เมื่อนึกถึงช็อกโกแลตเชื่อว่าหลายคนเคยลองลิ้มชิมรสชาติของ M&M’S กันมาแล้ว ด้วยจุดเด่นที่มีขนาดเล็ก สีสันสดใส พร้อมทั้งกลิ่นหอมและรสชาติอันเย้ายวนของช็อกโกแลต เนย และคาราเมลอันหอมหวาน พร้อมกับสโลแกนที่ว่า ‘ละลายในปากแต่ไม่ละลายในมือ’ นั่นทำให้ช็อกโกแลต M&M’S เป็นขนมยอดฮิตไปทั่วโลกตั้งแต่ปลายยุค 70’s จนถึงปัจจุบัน
แต่จริงๆ แล้วจุดกำเนิดของช็อกโกแลตยี่ห้อนี้มาจากความขัดแย้งของนานาประเทศในช่วงสงครามโลก และจากรอยร้าวแห่งความสัมพันธ์ของพ่อลูกคู่หนึ่งในยุค 30’s
ฟอร์เรสต์ เอ็ดเวิร์ด มาร์ส (Forrest Edward Mars) ลูกเจ้าของบริษัทลูกอม Mars มีความเห็นไม่ลงรอยกับพ่อสักเท่าไรเรื่องการขยายธุรกิจ เขาจึงย้ายไปอังกฤษและผลิตช็อกโกแลต ‘Mars’ ขึ้นในโรงงานเล็กๆ จากนั้นเขาย้ายไปยุโรปเพื่อเรียนรู้งานจากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Nestlé และ Tobler เพื่อเก็บสะสมความรู้
ระหว่างที่อยู่ยุโรปเป็นช่วงที่เกิดสงครามกลางเมืองในสเปน เขาสังเกตว่าช็อกโกแลตได้รับความนิยมในหมู่ทหาร และยังค้นพบว่าช็อกโกแลตเปรียบเสมือนอาหารที่ชวนให้คิดถึงบ้านเกิด แต่ทว่ามันละลายง่ายเหลือเกิน ฟอร์เรสต์จึงคิดค้นหาทางที่จะทำให้เหล่าทหารเพลิดเพลินกับช็อกโกแลตได้นานขึ้น โดยในช่วงแรกเขาได้ทำการประดิษฐ์ช็อกโกแลตที่เคลือบด้วยช็อกโกแลตแล้วนำมาบรรจุลงในหลอดกระบอกเพื่อทนต่ออุณหภูมิภายนอก
แต่เนื่องจากกระบวนการผลิตนั้นสิ้นเปลืองช็อกโกแลตเป็นอย่างมาก ประกอบกับสงครามโลกครั้งที่สองได้ปะทุขึ้น ฟอร์เรสต์มองเห็นว่าอีกไม่นานช็อกโกแลตจะต้องเป็นสินค้าขาดตลาดอย่างแน่นอน เขาจึงร่วมมือกับบรูซ เมอร์รี (Bruce Murrie) ลูกชายเจ้าของบริษัท Hershey’s สร้างช็อกโกแลตที่ไม่ละลายในมือขึ้น และตั้งชื่อว่า M&M’S จากสองนามสกุลของทั้งคู่ จนกลายเป็นหนึ่งในเสบียงชิ้นสำคัญประจำกองทัพสหรัฐฯ และกลายเป็นช็อกโกแลตยอดนิยมทั่วโลกในเวลาต่อมา
นอกเหนือจากนั้น ในปี 1981 นักบินอวกาศสหรัฐฯ ได้ขน M&M’S ขึ้นไปเป็นอาหารยามว่างขณะปฏิบัติภารกิจนอกโลก แถมมันยังเป็นช็อกโกแลตที่นิยมบริโภคภายในองค์การนาซาอีกด้วย และชื่อของ ฟอร์เรสต์ มาร์ส ก็เคยติดโผการจัดอันดับบุคคลที่รวยที่สุดในโลกลำดับที่ 30 จากนิตยสาร Forbes มาแล้ว
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: