแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา

การฟอร์มตกเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ เพราะหากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ 14 นัดแรกของฤดูกาล ลิเวอร์พูลทำได้ถึง 36 ประตู มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก ขณะที่นัดสุดท้ายที่พวกเขาทำประตูได้คือการถล่มคริสตัล พาเลซ คาเซลเฮิร์สต์ พาร์คถึง 7-0

ฟอร์มในเกมดังกล่าวยอดเยี่ยมอย่างมาก เพราะตลอดทั้งเกมลิเวอร์พูลมีโอกาสยิง 14 ครั้ง และสามารถยิงได้ถึง 7 ประตู เรียกว่าเปลี่ยนโอกาสเป็นประตูได้มากถึงครึ่งต่อครึ่ง

แต่หลังจากนั้น 4 เกม พวกเขาทำได้แค่ประตูเดียว และนับจากประตูที่ทำได้ในเกมกับเวสต์บรอมวิช อัลเบียน จากฝีเท้าของ ซาดิโอ มาเนแล้ว ลิเวอร์พูลทำประตูไม่ได้ต่อเนื่องกันมาถึงกว่า 6 ชั่วโมงแล้ว

สถานการณ์ดังกล่าวมีการวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาอย่างมากมาย ตั้งแต่แดนหลัง แดนกลาง มาถึงแดนหน้า แต่ดูเหมือนจุดที่ถูกจับตามองมากที่สุดคือปัญหาฟอร์มการเล่นตกวูบ พร้อมกันของ 3 กองหน้าที่เคยน่ากลัวที่สุดของโลก

แดงเดือด: ลิเวอร์พูลกับปัญหาใหญ่ในแดนหน้า 3 ประสานจะสิ้นลายแล้ว?

4 นัดหลังสุดตั้งแต่เสมอเวสต์บรอมวิช อัลเบียน 1-1, เสมอนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 0-0, แพ้เซาแธมป์ตัน 0-1 และเสมอแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0 ในเกมแดงเดือดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูลสร้างโอกาสในการลุ้นทำประตูได้ถึง 62 ครั้ง

แม้ว่าในจำนวนโอกาสทั้งหมดจะมีโอกาสที่จะแจ้งน้อยมาก แต่จำนวนโอกาสมากขนาดนี้อย่างน้อยต้องมีสกอร์ให้เห็นมากกว่าแค่ 1 ประตู

เมื่อมองค่าสถิติ Expected Goals (xG – ค่าโอกาสได้ประตูที่มีคุณภาพ) ค่า xG ของทั้งทีมลิเวอร์พูลอยู่ที่ 1.4-1.6 ในเกมที่พบกับเวสต์บรอมวิช อัลเบียน, นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และเซาแธมป์ตัน ขณะที่ในเกมกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดซึ่งแข็งแกร่งกว่า ค่า xG ลดลงมาอยู่ที่ 1.16

ตัวเลขอาจไม่ถึงกับสูงมาก แต่ไม่ได้แปลว่าทีมไม่มีโอกาสเลย

ทีนี้เมื่อมองมาที่รายบุคคลแล้ว นักเตะที่ถูกจับตามองมากที่สุดว่าฟอร์มตกหนักคือ โรแบร์โต เฟียร์มิโน ที่ไม่สามารถเล่นได้ดีเหมือนเคย

เพียงใน 4 เกมที่ผ่านมา เฟียร์มิโนพลาดโอกาสไปทั้งหมด 13 ครั้ง คิดเป็นค่า xG อยู่ที่ 1.34 ซึ่งยังน้อยกว่าซาลาห์ที่พลาดโอกาสคิดเป็นค่า xG ไปถึง 1.58

อย่างไรก็ดี หากมองผลงานโดยรวมตลอดฤดูกาลแล้ว อย่างที่บอกว่าซาลาห์ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทำไป 13 ประตู และทำประตูได้มากกว่าค่า xG ของตัวเองถึง 4 ประตู ซึ่งอาจเป็นการสรุปได้ว่ากองหน้าขวัญใจแฟนบอลแค่ประสบปัญหาช่วงฟอร์มตกธรรมดาเท่านั้น ไม่ได้กระทบต่อเรื่องการหาโอกาสหรือความทุ่มเทในสนามแต่อย่างใด

ขณะที่การขาด ดีโอโก โชตา กองหน้าใหม่ที่คว้าตัวมาจากวูล์ฟส์ และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทันที แต่โชคร้ายบาดเจ็บเข่าในเกมนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มแชมเปียนส์ลีกกับเอฟซี มิดทิลลันด์ จนต้องพักการเล่นยาว 2 เดือน ก็มีส่วนทำให้แนวรุกของทีมมีปัญหา

เพราะโชตาเป็นส่วนผสมที่สดใหม่ในแนวรุกที่สามารถลงมาทดแทนได้ทุกคน และมีความสามารถในการหาพื้นที่สร้างโอกาสในการทำประตูได้ดีมาก มักจะอยู่ถูกที่ถูกเวลาเสมอ ซึ่งที่ผ่านมาดาวเตะทีมชาติโปรตุเกสมีค่า xG ที่ 0.41 หรือคิดแล้วจะทำได้ 2 ประตูในทุก 5 นัด

อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะซาลาห์หรือคนอื่นในทีมต้องพยายามเรียกฟอร์มกลับมาให้ได้โดยเร็วที่สุด

เพราะหากช้ากว่านี้ จากการลุ้นป้องกันแชมป์ อาจจะต้องลุ้นชิงพื้นที่ท็อปโฟร์แทน

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

อ้างอิง: