การที่ไทยซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีตลาดผู้บริโภคที่เติบโตและสดใส และยังคงเผชิญกับการเติบโตของกลุ่มประชากรชนชั้นกลางที่ร่ำรวย ขนาดตลาดอุตสาหกรรมของเล่นและเกมของประเทศไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 8 ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก แซงหน้าตลาดของฮ่องกงและสิงคโปร์
รวมถึงความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนไปตามอารมณ์และวัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลง สร้างให้เกิดช่วงเวลาของโอกาสสำหรับการขยายตลาดอาร์ตทอย
กลายเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ภายใต้กลุ่มธุรกิจ Minor Lifestyle และ POP MART แบรนด์อาร์ตทอย ได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อดำเนินธุรกิจในไทย
“การร่วมทุนกับ POP MART นี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเราในการขยายพอร์ตโฟลิโอ แบรนด์ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการและความชื่นชอบของกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่ง” ไมคา ตามไท (Micah Tamthai) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไมเนอร์ ไลฟ์สไตล์ กล่าว
ขณะที่ มูนดุกอิล (Moon Duk il) ประธานผู้บริหารฝ่ายธุรกิจต่างประเทศของ POP MART เปิดเผยถึงเป้าหมายระยะยาวที่เต็มไปด้วยความหวังของการร่วมทุนในประเทศไทย “เราคาดการณ์ว่าจะเปิดร้านค้าปลีกและร้านป๊อปอัพมากถึง 20 แห่ง พร้อมด้วยตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ (POP MART ROBOSHOP) ประมาณ 50 ตู้ทั่วประเทศไทย แฟลกชิปสโตร์แห่งแรกมีกำหนดเปิดในเดือนกันยายนนี้ ตามด้วยสาขาที่ 2 ในเดือนธันวาคม เรามั่นใจว่าแผนงานเชิงกลยุทธ์นี้จะช่วยให้เราตอบสนองต่อความต้องการของตลาดในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี”
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2561 POP MART ได้ขยายการเข้าถึงตลาดทั่วโลก โดยเน้นที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย การร่วมทุนในประเทศไทยในครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการเติบโตเชิงกลยุทธ์ของบริษัท