×

MINT – 4Q65 กำไรตาม INVX คาด แต่ดีกว่าตลาดคาด

24.02.2023
  • LOADING...
MINT

เกิดอะไรขึ้น:

เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) รายงานกำไรสุทธิ 4Q65 จำนวน 1.9 พันล้านบาท หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรปกติอยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 42%YoY และ 18%QoQ เป็นไปตาม InnovestX Research (INVX) คาด แต่ดีกว่าตลาดคาดอยู่ 20% 

 

ทั้งนี้ 4Q65 เป็นไตรมาสที่กำไรแข็งแกร่งที่สุดในปี 2565 แตกต่างจากปกติที่กำไรในไตรมาส 4 มักจะลดลง QoQ ตามฤดูกาล โดยได้รับการสนับสนุนจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของ NH Hotel Group (NHH) และค่าใช้จ่าย SG&A ที่ลดลง กำไรสุทธิปี 2565 อยู่ที่ 4.3 พันล้านบาท หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรปกติอยู่ที่ 2.0 พันล้านบาท ฟื้นตัวจากขาดทุนปกติ 9.3 พันล้านบาทในปี 2564 

 

สำหรับรายการที่สำคัญในผลประกอบการ 4Q65 สรุปได้ดังนี้

 

  1. ธุรกิจโรงแรม (71% ของรายได้) ส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนจาก NHH: NHH รายงานกำไรปกติ 44.7 ล้านยูโร (~1.5 พันล้านบาท, 64% ของกำไรปกติของ MINT) ทรงตัว YoY และลดลงเล็กน้อย 5%QoQ สะท้อนถึงช่วงโลว์ซีซันที่แข็งแกร่งในยุโรป 

 

อัตราการเข้าพักอยู่ที่ 65% ใน 4Q65 (เทียบกับ 70% ใน 3Q65 และ 50% ใน 4Q64) และอัตราค่าห้องพักเฉลี่ย (ARR) อยู่ที่ 128 ยูโรต่อคืน (ลดลง 2%QoQ, สูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิดอยู่ 21%) ส่งผลทำให้รายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPar) อยู่ที่ 83 ยูโรต่อคืน สูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิดอยู่ 10% ทั้งนี้ MINT เปิดเผยว่า RevPar ของโรงแรมในประเทศไทยสูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิดแล้วใน 4Q65

 

  1. ธุรกิจร้านอาหาร (19% ของรายได้) ยอดขายสาขา (SSS) โดยรวมเติบโต 4.4% ใน 4Q65 (เทียบกับลดลง 1.7% ใน 4Q64 และเพิ่มขึ้น 16.6% ใน 3Q65) โดยได้รับการสนับสนุนจากธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทย (SSS เติบโต 4.1%) และออสเตรเลีย (SSS เติบโต 15.1%) อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานในประเทศจีนเป็นจุดอ่อนแอ เพราะ SSS หดตัวลง 26.4% 

 

  1. อัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A ต่อยอดขายลดลงจาก 35.6% ใน 3Q65 สู่ 31.1% ใน 4Q65

 

  1. อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนอยู่ที่ 1.4 เท่า ลดลงจาก 1.5 เท่า (ณ วันที่ 30 กันยายน 2565) 

 

กระทบอย่างไร:

วันนี้ (24 กุมภาพันธ์) ราคาหุ้น MINT ปรับเพิ่มขึ้น 0.73%DoD อยู่ที่ระดับ 34.50 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลดลง 0.78%DoD อยู่ที่ระดับ 1639.65 จุด (ณ 12.30 น.)

 

แนวโน้มผลประกอบการปี 2566 และกลยุทธ์การลงทุน:

InnovestX Research ปรับประมาณการกำไรปกติของ MINT เพิ่มขึ้น 7% ในปี 2566 และ 4% ในปี 2567 โดยคาดการณ์กำไรปกติของที่ 6.3 พันล้านบาทในปี 2566 และคาดว่ากำไรปกติจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิดที่ 7.5 พันล้านบาทในปี 2567 

 

ส่วน 1Q66 คาดว่ากำไรปกติจะปรับตัวดีขึ้น YoY โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจโรงแรมและธุรกิจร้านอาหารที่แข็งแกร่งขึ้น แต่จะลดลง QoQ จากผลกระทบทางฤดูกาลของธุรกิจโรงแรมในยุโรป

 

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน InnovestX Research ให้คำแนะนำ Tactical Call ระยะ 3 เดือนที่ Outperform สำหรับ MINT ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ปรับใหม่เป็น 42 บาทต่อหุ้น (เพิ่มขึ้นจาก 38 บาทต่อหุ้น) อ้างอิงวิธี SOTP

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตาม คือ 

 

  1. ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการเดินทาง
  2. ต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจโรงแรมและธุรกิจร้านอาหาร

 


บทความที่เกี่ยวข้อง


 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X