วันนี้ (29 มกราคม) นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ประจำวัน ระบุว่า 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ไม่มีผู้ป่วยเพิ่ม ยังยืนยันจำนวนผู้ป่วยจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 14 ราย กลับออกจากโรงพยาบาลแล้ว 5 ราย ส่วนอีก 9 รายยังรักษาอยู่ อาการอยู่ในเกณฑ์ดี ยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่มีการติดเชื้อในประเทศไทย
ส่วนการตรวจวินิจฉัยกลุ่มอาการต้องสงสัยมีทั้งหมด 158 คน โดยวันที่ 28 มกราคมที่ผานมา พบคนเข้าเกณฑ์เพิ่ม 22 คน
ขณะนี้กลับบ้านได้แล้ว 62 คน ส่วนใหญ่ติดเชื้อประเภทอื่น เช่น ไข้หวัดใหญ่
ส่วนสถานการณ์ในจีนยังคงรุนแรงอยู่ มีการเพิ่มจำนวนผู้ป่วยค่อนข้างสูง ทั้งนี้ขอความร่วมมือทุกฝ่ายงดแชร์ข่าวลืออันเป็นเหตุให้ตื่นตระหนก หากมีเหตุสงสัย สามารถโทรได้ที่สายด่วน 1422 โดยขณะนี้มีการจับกุมดำเนินคดีกับผู้เผยแพร่ข่าวปลอมแล้ว 7 ราย
สำหรับการยกระดับมาตรการป้องกัน ขณะนี้เราเจอผู้ป่วยที่มีอาการเข้าเกณฑ์ทุกวัน
ล่าสุด มีการคัดกรองบุคคลที่เดินทางมาจากประเทศจีนทั้งหมด ไม่ได้คัดกรองเฉพาะคนที่เดินทางมาจากมณฑลหูเป่ยเท่านั้น
เพราะหากได้ติดตามข่าวจะพบว่าที่เยอรมนี ตรวจพบผู้ป่วยโคโรนาที่เดินทางมาจากเซี่ยงไฮ้
ดังนั้น การขยายการคัดกรองไปยังผู้เดินทางมาจากจีนทั้งหมดเป็นการยกระดับการเฝ้าระวังที่รัดกุมที่สุด
นพ.ธนรักษ์ ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีการติดเชื้อในประเทศไทย
ส่วนผู้ป่วย 6 คนที่พบชุดล่าสุดได้รับเชื้อจากประเทศจีน หรือมีการแพร่เชื้อกันระหว่างอยู่ในประเทศไทยนั้น ยืนยันว่าผู้ป่วยไม่น่าจะติดเชื้อกันในประเทศไทย
เพราะผู้ป่วยคนแรกเราเจอที่สนามบิน และแยกคนนี้ออกมา โดยหลักการคนที่เหลือก็ไม่น่าจะติดเชื้อจากคนนี้ในประเทศไทย
แต่ถ้าเขาติดเชื้อพร้อมกันเลย แล้วมีคนหนึ่งป่วยก่อน หรือมีคนหนึ่งป่วยก่อนแล้วแพร่เชื้อให้คนที่เหลืออาจจะเป็นบนเครื่องบิน หรือที่บ้านเขาเลยอันนี้เราตอบไม่ได้ เพราะเวลาที่เกิดอาการค่อนข้างใกล้เคียงกันมาก
อย่างไรก็ตาม แม้คนจีนกลุ่มนี้จะได้รับเชื้อ และเข้ามาใช้ชีวิตในประเทศไทยแล้ว แต่การแพร่เชื้อในช่วงที่ยังไม่มีอาการนั้นไม่มีประสิทธิภาพสูง และเมื่อเขามีอาการเราก็เอาเข้ามารักษาไว้ทั้งหมดทันที
นักข่าวถามด้วยว่าในทางการแพทย์ การควบคุมโรคที่ดีที่สุดจำเป็นต้องปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยหรือไม่
นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า “ตอนนี้มีการแพร่ระบาดอยู่ในจีน ญี่ปุ่น และเยอรมนี ไม่แน่ใจว่าเราจะให้ปิดทั้ง 3 ประเทศเลยหรือไม่ แล้วเดี๋ยวถ้ามีประเทศที่ 4 จะปิดอีกหรือไม่
“ขอเรียนว่าเวลาที่เราจัดการชั่งน้ำหนักระหว่างประโยชน์ที่ได้รับ ความเสี่ยงที่เกิดขึ้น และวิธีการที่จะลดผลกระทบจากมันได้ ด้วยวิธีคิดในปัจจุบันที่เรามีความจำเป็นต้องใช้ชีวิตประจำวันแบบที่เป็นอยู่ องค์การอนามัยโลกมักจะพูดเสมอว่า การจำกัดการค้า และการเดินทางเป็นสิ่งที่ไม่แนะนำ”
ด้าน นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กล่าวเสริมว่า การจำกัดการค้า การเดินทาง ต้องมองในมุมองค์การอนามัยโลก หรือว่ากฎอนามัยโลก ในอดีตเคยมีเหตุการณ์คล้ายครั้งนี้มาแล้ว เช่น อีโบลา เมอร์ส ซึ่งรุนแรงกว่าครั้งนี้อีก แต่ก็ไม่เคยมีการใช้มาตรการจำกัดการเดินทาง เนื่องจากว่าเป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชนด้วย และการใช้มาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อมิติอื่นๆ ทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศด้วย
นักข่าวถามว่ากระทรวงสาธารณสุขได้ประเมินสถานการณ์ไว้ถึงขั้นไหน
นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า “เราได้ประเมินสถานการณ์ไว้ กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมความพร้อมไปถึงระดับที่เกิดสถานการณ์เลวร้ายที่สุด
“ตอนนี้สิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่คือ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ ถามว่าสถานการณ์จากตรงนี้มันจะไปตรงไหนได้ สถานการณ์อาจจะคล้ายญี่ปุ่น คือพบว่ามีผู้ป่วยบางคน ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศเริ่มมีอาการป่วย ซึ่งเป็นการเริ่มมี Local Transmission เราเรียกว่ามีการแพร่ระบาดในวงจำกัดในประเทศ ถ้ามากกว่านั้นก็เริ่มมีการแพร่ระบาดในวงกว้างขึ้น แต่ยังคงมีพื้นที่ในจังหวัดเดียวกัน ซึ่งตอนนี้เรากำลังเตรียมรับมือไปถึงจุดนั้น” นพ.ธนรักษ์ กล่าว
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
