MINT เผยปี 2565 พลิกกลับมามีกำไร 4,286 ล้านบาท เติบโต 132% จากธุรกิจหลักกลุ่ม ‘โรงแรม-ร้านอาหาร’ รับอานิสงส์ท่องเที่ยวฟื้น ผู้บริโภคเริ่มจับจ่าย พร้อมบริหารต้นทุนได้ดี เตรียมพิจารณาจ่ายเงินปันผลผู้ถือหุ้น
ดิลลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ MINT เปิดเผยว่า บริษัทได้กลับมาวางแผนกลยุทธ์ระยะยาวอีกครั้งหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลายลง โดยที่ผ่านมาได้ปรับแผนให้สั้นลงโดยครอบคลุมระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปี 2565-2568 รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและปรับโครงสร้างธุรกิจไปสู่ดิจิทัล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- รับอานิสงส์ท่องเที่ยวฟื้นตัว ไมเนอร์ทุ่ม 15,000 ล้านบาท ปั๊มรายได้-กำไร ธุรกิจโรงแรม-อาหาร พร้อมขยายพอร์ตธุรกิจกวาดลูกค้ารอบทิศ
- ไมเนอร์โชว์กำไร 3Q65 จำนวน 4.6 พันล้าน สูงกว่าช่วงก่อนโควิด หลังปรับกลยุทธ์เชิงรุก ทำธุรกิจโรงแรม-ร้านอาหาร-ไลฟ์สไตล์ฟื้น
- MINT – พรีวิว 4Q65 โลว์ซีซันที่แข็งแกร่ง
ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโตในปี 2566 และปีถัดไป พร้อมเดินหน้าให้ความสำคัญกับการหาโอกาสใหม่ๆ เข้ามาเสริมทัพธุรกิจ เพื่อเร่งการเติบโตและเพิ่มความสามารถในการทำกำไร พร้อมกับรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดระดับโลกต่อไป
ปี 2565 พลิกกลับมามีกำไร 4,286 ล้านบาท โต 132%
สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 4/65 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,400 ล้านบาท เติบโต 44% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการบริหารจัดการต้นทุน ประกอบกับปัจจัยของการเปิดประเทศ ทำให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคกลับมาฟื้นตัว
ขณะที่ภาพรวมปี 2565 มีผลการดำเนินงานอยู่ที่ 123,809 ล้านบาท เติบโต 66% พลิกมามีกำไร 4,286.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 132.55% จากปีก่อนที่ขาดทุน 13,166 ล้านบาท
ท่องเที่ยวฟื้น ดัน ‘ไมเนอร์ โฮเทลส์’ โตไม่หยุด
หากเจาะลึกลงมาในแต่ละธุรกิจ เริ่มจาก ‘ไมเนอร์ โฮเทลส์’ มีกำไรสุทธิ 1,900 ล้านบาท เติบโต 57% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 25% จากไตรมาสก่อน
โดยกลุ่มโรงแรมในไทยและมัลดีฟส์ ธุรกิจอนันตรา เวเคชั่น คลับ และเครือร้านอาหารระดับโลกภายใต้กลุ่ม Wolseley Group ในสหราชอาณาจักร เติบโตได้ค่อนข้างดี โดยรายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืนเริ่มฟื้นตัว
สาเหตุหลักมาจากการปรับขึ้นราคาห้องพัก ทำให้รายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืนในเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมาสูงกว่าก่อนโควิด และในไตรมาส 4/65 ไมเนอร์ โฮเทลส์ได้เปิดโรงแรม Anantara Plaza Nice ในฝรั่งเศส และ The Plaza Doha by Anantara ในกาตาร์ และได้นำแบรนด์ HN เข้าสู่ทวีปเอเชียด้วยการเปิดตัว NH Boat Lagoon Phuket Resort ในไทย
ปัจจุบันไมเนอร์ โฮเทลส์ มีโรงแรมทั้งหมด 531 แห่ง และมี 76,996 ห้อง ครอบคลุม 56 ประเทศ
‘ไมเนอร์ ฟู้ด’ เดินหน้าพัฒนาร้านคอนเซปต์ใหม่-นำดิจิทัลบริหารร้าน
ด้านไมเนอร์ ฟู้ด ไตรมาส 4/65 มีกำไร 402 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นถ้าเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลูกค้าเริ่มกลับมาเข้านั่งรับประทานในร้านเพิ่มขึ้น ประกอบกับการปรับตัวของแบรนด์ร้านอาหารที่มุ่งพัฒนาเมนูนวัตกรรมใหม่ๆ เข้าตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค
รวมถึงการขยายสาขาในรูปแบบใหม่ๆ โดยในไตรมาส 4/65 แดรี่ควีนได้นำร่องในการเปิดป๊อปอัพสโตร์ในไทย พร้อมที่นั่งและเมนูพิเศษเฉพาะช่วงเวลา ซึ่งจะช่วยสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ได้กว้างขึ้น ตามด้วยเบอร์เกอร์คิงได้เปิดตัวแฟลกชิปสโตร์ภายใต้แนวคิด Restaurant as a Future ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี โดยมีแผนจะนำไปใช้กับสาขาอื่นๆ ต่อไปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของร้าน
อยู่ระหว่างพิจารณาจ่ายเงินปันผลปี 2565
พร้อมกันนี้ยังให้ความสำคัญกับการลดอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ซึ่งลดลงมาอยู่ที่ 1.17 เท่า ณ สิ้นปี 2565 อีกทั้ง MINT ได้สร้างความแข็งแกร่งให้กับฐานส่วนของผู้ถือหุ้นผ่านการฟื้นตัวของธุรกิจและการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิขณะที่จำนวนหนี้สินส่วนที่มีภาระลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากการชำระคืนเงินกู้ที่มีอยู่ และการหมุนสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ผ่านการขายและเข้าบริหารของโรงแรม Tivoli Coimbra
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะประกาศเสนอจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดสำหรับปี 2565 ในอัตรา 30% ของกำไร จากการดำเนินงานปี 2565 และยังอยู่ระหว่างการพิจารณาจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลอีกครั้งในปี 2566 อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจที่สิ้นสุดดังกล่าวจะต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการและผู้ถือหุ้น
ปัจจุบันไมเนอร์มี 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์
