×

สธ. เผย วัคซีนล็อตแรกฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าในพื้นที่ระบาดสูง ยึดหลักปลอดภัย-ประสิทธิภาพมากกว่า 50%

โดย THE STANDARD TEAM
22.01.2021
  • LOADING...
สธ. เผย วัคซีนล็อตแรกฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าในพื้นที่ระบาดสูง ยึดหลักปลอดภัย-ประสิทธิภาพมากกว่า 50%

วันนี้ (22 มกราคม) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ กล่าวถึงวัคซีนโควิด-19 ว่า วัคซีนเป็นเครื่องมือเสริมที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมป้องกันโรค ต้องใช้เวลานับเดือนถึงจะเห็นผลในการสร้างภูมิคุ้มกัน ไม่ใช่ 1-2 สัปดาห์ ที่สำคัญวัคซีนไม่ใช่สูตรสำเร็จ ดังนั้นเมื่อฉีดวัคซีนแล้วยังต้องรักษามาตรการป้องกันโรคคือ สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ และเว้นระยะห่าง ขณะนี้วัคซีนโควิด-19 ที่ทั่วโลกยอมรับ เป็นวัคซีนที่ใช้ในภาวะฉุกเฉิน ไม่ใช่ภาวะปกติ มีการขึ้นทะเบียนแล้ว 3 ตัว แต่อนาคตจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการพิจารณานำวัคซีนมาใช้จะต้องมีความปลอดภัยเป็นลำดับแรก ตามด้วยมีประสิทธิภาพที่รับได้ โดยองค์การอนามัยโลกระบุว่า วัคซีนโควิด-19 ต้องมีประสิทธิภาพอย่างน้อย 50% ขึ้นไป

 

นพ.ทวี กล่าวว่า สำหรับราคาวัคซีนยังมีราคาสูง เนื่องจากตลาดเป็นของผู้ขาย แต่จำเป็นต้องซื้อมาให้ประชาชน เบื้องต้นไม่สามารถฉีดให้ทุกคนได้ เป้าหมายคือฉีดให้ได้ 50-70% ของประชากร ยกเว้นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ส่วนภูมิคุ้มกันอยู่ได้นานแค่ไหน ต้องฉีดซ้ำหรือไม่ ครอบคลุมเชื้อดื้อยาหรือไม่ เป็นเรื่องที่จะต้องติดตามต่อไป ส่วนข้อสงสัยว่า ไทยเพิ่งเตรียมพร้อมหรือไม่ ข้อเท็จจริงไทยได้มีการเตรียมพร้อมมานาน แต่มีข้อจำกัดเรื่องการจ่ายเงินหลังจากการจองทันที และไม่คืนเงินหากวิจัยไม่สำเร็จ ทำให้เกิดความติดขัด จนกระทั่งได้รับข้อเสนอจาก AstraZeneca

 

“ในการเลือกโรงงานผลิต มีข้อเสนอโรงงานในไทยและต่างประเทศ แต่ AstraZeneca เลือกบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ ย้ำว่าเขาเป็นผู้เลือกเอง ถ้าเราไม่ดีพอเขาก็จะไม่เลือก แม้เลือกแล้วก็ยังต้องปรับปรุงพัฒนาให้โรงงานผลิตได้ บ่งบอกว่า บริษัทได้เกณฑ์มาตรฐาน เป็นเรื่องที่คนไทยเราน่าจะภาคภูมิใจ เพราะได้รับการรับรองจากเจ้าของวัคซีน ส่วนวัคซีนที่จะนำมาใช้ต้องขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีผู้เชี่ยวชาญพิจารณาเอกสารกว่า 18,000 หน้า เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพ ซึ่งวันนี้ขึ้นทะเบียนได้แล้ว ก่อนใช้ต้องส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจคุณภาพ” นพ.ทวี กล่าว

 

นพ.ทวี กล่าวต่อไปว่า การได้มาซึ่งวัคซีนโควิด-19 นอกจากความรวดเร็วแล้ว ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย ไทยไม่ได้ช้ากว่าประเทศอื่น เพราะหลายประเทศยังไม่ได้ ส่วนผลข้างเคียงที่พบหลังฉีดเป็นเรื่องปกติ ซึ่งจากเดิมที่มีการทดลองในคนหลัก 30,000-40,000 คน อาจยังไม่พบผลข้างเคียง แต่เมื่อนำมาใช้ในคนหลักล้านคนอาจพบผลข้างเคียงที่ไม่เคยพบมาก่อนได้ สำหรับการใช้วัคซีนโควิด-19 ในไทย จะเริ่มใช้ในพื้นที่ที่มีการระบาดรุนแรง เน้นในบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าก่อน ซึ่งการเลือกกลุ่มเป้าหมายแต่ละประเทศมีแนวคิดแตกต่างกันไป ไม่มีใครผิดหรือถูก ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละประเทศ แต่ของไทยฝ่ายการแพทย์เลือกบนพื้นฐานคำนึงถึงประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับคนไทย

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising