การได้รับการยอมรับในระดับโลกเป็นเป้าหมายสูงสุดของธุรกิจมากมาย ในเส้นทางสู่ความสำเร็จที่เต็มไปด้วยความท้าทายและอุปสรรค อะไรคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทบางแห่งสามารถก้าวข้ามขีดจำกัด และสร้างชื่อเสียงระดับสากลได้

สำหรับ ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ผู้นำในการดำเนินธุรกิจโรงแรมและธุรกิจร้านอาหาร บริษัทหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการจัดอันดับเป็น World’s Best Companies 2024 บริษัทที่ดีที่สุดของโลก ลำดับที่ 425 จาก 1,000 จากบริษัททั่วโลก และเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย โดยนิตยสาร TIME และ Statista มองว่าไม่ใช่แค่เรื่องผลกำไร แต่เป็นผลมาจากการมุ่งมั่นพัฒนาทั้งในด้านธุรกิจ พนักงาน และสังคมอย่างยั่งยืน

ดิลิป ราชากาเรีย CEO ของไมเนอร์ กล่าวว่า “ความสำเร็จของไมเนอร์ขึ้นอยู่กับการทำให้พนักงานของเราประสบความสำเร็จ และชุมชนที่เราดำเนินธุรกิจอยู่ได้รับประโยชน์จากธุรกิจของเรา”

สร้างความสำเร็จให้กับพนักงาน: หลักการสำคัญที่ทำให้ไมเนอร์เติบโต

ความสำเร็จของพนักงานคือจุดเริ่มต้นความสำเร็จของไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ผ่านมาไมเนอร์มุ่งมั่นสร้างความแข็งแกร่งจากภายในองค์กร ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี และเน้นสนับสนุนการพัฒนาทักษะของพนักงาน เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสเติบโตและพร้อมเผชิญกับความท้าทายในอนาคตอย่างมั่นคงสู่ความสำเร็จในเป้าหมายที่ตั้งไว้

สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นจากผลสำรวจความพึงพอใจของพนักงานแบบไม่ระบุตัวตนกว่า 50 ประเทศ จำนวนรวมกว่า 170,000 คน ทำแบบประเมินบริษัทด้วยตัวชี้วัดที่หลากหลาย เช่น ภาพลักษณ์ บรรยากาศการทำงาน เงินเดือน และความเท่าเทียม ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้คะแนนเป็นอันดับสูง

หนึ่งในตัวอย่างโครงการพัฒนาทักษะของพนักงานและเสริมสร้างศักยภาพให้กับชุมชนท้องถิ่น ได้แก่ โครงการ Minor Corporate University (MCU) เป็นโครงการที่บ่มเพาะและพัฒนาทักษะจำเป็นในอุตสาหกรรมการบริการ ร้านอาหารและร้านค้าให้กับนักศึกษาอาชีวะ โดยมีระยะเวลาในการฝึกอบรม 1-2 ปี ความสำเร็จของโครงการนี้ปรากฏชัดเจนจากการที่ผู้สำเร็จการศึกษากว่าครึ่งหนึ่งกลับมาร่วมงานกับไมเนอร์อีกครั้ง สะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันที่ลึกซึ้งระหว่างพนักงานและองค์กรได้เป็นอย่างดี/

ขยายธุรกิจอย่างยั่งยืน: กลยุทธ์กระจายความเสี่ยงเพื่อก้าวสู่อนาคต

ท่ามกลางการแข่งขันที่เข้มข้นและการเติบโตของผู้เล่นรายใหม่ในตลาด ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ยังเดินหน้าพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนและครอบคลุมหลายมิติ โดยในปี 2566 ไมเนอร์สามารถทำรายได้รวมได้ถึง 4.5 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 21% จากปีก่อนหน้า สะท้อนถึงการเติบโตที่แข็งแกร่ง

การเติบโตนี้ไม่ได้เกิดจากการพึ่งพาธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง แต่เกิดจากการสร้างความหลากหลายและขยายไปในหลายทิศทาง เช่น ไมเนอร์ โฮเทลส์, ไมเนอร์ ฟู้ด, และ ไมเนอร์ ไลฟ์สไตล์ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยกระจายความเสี่ยง แต่ยังเสริมสร้างการเติบโตที่มั่นคงทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ

นอกจากนี้ไมเนอร์ยังคงมุ่งมั่นสร้างนวัตกรรมการผลิตและการบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก ทำให้ไมเนอร์สามารถรักษาฐานลูกค้าเก่าและขยายธุรกิจไปได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

ความรับผิดชอบต่อสังคม: ความสำเร็จที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

การยึดมั่นในแนวทาง ESG (Environmental, Social, and Governance) เป็นหนึ่งในมิติสำคัญที่ผลักดันความสำเร็จของบริษัทในการเติบโตอย่างรับผิดชอบต่อโลกและสังคม

ไมเนอร์มีเป้าหมายบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 พร้อมกับการลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวลงถึง 61% นอกจากนี้ไมเนอร์ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในที่ทำงาน ด้วยการลดอุบัติเหตุจากการทำงานจนถึงระดับศูนย์ ซึ่งเป็นผลสำเร็จในการดูแลพนักงานอย่างจริงจัง

การที่ไมเนอร์ได้รับการจัดอันดับสูงในด้านความโปร่งใสด้านความยั่งยืนจากการ ประเมินของ Statista ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืนในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านสิ่งแวดล้อม การดูแลสังคม หรือการกำกับดูแลกิจการ ที่ไม่เพียงแต่ผลักดันให้ธุรกิจเติบโต แต่ยังขับเคลื่อนการรักษาสิ่งแวดล้อมและสังคมไปพร้อมกันอย่างจริงจัง

การได้รับการยอมรับในระดับโลกอย่างการติดอันดับ ‘World’s Best Companies 2024’ จากนิตยสาร TIME และ Statista ถือเป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จของไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ในเวทีระดับโลก ที่มุ่งมั่นพัฒนาทั้งในด้านการดูแลพนักงาน การขยายธุรกิจอย่างหลากหลาย และความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยกลยุทธ์ที่ยึดมั่นในความเป็นมนุษย์และความยั่งยืน ไมเนอร์ไม่เพียงแค่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอาหารและโรงแรม แต่ยังเป็นต้นแบบของบริษัทที่ต้องการเติบโตควบคู่กับการสร้างคุณค่าทางสังคมและสิ่งแวดล้อม