×

สธ. ยืนยันพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 1 ราย เป็นหญิงไทยอายุ 22 ปี

โดย THE STANDARD TEAM
02.03.2020
  • LOADING...

วันนี้ (2 มีนาคม) นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค และคณะแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 

 

โดยระบุว่า วันนี้มีผู้ป่วยยืนยันกลับบ้านเพิ่ม 1 ราย เป็นหญิงไทยอายุ 43 ปี จากโรงพยาบาลราชวิถี (กลับจากญี่ปุ่น) ขณะที่ได้รับการยืนยันพบผู้ป่วยเพิ่ม 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 22 ปี มีอาชีพดูแลนักท่องเที่ยว เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยซึ่งเป็นชายไทย ประกอบอาชีพพนักงานขับรถให้นักท่องเที่ยว และได้รับการยืนยันว่าเป็นผู้ป่วยรายที่ 37 ไปก่อนหน้านี้ 

 

ทำให้ขณะนี้ ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรักษาในโรงพยาบาล 11 ราย กลับบ้านแล้ว 31 ราย เสียชีวิต 1 รายรวมสะสม 43 ราย

 

ทั้งนี้ เพื่อให้การเฝ้าระวังคัดกรองการติดเชื้อในชุมชน มีความครอบคลุมมากขึ้น กระทรวงสาธารณสุขได้ปรับนิยามผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสอบสวนโรค โดย ขยายเกณฑ์การเฝ้าระวังในการป่วยเป็นกลุ่มก้อน (Cluster) ของผู้มีอาการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจจำนวน 5 คนขึ้นไป โดยพบผู้ป่วยในสถานที่แห่งเดียวกัน ในช่วงสัปดาห์เดียวกัน เป็นการยกระดับความไวในการตรวจจับการติดเชื้อในชุมชน ในส่วนการเฝ้าระวังในสถานพยาบาล หากพบผู้ป่วยโรคปอดอักเสบ รักษาแล้วอาการไม่ดีขึ้น, หาสาเหตุไม่ได้, มีอาการรุนแรงหรือเสียชีวิตโดยหาสาเหตุไม่ได้ จะทำการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19

 

นอกจากนี้ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ได้ตั้งคณะกรรมการด้านวิชาการตาม พ.ร.บ. โรคติดต่อ 2558 จำนวน 8 ท่าน เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2562 โดยมีหน้าที่และอำนาจให้คำแนะนำแก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในการประกาศพื้นที่เขตติดโรค และให้คำแนะนำแก่อธิบดีกรมควบคุมโรค ในการประกาศโรคระบาด ให้คำแนะนำแก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขหรืออธิบดีกรมควบคุมโรค ในการประกาศยกเลิก เมื่อสภาวการณ์ของโรคสงบลงหรือมีเหตุอันควร และปฏิบัติการอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย

  

อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขได้ประชุมทางไกลกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั่วประเทศ ซักซ้อมแผนรองรับ สถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 เตรียมความพร้อม ทำความเข้าใจแนวทางการดำเนินงานระดับพื้นที่ ให้ทุกจังหวัดปรับใช้ขั้นตอนการปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสม เพิ่มทักษะบุคลากรในระบบบัญชาการเหตุการณ์และบุคลากรผู้ปฏิบัติการ โดยมีแนวทาง ดังนี้ 

 

1.ดำเนินการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อ ทั้งในและช่องทางเข้าออก ระหว่างประเทศตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 อย่างเคร่งครัด 

2.ปฏิบัติตามแนวทางการวินิจฉัย การดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาลกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามที่กรมการแพทย์และคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญกำหนดอย่างเคร่งครัด รวมทั้งประสานการปฏิบัติหน่วยบริการสาธารณสุทุกหน่วยงานในพื้นที่ทั้งภาครัฐและเอกชน ให้เกิดการบูรณาการด้านการรักษา เพื่อประสิทธิภาพการรักษาสูงสุด

3.บริหารจัดการทรัพยากรที่จำเป็น 18 รายการ ทั้งในระดับจังหวัดและเขตสุขภาพ โดยประสานการปฏิบัติกับศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ให้พร้อมใช้คุ้มค่า และความปลอดภัยสูงสุดของผู้ปฏิบัติงาน

4.กรณีประชาชนเดินทางกลับมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงตามที่กรมควบคุมโรคกำหนด และสถานที่ที่มีการจัดกิจกรรมที่มีการรวมกันของประชาชนจำนวนมาก ขอให้ดำเนินการตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด

5.เน้นมาตรการ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ใช้หน้ากากผ้า การทำความสะอาดจุดสัมผัสต่างๆ ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง สื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ โดยการมีส่วนร่วมของ อสม. และภาคประชาชน 

6.ประชุมและสั่งการในระดับจังหวัดและระดับเขตอย่างต่อเนื่อง ยกระดับการปฏิบัติงาน โดยใช้กลไกคณะกรรมการโรคติดต่อระดับจังหวัด และเตรียมพร้อมกรณีหากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีการแพร่กระจายในวงกว้าง ตั้งเป้าให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจ และสามารถเตรียมความพร้อมเพื่อตอบโต้สถานการณ์ จัดการอุปสรรคและสร้างเครือข่ายความร่วมมือทั้งภายในและภายนอกกระทรวง

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising