ในโลกที่ทุกคนมีกล้องสมาร์ทโฟนอยู่ในกระเป๋า ทำไม ‘Mirrorless’ ถึงมียอดขายพุ่งกระฉูดขนาดนี้? คำถามนี้อาจอยู่ในใจของหลายๆ คน ซึ่งสะท้อนจากตัวเลขยอดขายของอุตสาหกรรมกล้อง
ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ยอดจัดส่งทั่วโลกของกล้องเหล่านี้สูงถึง 253,000 ล้านเยน หรือราว 6.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นยอดขายที่ทำลายสถิติเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน โดยความนิยมที่เพิ่มขึ้นอาจมาจากหลายปัจจัยทั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ลาก่อน! Nikon จะยุติ ‘ธุรกิจกล้อง DSLR’ หันมาลุย ‘กล้อง Mirrorless’ เต็มสูบ หลังกระทบหนักจากกล้องสมาร์ทโฟน
- เมื่อ ‘กล้องสมาร์ทโฟน’ ไม่สามารถตอบโจทย์ช่างภาพได้ทั้งหมด ‘กล้องดิจิทัล’ จึงกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง! สะท้อนจากราคาที่เพิ่มเฉลี่ย 2 เท่าในช่วง 3 ปี
- โบกมือลา กล้องคอมแพ็ก Panasonic และ Nikon จับมือเลิกพัฒนา หลังการมาของ ‘กล้องสมาร์ทโฟน’ ทำให้ส่วนแบ่งตลาดหายไปมากถึง 97%
ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า: กล้องเหล่านี้มักจะให้คุณภาพของภาพและประสิทธิภาพที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับกล้องสมาร์ทโฟน โดยให้สีสันที่เข้มข้นขึ้น ประสิทธิภาพในสภาวะแสงน้อยที่ดีขึ้น และภาพที่มีรายละเอียดมากขึ้น
คุณสมบัติขั้นสูง: การรวมปัญญาประดิษฐ์ไว้ในกล้อง เช่น Z9 รุ่นเรือธงของ Nikon ทำให้กล้องสามารถตรวจจับวัตถุต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ ตั้งแต่คน นก ไปจนถึงยานพาหนะ และปรับการตั้งค่าเพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุด
อิทธิพลของการท่องเที่ยว: การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นยอดขายเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น จีนซึ่งเป็นแหล่งนักท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก มีการซื้อกล้อง Mirrorless เพิ่มขึ้น 44% ญี่ปุ่นและยุโรปก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่ 30% และ 9% ตามลำดับ
จากข้อมูลขององค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในไตรมาสแรกของปี 2023 สิ่งนี้บ่งชี้ว่าเมื่อมีผู้คนเดินทางมากขึ้น พวกเขายังลงทุนในอุปกรณ์การถ่ายภาพที่ดีขึ้นเพื่อบันทึกภาพประสบการณ์ของพวกเขา
ในขณะที่กล้อง Mirrorless มียอดขายเพิ่มขึ้น สมาร์ทโฟนกำลังประสบปัญหา โดยยอดขายลดลง 11% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ สิ่งที่น่าสนใจคือตัวเลขลดลงเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
สิ่งนี้อาจบ่งบอกถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นในหมู่ผู้บริโภคสำหรับอุปกรณ์พิเศษที่มีฟังก์ชันการทำงานที่เหนือกว่าสำหรับงานเฉพาะอย่าง เช่น การถ่ายภาพ
บริษัทต่างๆ ไม่ได้พึ่งพาเทคนิคที่เหนือกว่าของกล้อง Mirrorless เพียงอย่างเดียว แต่ยังเดินเกมในหลายๆ ด้าน ทั้งขอคำแนะนำเครื่องมือที่เหมาะสำหรับมือใหม่ผ่านการเพิ่มเครื่องมือเพื่อป้องกันข้อผิดพลาดทั่วไป เช่น รูปภาพที่พร่ามัวหรือมีแสงน้อย
ขณะที่น้ำหนักเป็นอุปสรรคสำคัญในอดีต ได้มีความพยายามที่จะลดสิ่งนี้ลง เช่น EOS R100 ของ Canon ซึ่งมีน้ำหนักเท่ากับ iPhone สองเครื่อง
นอกจากนี้ยังมีการขยายสายผลิตภัณฑ์ โดย Canon เปิดตัวรุ่นใหม่ 6 รุ่นภายใน 1 ปี สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของแบรนด์ในตลาดที่กำลังเติบโต ตลอดจนรักษาสมดุลระหว่างคุณภาพกับราคาที่สามารถจ่ายได้และความเป็นมิตรกับผู้ใช้
พูดง่ายๆ ก็คือกล้อง Mirrorless ไม่ได้มีไว้สำหรับมืออาชีพเท่านั้น เหมาะสำหรับใครก็ตามที่ต้องการถ่ายภาพสวยๆ ไม่ว่าจะไปเที่ยวพักผ่อนหรือเก็บภาพความทรงจำที่บ้านก็ตาม
อ้างอิง: